Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

84

Market Wrap-Up

·      SET วันที่ 14 ส.ค.68 ปิด -10.76 จุด อยู่ที่ 1,266.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,938 ลบ. สถาบันขาย 2,546 ลบ.  ต่างชาติขาย 549 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 157 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2.938 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 814 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KTB,TRUE,BH,TFG,BLA และยอดขายหุ้น BDMS,BBL,GULF,ADVANC,DELTA มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,277 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CPAXT,BCH,PTTGC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 228 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 112,708 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,908 ลบ.

·      ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.02%, S&P500 +0.03%, Nasdaq -0.01% จากแรงขายกลุ่มอุตสาหกรรม -0.88%, วัสดุ -0.81% ขณะที่กลุ่มการเงิน +0.55%, บริการสุขภาพ +0.5% หลังข้อมูล US PPI ก.ค. สูงกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนยังไม่แน่ใจต่อการลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.55% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอวกาศยาน & ป้องกันประเทศ +2.2% และกลุ่มประกัน +0.9%

·       Market View

·      ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ทรงตัว หลังข้อมูล US PPI  ก.ค.อยู่ที่ 3.3% & มิ.ย. 2.4% & คาด 2.5% YoY และ US Core PPI ก.ค.อยู่ที่ 3.7% & มิ.ย. 2.6% & คาด 2.9% YoY บ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิตปรับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ม.ภาษีของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม CME FedWatch ยังชี้มีโอกาส 92.1% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. สาเหตุมาจากตลาดแรงงานที่สัญญาณชะลอตัว ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม ก.ค.,  Fed NY รายงานดัชนีภาคการผลิต ส.ค., ม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น ส.ค. และผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูติน เพื่อทำข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน

·      Stoxx600 ยุโรปวานนี้ +0.55% ได้แรงหนุนจากกลุ่มป้องกันประเทศ +2.2% จากคาดการณ์ยุโรปยังจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น GDP อังกฤษ Q2/68 +1.2% & Q1/68 +1.3% แต่ดีกว่าคาด +1.0 YoY และ GDP ยูโรโซน Q2/68 +1.4% & Q1/68 +1.5% YoY โดยนักลงทุนรอผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูตินในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อทำข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน

·      ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -1.45% ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มส่งออก หลังค่าเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐเผย BOJ ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.46% ถูกแรงขายทำกำไร หลังได้ปรับขึ้นรับข่าว ม.อุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับภาคประชาชน และรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีนในช่วง 2 – 3 เดือนข้างหน้า  ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ GDP ญี่ปุ่น Q2/68 +1.0% & Q1/68 +0.6% สูงกว่าคาด +0.4% YoY และรอข้อเศรษฐกิจจีน เช่น ยอดปล่อยสินเชื่อ, ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุต ฯ, ราคาบ้าน, อัตราว่างงาน ก.ค.

·      SET วานนี้ -0.84% ปริมาณการซื้อขาย 5.6 หมื่น ลบ.สถาบันขาย 2,546 ลบ. ต่างชาติขาย 549 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 157 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,938 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงชายทำกำไรจากกลุ่ม รพ., ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิสต์ หลังดัชนี SET ปรับขึ้น +22.0% จากจุดต่ำสุด มิ.ย. ที่ผ่านมา ตอบรับปัจจัยบวกต่าง ๆ เช่น ความชัดเจนของภาษีศุลกากรของสหรัฐ, ปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชาที่ลดลง และ กนง.ได้ปรับลดดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ Upside ของ SET เริ่มจำกัด โดยปัจจุบันดัชนีเทรดที่ F/PE ที่ 14.5 เท่า สูงขึ้นกว่าเดิมเทรดที่ 13.0 เท่า โดยนักลงทุนยังรอการรายงานกำไร Q2/68 ของ บจ.ต่าง ๆ ซึ่ง บจ.ที่ส่งงบแล้วมีกำไรดีกว่า BB.Consensus +10% จากกำไรกลุ่มธนาคาร, ปิโตรเคมี, โรงไฟฟ้า และอาหาร & เครื่องดื่มที่ดีกว่าคาด ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 69 วาระ 2 – 3, การรายงานงบ บจ.ต่างๆ และวันจันทร์ สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q2/68 คาด +2.5% & Q1/68 +3.1% YoY        

Daily Strategy

·     ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,250 – 1,260 แนวต้าน 1,270 – 1,280 คาดดัชนีทรงตัวรอการรายงานกำไรของ บจ.ต่างๆ และวันจันทร์สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q2/68 รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในงวด 2H/68  และผกระทบจาก ม.ภาษีของสหรัฐ แนะนำซื้อเก็งกำไร CPF,ICHI,CK,TOA ที่รายงานกำไร Q2/68 ดีกว่าคาด

·       EPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.35 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด 1Q68/69 (เม.ย.-มิ.ย.) อยู่ที่ 267 ล้านบาท +8%QoQ, +5%YoY หากตัดรายการขาดทุน FX และตั้งสำรอง ECL ออกกำไรปกติอยู่ที่ 344 ล้านบาท +18%QoQ มีปัจจัยหนุนจากรายได้ธุรกิจ Aeroklas ที่เติบโตสวนทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเพราะได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ประกอบกับรายได้ที่ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น จึงทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีคาดทยอยดีขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยธุรกิจ Aeroflex (insulator) ที่สะดุดไปใน 1Q68/69 จากบาทแข็งจะกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ มีความต้องการสูงในงานโครงการ โดยมีการย้ายวัตถุดิบไปผลิตในสหรัฐฯ และปรับขึ้นราคาขายตามคู่แข่ง นอกจากนี้ในทางบัญชีน่าจะไม่มีการตั้งสำรอง ECL อีก ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68/69 ที่ 1.05 พันล้านบาท +32%YoY ด้วย valuation ไม่แพง PER’68/69 ที่ 7.6 เท่า

·       CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 29.00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 10,377 ลบ.(+50%YoY, +21%QoQ) สูงกว่าBloomberg Consensus(9,841ลบ., +5%) ปัจจัยหนุนกำไรหลักๆมาจากราคาขายสุกรในไทยและภูมิภาค(เวียดนาม ,ฟิลิปปินส์, กัมพูชา) โดย ราคาสุกรไทย 2Q68 อยู่ที่ 87.2 บาท/กก. +29%YoY +10%QoQ ปรับตัวสูงขึ้นตอบรับ Supply ที่หายไปจากโรคระบาดสุกรในช่วงปีก่อน นอกจากนี้ต้นทุนอาหารสัตว์เองก็อยู่ในโซนต่ำ ส่งผลให้ GPM ไตรมาสนี้ +YoY +QoQ อยู่ที่ 19.79% ทั้งนี้ CPF ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield จากราคาหุ้น 24.20 บาท ที่ 4.13% จะ XD ในวันที่ 29ส.ค.68

 

Market Wrap-Up

·      SET วันที่ 14 ส.ค.68 ปิด -10.76 จุด อยู่ที่ 1,266.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,938 ลบ. สถาบันขาย 2,546 ลบ.  ต่างชาติขาย 549 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 157 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2.938 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 814 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KTB,TRUE,BH,TFG,BLA และยอดขายหุ้น BDMS,BBL,GULF,ADVANC,DELTA มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,277 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CPAXT,BCH,PTTGC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 228 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 112,708 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,908 ลบ.

·      ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.02%, S&P500 +0.03%, Nasdaq -0.01% จากแรงขายกลุ่มอุตสาหกรรม -0.88%, วัสดุ -0.81% ขณะที่กลุ่มการเงิน +0.55%, บริการสุขภาพ +0.5% หลังข้อมูล US PPI ก.ค. สูงกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนยังไม่แน่ใจต่อการลดดอกเบี้ยใน ก.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.55% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอวกาศยาน & ป้องกันประเทศ +2.2% และกลุ่มประกัน +0.9%

·       Market View

·      ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ทรงตัว หลังข้อมูล US PPI  ก.ค.อยู่ที่ 3.3% & มิ.ย. 2.4% & คาด 2.5% YoY และ US Core PPI ก.ค.อยู่ที่ 3.7% & มิ.ย. 2.6% & คาด 2.9% YoY บ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิตปรับสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก ม.ภาษีของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม CME FedWatch ยังชี้มีโอกาส 92.1% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย. สาเหตุมาจากตลาดแรงงานที่สัญญาณชะลอตัว ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม ก.ค.,  Fed NY รายงานดัชนีภาคการผลิต ส.ค., ม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น ส.ค. และผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูติน เพื่อทำข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน

·      Stoxx600 ยุโรปวานนี้ +0.55% ได้แรงหนุนจากกลุ่มป้องกันประเทศ +2.2% จากคาดการณ์ยุโรปยังจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น GDP อังกฤษ Q2/68 +1.2% & Q1/68 +1.3% แต่ดีกว่าคาด +1.0 YoY และ GDP ยูโรโซน Q2/68 +1.4% & Q1/68 +1.5% YoY โดยนักลงทุนรอผลการเจรจาระหว่าง ปธน.ทรัมป์ & ปูตินในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อทำข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน

·      ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -1.45% ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มส่งออก หลังค่าเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐเผย BOJ ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.46% ถูกแรงขายทำกำไร หลังได้ปรับขึ้นรับข่าว ม.อุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับภาคประชาชน และรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีนในช่วง 2 – 3 เดือนข้างหน้า  ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ GDP ญี่ปุ่น Q2/68 +1.0% & Q1/68 +0.6% สูงกว่าคาด +0.4% YoY และรอข้อเศรษฐกิจจีน เช่น ยอดปล่อยสินเชื่อ, ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุต ฯ, ราคาบ้าน, อัตราว่างงาน ก.ค.

·      SET วานนี้ -0.84% ปริมาณการซื้อขาย 5.6 หมื่น ลบ.สถาบันขาย 2,546 ลบ. ต่างชาติขาย 549 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 157 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,938 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงชายทำกำไรจากกลุ่ม รพ., ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิสต์ หลังดัชนี SET ปรับขึ้น +22.0% จากจุดต่ำสุด มิ.ย. ที่ผ่านมา ตอบรับปัจจัยบวกต่าง ๆ เช่น ความชัดเจนของภาษีศุลกากรของสหรัฐ, ปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชาที่ลดลง และ กนง.ได้ปรับลดดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ Upside ของ SET เริ่มจำกัด โดยปัจจุบันดัชนีเทรดที่ F/PE ที่ 14.5 เท่า สูงขึ้นกว่าเดิมเทรดที่ 13.0 เท่า โดยนักลงทุนยังรอการรายงานกำไร Q2/68 ของ บจ.ต่าง ๆ ซึ่ง บจ.ที่ส่งงบแล้วมีกำไรดีกว่า BB.Consensus +10% จากกำไรกลุ่มธนาคาร, ปิโตรเคมี, โรงไฟฟ้า และอาหาร & เครื่องดื่มที่ดีกว่าคาด ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 69 วาระ 2 – 3, การรายงานงบ บจ.ต่างๆ และวันจันทร์ สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q2/68 คาด +2.5% & Q1/68 +3.1% YoY        

Daily Strategy

·     ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,250 – 1,260 แนวต้าน 1,270 – 1,280 คาดดัชนีทรงตัวรอการรายงานกำไรของ บจ.ต่างๆ และวันจันทร์สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q2/68 รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในงวด 2H/68  และผกระทบจาก ม.ภาษีของสหรัฐ แนะนำซื้อเก็งกำไร CPF,ICHI,CK,TOA ที่รายงานกำไร Q2/68 ดีกว่าคาด

·       EPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.35 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด 1Q68/69 (เม.ย.-มิ.ย.) อยู่ที่ 267 ล้านบาท +8%QoQ, +5%YoY หากตัดรายการขาดทุน FX และตั้งสำรอง ECL ออกกำไรปกติอยู่ที่ 344 ล้านบาท +18%QoQ มีปัจจัยหนุนจากรายได้ธุรกิจ Aeroklas ที่เติบโตสวนทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเพราะได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ประกอบกับรายได้ที่ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น จึงทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้น แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีคาดทยอยดีขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยธุรกิจ Aeroflex (insulator) ที่สะดุดไปใน 1Q68/69 จากบาทแข็งจะกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ มีความต้องการสูงในงานโครงการ โดยมีการย้ายวัตถุดิบไปผลิตในสหรัฐฯ และปรับขึ้นราคาขายตามคู่แข่ง นอกจากนี้ในทางบัญชีน่าจะไม่มีการตั้งสำรอง ECL อีก ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68/69 ที่ 1.05 พันล้านบาท +32%YoY ด้วย valuation ไม่แพง PER’68/69 ที่ 7.6 เท่า

·       CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 29.00 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 10,377 ลบ.(+50%YoY, +21%QoQ) สูงกว่าBloomberg Consensus(9,841ลบ., +5%) ปัจจัยหนุนกำไรหลักๆมาจากราคาขายสุกรในไทยและภูมิภาค(เวียดนาม ,ฟิลิปปินส์, กัมพูชา) โดย ราคาสุกรไทย 2Q68 อยู่ที่ 87.2 บาท/กก. +29%YoY +10%QoQ ปรับตัวสูงขึ้นตอบรับ Supply ที่หายไปจากโรคระบาดสุกรในช่วงปีก่อน นอกจากนี้ต้นทุนอาหารสัตว์เองก็อยู่ในโซนต่ำ ส่งผลให้ GPM ไตรมาสนี้ +YoY +QoQ อยู่ที่ 19.79% ทั้งนี้ CPF ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield จากราคาหุ้น 24.20 บาท ที่ 4.13% จะ XD ในวันที่ 29ส.ค.68

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio August 2025: KLINIQ, PR9*, IVL*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

กาแฟพันธุ์ไทย หนุนบริจาคเลือดช่วยชายแดน มอบเครื่องดื่มฟรีตลอดเดือนสิงหาคมนี้

กาแฟพันธุ์ไทย หนุนบริจาคเลือดช่วยชายแดน มอบเครื่องดื่มฟรีตลอดเดือนสิงหาคมนี้

ลง ซื้อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เมื่อ บจ.แจ้งงบการเงินไตรมาส2 ครึ่งปีแรกปีนี้ ออกมากันแล้ว ตอนนี้ รอวันเวลา ราคาหุ้นปรับตัวลง ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้