คาด SET Index ปรับตัวขึ้นต่อ : แรงหนุนจากความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปี และลุ้น ครม. เคาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2หากแต่ถูกลดทอนลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง และการรอดูสถานการณ์การเมืองไทย และความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
แนวรับ-ต้าน
1,225-1,240
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 2Q68 : ADVANC, AP, BCH, BDMS,GULF , LH, PR 9 , TIDLOR
2) หวัง กนง. ลดอัตราดอกเบี้ย AMATA, BEM, KTC, MTC, SIRI, SPALI, TRUE, WHA
3) Anti comm. : BGRIM, GPSC, SCGP, TASCO ,TOA
4) Dividend play : KKP, SAT, TISCO
หวังเฟดลดดอกเบี้ย+ครม.กระตุ้นเศรษฐกิจ
หวังเฟดลดอัตราดอกเบี้ยช่วยเศรษฐกิจ : คาด Sentiment เชิงบวกมาจากมุมมองของนักลงทุนที่กลับเข้าสู่โหมด Risk on หลังในวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้ตอบรับทางลบต่อตัวเลขแรงงานเดือนก.ค.68 ที่อ่อนแอของสหรัฐฯไปในระดับหนึ่งแล้ว สอดรับกับ Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้น 1.34% 1.47% และ 1.95% ตามลำดับ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด สอดรับกับ Bloomberg ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2-3 เปลี่ยนแปลงจากเดิม ก่อนการรายงานตัวเลขแรงงานเดือนก.ค.68 ที่ให้น้ำหนักว่าจะลดเพียง 1 ครั้ง พร้อมคาดว่าในเดือนก.ย.68 เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนข้างต้น
ลุ้น ครม. เคาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 : คาด SET Index มีแนวโน้มได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการประชุม ครม. วันนี้ หลัง ก.คลัง จะเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงินรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากวงเงินรายการกระตุ้นเศรษฐกิจปีงบฯ2568 ที่เหลืออยู่ประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท โดยมีโครงการสำคัญ อาทิ การอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท และอนุมัติให้กับกองทุนเพื่อกู้ยืมเพื่อการศึกษาประมาณ 8 พันล้านบาทเศษ
น้ำมันกดดัน+จับตามการเมืองและชายแดนไทย : อย่างไรก็ตาม มองทางขึ้นจำกัด โดยคาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 1.5% ปิดที่ $66.29 ต่อบาร์เรล โดยยังคงถูกกดดันจากความกังวลภาวะอุปทานล้นตลาด หลัง OPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิต 5.47 แสนบาร์เรล/วัน สำหรับเดือนก.ย.68 นอกจากนี้ คาดนักลงทุนยังเปิดรับความเสี่ยงอย่างจำกัด เนื่องจากยังรอติดตาม 1) พัฒนาการของการเมืองไทย หลังวานนี้เลขาธิการนายกฯเผยว่าได้ส่งคำชี้แจงของนายกฯกรณีคลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับปธ.วุฒิสภากัมพูชาให้ศาลรธน.แล้ว และ 2) สถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งวันนี้จะเข้าสู่วันที่ 2
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) สสว. เตรียมนโยบายใหม่ในการช่วยเหลือ SME ในรูปแบบซอฟต์โลนอัตรา 1% ต่อปี เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรองรับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีและผลกระทบทางเศรษฐกิจผ่านกองทุน สสว. รวมวงเงิน 2,700 ล้านบาท
(+) BOI เปิดตัวสิทธิประโยชน์ เครดิตภาษี( เพื่อดึงดูดการลงทุนท่ามกลางกติกา Global minimum tax พร้อมออกมาตรการ Matching fund หนุนสตาร์ตอัปเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตฯเป้าหมาย เสริมศักยภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
(+) นายกฯญี่ปุ่นเผยว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาจัดทางบประมาณเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากกำแพงภาษีของสหรัฐฯ
(-) ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ค.68 ลดลงมาอยู่ที่ 45.8 จากระดับ 48.6 ในเดือนมิ.ย.68 ตามการลดลงในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านการผลิตและผลประกอบการ
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์