ภาวะตลาด : SET Index วันศุกร์ ปิดที่ 1259.07 ลดลง -6.08 จุด (-0.48%) มูลค่าซื้อขาย 5.1 หมื่นลบ. โดยมีแรงขายก่อนหยุดยาวเนื่องในวันแม่แห่งชาติ แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นใหญ่ เช่น THAI, KTB, SCB, BBL, KBANK ช่วยพยุง สถาบันในปท.ขายสุทธิ -1.9 พันลบ. ส่วนต่างชาติซื้อสุทธิ +106 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ-จีน: ตกลงขยายเวลาเจรจาการค้าออกไปถึง 10 พ.ย.68...เป็นสัญญาณบวกต่อตลาดโลก โดยมีแนวโน้มว่าสองประเทศจะลดความตึงเครียดทางการค้าลงและมีโอกาสร่วมมือกับในบางภาคส่วนมากขึ้น เช่น เทคโนโลยี การลงทุน เป็นต้น
• สหรัฐ: เงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ค.68 ทรงตัวที่ 2.7% เป็นไปตามตลาดคาด ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้นเป็น 3.1% จาก 2.9% เดือนมิ.ย. นักลงทุนประเมินมีโอกาส 98% ที่เฟดจะลดด/บในการประชุมเดือนก.ย.นี้...ติดตามดัชนี PPI และยอดค้าปลีกเดือนก.ค.และ CCI เดือนส.ค. (มิชิแกน)
• ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนมาที่ 98.03 เงินบาทอยู่ที่ 32.3-32.4 บาท/ดอลลาร์ สัญญาทองคา ส่งมอบธ.ค.ลดลง -5.7 US$ เป็น 3,399 US$/ออนซ์ ส่วน US bond yield 10 ปีขยับขึ้นเป็น 4.29% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) อ่อนสู่ 111.7 ดัชนี Baltic Dry Index ลดมาที่ 2,017 (high อยู่ที่ 2258) ด้านสัญญาน้ำมันดิบลดสู่ 63-66 US$/bbl ติดตามรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในวันนี้

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ประชุมกนง.วันนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของผู้ว่าการธปท.คนปัจจุบัน คือ นายเศรษฐพุฒิ เนื่องจากจะหมดวาระสิ้นก.ย.25 ขณะที่การประชุมกนง.ครั้งถัดไปเป็นวันที่ 8 ต.ค.25 ซึ่งผู้ว่าการธปท.คนใหม่ คือ นายวิทัย จะเข้าประชุมหลังรับตำแหน่ง 1 ต.ค.นี้... ความเห็นของตลาด mix โดยมีทั้งที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% (จากปัจจุบันที่ 1.75%) และคงดอกเบี้ย
• ไทย: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ม.ค.-10 ส.ค.68 อยู่ที่ 20.2 ล้านคน ลดลง -6.9% YoY…ภาพรวมทั้งปี 25 คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทรงตัว YoY ที่ประมาณ 35 ล้านคน เราให้น้ำหนักลงทุน Neutral กลุ่มท่องเที่ยว หุ้นเด่นเป็น CENTEL
• การเมืองไทย: สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา, การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 (สส.นัดถกวาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค.นี้) และผลตัดสินศาลรัฐธรรมนูญกรณีคลิปเสียงแพทองธาร-ฮุนเซน (มีกระแสข่าวว่านายกฯแพทองธารอาจลาออก ซึ่งพท.ปฎิเสธข่าว แต่ตลาดมองว่ามีโอกาสเกิดขึ้น)
• GULF: กำไรหลัก 2Q25 ตามคาดที่ 7.1 พันลบ.เพิ่ม +27%YoY จากการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้า และส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC สำหรับกำไรสุทธิไตรมาสนี้อยู่ที่ 6.3 หม่นื ลบ.เพราะมีกำไรพิเศษจากควบรวมกับ INTUCH กว่า 5.6 หมื่นลบ. ฝ่ายบริหารมั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า +25%YoY

กลยุทธ์ : มีพักฐานแต่ยังไม่หลุดแนวฟิวเตอร์ที่ 1235 ดัชนีมีอ่อนตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน แต่ดัชนียังไม่หลุดเส้น SMA10 และแนวฟิวเตอร์ของเราที่ 1235 จึงยังมองเป็นการพักฐานหลังปรับขึ้นแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ระยะสั้นให้แนวรับไว้ที่ 1255-1250, 1240-1235 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1265-1270, 1280- 1290, 1300 ตามลำดับ

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : AMATA – ยอดขาย-ยอดโอน-กำไรใน 2H25F ดีขึ้น HoH กาไรสุทธิ 2Q25 ลดลง -40%YoY, -83%QoQ เป็น 140 ลบ.จากรายการพิเศษ คือ 1) ภาษีจ่ายส่วนเพิ่ม 113 ลบ.จากการขายเงินลงทุนและ 2) ขาดทุน FX 112 ลบ. แต่กำไรหลักโต +41% YoY เป็น 365 ลบ. ตามคาด...ผู้บริหารระบุจะโอนรับรู้รายได้ใน 2H25F มากขึ้นเทียบ HoH เนื่องจากใน 1H25 มีโอนล่าช้าเพราะมีประเด็นเรื่องการแบ่งโฉนด ส่วนการขายที่ดินในปี 2025F เราประเมินไว้ที่ 1,800 ไร่ โดยยอดขายเร่งตัวขึ้นใน 2H25F (ใน 1H25 ขายได้ 748 ไร่) หลังอัตราภาษีทรัมป์ ชัดเจนขึ้น โดยไทยอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับภูมิภาค คงคำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 22.80 บาท (ซึ่งมีส่วนลด 40% จาก RNAV)

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829