Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ผ่อนบ้านไม่ไหว อย่าเพิ่งยอมแพ้! ทางรอดยังมี อ่านก่อนบ้านหลุดมือ

63

 สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (4 สิงหาคม 2568 )-----6 ทางออกสำหรับคนมีบ้าน ที่ไม่อยากเสียทั้งทรัพย์และเครดิตบ้านคือฝันของใครหลายคน แต่เมื่อความฝันมาพร้อมหนี้ก้อนโต การผ่อนบ้านอาจกลายเป็นภาระที่หนักหนากว่าที่คิด โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่แน่นอน หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันในชีวิต หลายคนจึงต้องเผชิญกับคำถามสำคัญว่า "ถ้าผ่อนบ้านไม่ไหว จะทำยังไงดี?"แม้จะฟังดูน่ากลัว แต่การเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติ ยอมรับสถานการณ์ และลงมือแก้ไขอย่างถูกวิธี คือจุดเริ่มต้นของทางรอดที่เป็นไปได้จริง บทความนี้จะพาไปดูทางเลือกต่างๆ สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญภาระผ่อนบ้านไม่ไหว พร้อมคำแนะนำที่ทำได้จริง และควรรีบทำก่อนบ้านจะหลุดมือไปตลอดกาล

ผ่อนไม่ไหว อย่าปล่อยให้ยึด


    หลายคนเข้าใจผิดว่า หากปล่อยให้ธนาคารมายึดบ้าน ทุกอย่างจะจบลงไปเอง แต่ความจริงคือ "ปัญหาจะเริ่มต้น" เมื่อบ้านถูกขายทอดตลาดในราคาต่ำ และธนาคารยังสามารถเรียกเก็บค่าส่วนต่างที่ขาดไปจากผู้กู้ได้ หากผู้กู้ไม่มีเงินชำระเพิ่ม อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หรือถึงขั้นถูกฟ้องล้มละลาย ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือชื่อจะถูกบันทึกในเครดิตบูโรว่าเป็นลูกหนี้ที่ผิดนัด ทำให้อนาคตทางการเงินพังทลายอย่างรุนแรง ดังนั้น สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดเมื่อรู้ว่าผ่อนไม่ไหว คือ "นิ่งเฉย"


ตั้งหลักให้มั่น แล้วเริ่มลงมือ


วิธีที่ดีที่สุดคือการรีบติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ให้กู้โดยตรง อย่ารอจนเกิดการค้างชำระ เพราะธนาคารหลายแห่งมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาผ่อน หรือชะลอการชำระชั่วคราวในบางกรณี การแสดงความตั้งใจที่จะชำระหนี้ แม้จะมีอุปสรรคทางการเงิน จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวผู้กู้ และเป็นทางออกที่ดีกว่าการปล่อยให้กลายเป็นหนี้เสีย


แต่หากรายรับกับรายจ่ายยังไม่สมดุล การมองหาทางเลือกอื่น เช่น การรีไฟแนนซ์ หรือขายบ้านเพื่อลดภาระ อาจเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง รีไฟแนนซ์คือการเปลี่ยนธนาคารเจ้าหนี้ เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง หรือยืดระยะเวลาผ่อนออกไป ซึ่งจะช่วยลดค่างวดรายเดือนให้อยู่ในระดับที่รับไหว แต่ทั้งนี้ต้องดูเงื่อนไขอย่างละเอียด และควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคารก่อนตัดสินใจ


ในกรณีที่บ้านหลังนั้นกลายเป็นภาระมากกว่าความสุข และไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า การขายบ้านและย้ายไปอยู่ในที่ที่มีภาระน้อยลง อาจเป็นการตัดสินใจที่เจ็บแต่จบ หากขายได้ในราคาที่ครอบคลุมหนี้สินก็จะช่วยให้ปลดภาระได้ทันที และเริ่มต้นวางแผนการเงินใหม่ได้เร็วขึ้นอีกทางเลือกที่หลายคนไม่รู้ คือการ "คืนบ้านให้ธนาคารโดยสมัครใจ" หรือที่เรียกกันว่า 'short sale' หากธนาคารยอมรับเงื่อนไข ผู้กู้สามารถหลุดพ้นจากภาระหนี้ได้โดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์และฟ้องร้อง แต่ต้องเจรจากันอย่างโปร่งใส และมีข้อตกลงชัดเจน


อย่ามองข้ามพฤติกรรมการเงินของตัวเอง


ก่อนจะไปถึงจุดที่ต้องขายหรือคืนบ้าน ลองทบทวนว่าคุณใช้จ่ายอย่างมีวินัยหรือไม่? งบประมาณในครอบครัวชัดเจนแค่ไหน? รายจ่ายใดที่สามารถลดได้? การปรับพฤติกรรมการเงิน เช่น การทำบัญชีรายรับรายจ่าย หารายได้เสริม ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย อาจช่วยให้คุณรักษาบ้านไว้ได้ โดยไม่ต้องพึ่งมาตรการรุนแรงการพูดคุยกับครอบครัวเป็นอีกเรื่องสำคัญ เพราะบ้านเป็นเรื่องของทุกคนในบ้าน การเข้าใจและร่วมมือกันลดรายจ่าย หรือหารายได้เพิ่ม ย่อมดีกว่าการให้ใครคนใดคนหนึ่งรับภาระไว้คนเดียวจนล้มไม่เป็นท่าหากสถานการณ์ซับซ้อนจนเกินจะตัดสินใจเอง การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักวางแผนการเงิน ทนายความ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ อาจเปิดทางใหม่ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน


บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด: ผู้ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน


ในวันที่รายจ่ายวิ่งเร็วกว่าเงินเดือน เครื่องมือทางการเงินที่ยืดหยุ่นคือสิ่งที่หลายคนมองหา สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิตทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนบ้านไม่ไหว หนี้สินหมุนเวียน หรือรายจ่ายที่พุ่งขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การมี "เครื่องมือทางการเงิน" ที่ช่วยเสริมสภาพคล่องได้ทันที คือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม


หนึ่งในตัวช่วยที่สามารถตอบโจทย์ความยืดหยุ่นในการใช้จ่ายได้อย่างดี คือ บัตรเครดิตเคทีซี ซึ่งไม่เพียงแค่ใช้รูดซื้อสินค้าได้ตามปกติ แต่ยังให้ประโยชน์ที่มากกว่านั้น ทั้งการสะสมคะแนนเพื่อนำไปแลกรับของรางวัล การรับเงินคืนจากยอดใช้จ่าย หรือส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวันลงได้อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าใช้อย่างมีวินัยและมีการวางแผนล่วงหน้า บัตรเครดิตก็สามารถกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มีเงินสดเหลือพอสำหรับใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ อย่างเช่นการผ่อนบ้านที่ไม่ควรพลาดแม้แต่งวดเดียว


การสมัครบัตรเครดิตเคทีซีก็สะดวกมากในยุคนี้ เพราะสามารถสมัครออนไลน์ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับคำปรึกษาด้านการวางแผนทางการเงินสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ และสำหรับผู้ที่ต้องการวงเงินฉุกเฉินไว้ในมือแบบพร้อมใช้ทันที หรือรู้สึกว่าแค่บัตรเครดิตยังไม่พอ บัตรกดเงินสดเคทีซี พราว "(KTC PROUD)" ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ไม่แพ้กัน บัตรนี้สามารถกดเงินสดจากตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะใช้ผ่อนชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ แบบรายเดือน ก็ทำได้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แถมยังทำรายการสมัครได้ด้วยตนเองและอนุมัติไว จึงเหมาะกับช่วงเวลาที่จำเป็นต้องใช้เงินด่วนโดยไม่ต้องเสี่ยงกับแหล่งเงินกู้นอกระบบที่ไม่ปลอดภัย


จุดเด่นของ KTC PROUD คือให้วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ ช่วยเสริมสภาพคล่องในช่วงที่คุณอาจต้องการพักหายใจจากภาระการเงิน หรือรวมหนี้หลายก้อนมาจัดการในที่เดียวได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังวางแผนอยู่รอดในช่วงรายได้หด แต่ภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนยังคงเดินหน้าในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนแบบนี้ การเลือกใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่การ "ยืมเงินล่วงหน้า" เท่านั้น แต่เป็นการสร้างระบบหมุนเวียนทางการเงินที่มั่นคงขึ้น และยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ที่มีมาช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านหนึ่ง เพื่อให้มีทุนสำรองไว้จัดการกับภาระที่สำคัญกว่าในอีกด้าน เช่น การรักษาบ้านให้อยู่กับเราได้นานที่สุดเพราะสุดท้ายแล้ว การจัดการชีวิตทางการเงินอย่างยืดหยุ่น ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีรายได้สูง แต่อยู่ที่ว่า "คุณเลือกใช้เครื่องมือแบบไหน" และใช้มันอย่างมีแบบแผนหรือไม่มากกว่า


บ้านไม่ใช่ภาระ หากไม่ละเลยปัญหา


แม้ภาระผ่อนบ้านจะดูใหญ่โตและกดดัน แต่ทางออกมีเสมอสำหรับคนที่ "ไม่หนี ไม่ท้อและไม่เงียบ" การเผชิญหน้าอย่างมีสติ และเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตน คือจุดเริ่มต้นของการกลับมามีชีวิตทางการเงินที่มั่นคงอีกครั้ง และอย่าลืมว่าเราไม่ได้ต้องเผชิญกับปัญหานี้คนเดียว ยังมีหลายหน่วยงานและเครื่องมือทางการเงินที่พร้อมจะช่วยนำทางให้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างมั่นคง

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้