Company Note
ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q25F กำไรลดลง จากยอดขายในประเทศชะลอตัวจากช่วงฤดูฝนยาวนานและภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว การส่งออกลดลง YoY แต่เริ่มดีขึ้น QoQ จากประเทศเวียดนามเป็นหลัก สำหรับอัตราทำกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนแพคเกจจิ้งลดลง เราปรับประมาณการลงสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว การส่งออกต่ำกว่าที่คาดไว้ และคาดกำไรปีนี้ทรงตัว เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ”
คาดกำไรสุทธิ 2Q25F ลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขายในประเทศและส่งออกชะลอตัว
เราคาด SNNP จะมีกำไรสุทธิ 2Q25F ที่ 135 ล้านบาท (-17% YoY, -21% QoQ) คาดรายได้ 2Q25F ลดลง -8% YoY และ-7% QoQ โดยสัดส่วนยอดขายในประเทศ : ต่างประเทศ เป็น 78:22จาก 1) ยอดขายในประเทศลดลงทั้ง YoY และ QoQ จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และช่วงฤดูฝนยาวนาน ยอดขายกลุ่ม snack แบรนด์ “เบนโตะ” และ “โลตัส” เพิ่มขึ้น แต่กลุ่มเครื่องดื่มแบรนด์ “เจเล่” ที่ลดลง 2) รายได้ส่งออกลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากประเทศเวียดนามที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก (คาดสัดส่วน 55% ของการส่งออก) คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น YoY แต่ทรงตัว QoQ จากการบริหารจัดการต้นทุนโรงงานในประเทศไทย ต้นทุนแพคเกจจิ้งลดลง คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดสินค้าใหม่ และการทำโปรโมชั่น
ปรับประมาณการลงสะท้อนผลประกอบการ 1H25F, คาดกำไรเติบโตปีละ 6% (CAGR3Y)
คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2H25F จากกลุ่ม snack ที่คาดจะดีขึ้น คาดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดลดลงในครึ่งปีหลัง และการส่งออกที่เวียดนามคาดจะค่อยๆดีขึ้นหลังจากการแก้ปัญหาในการกระจายสินค้าของตัวแทนจำหน่าย เราปรับประมาณการปี 2025-26F กำไรสุทธิลดลงจากคาดเดิม 9% และ 11% ตามลำดับ จากยอดขายในประเทศยังคงเดิมคาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% และ 4% ตามลำดับ คาดยอดส่งออกปีนี้ทรงตัว และปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 5% โดยกลุ่ม CLMV จากประเทศเวียดนามกลับมาปกติ และฟิลิปปินส์ที่มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำการตลาดเข้ากลุ่ม modern trade เพิ่มขึ้น สำหรับยอดขายในสหรัฐฯมีผลกระทบน้อยจากยอดขายไม่ถึง 1% และยอดขายในกัมพูชามีประมาณ 3% และบริษัทมีโรงงานในกัมพูชา ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาคาดจะกระทบยอดขายจากกำลังซื้อลดลงของผู้บริโภคในกัมพูชา โดยยอดขายในกัมพูชาปีที่ผ่านมาประมาณ 180 ล้านบาท หรือ 3% ของรายได้รวม และปีนี้เราคาดจะลดลงมาที่ 160 ล้านบาท สำหรับบริษัทร่วมทุนสิริโปรคาดจะเริ่มจุดคุ้มทุน คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการดำเนินไลน์ผลิตในเวียดนามที่มีต้นทุนต่ำกว่าช่วยเพิ่มอัตราทำกำไร และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 16.7% และ 16.5% ใกล้เคียงกับปี 2024 ที่ 16.3% จากการทำการตลาดสินค้าใหม่
เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัจจัยฤดูกาลจากช่วงฤดูฝนยาวนานกระทบต่อยอดขาย ผลประกอบการปีนี้ทรงตัวไม่เติบโต ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11.6 บาท อ้างอิง PER forward -1SD ของบริษัท SNNP ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 17X, Div.Yield 25F คาดที่ 5% ปัจจัยเสี่ยง 1) สภาวะเศรษฐกิจ 2) ยอดขายไม่เป็นตามคาด