สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 18 กรกฎาคม 2568 )----- บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนท่ามกลางความหวังต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ
ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเกือบตลอดสัปดาห์ โดยดีดตัวขึ้นกว่า 80 จุดภายในสัปดาห์เดียว ท่ามกลางแรงหนุนหลัก ๆ จากความหวังว่าไทยจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ หลังจากทีมเจรจาไทยได้พยายามปรับข้อเสนอโดยการเปิดการค้าให้สหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าไทยน่าจะรับการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าใหม่ในอัตราที่ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้
ปัจจัยบวกข้างต้นกระตุ้นแรงซื้อหุ้นไทยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่กลุ่มแบงก์บวกได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าผลประกอบไตรมาส 2/2568 ที่กำลังทยอยประกาศออกมานั้นอาจจะไม่ได้เติบโตมากนัก ประกอบกับมีความกังวลว่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมจากกระแสข่าวเกี่ยวกับการเสนอชื่อผู้ว่าการธปท. คนใหม่ อนึ่ง ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 1,210.01 จุด ตามแรงซื้อของกลุ่มต่างชาติ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงติดตามประเด็นการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
• ในวันศุกร์ที่ 18 ก.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,206.58 จุด เพิ่มขึ้น 7.62% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 48,357.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.50% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 6.02% มาปิดที่ระดับ 250.65 จุด
• สัปดาห์ถัดไป (21-15 ก.ค. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,160 และ 1,125 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,230 และ 1,255 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย. ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ค. (เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม ECB ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ