Equality for All
TOP : บมจ.ไทยออยล์
2Q25 คาดกำไรดีขึ้นจาก GRM ฟื้นตัวและมีรายการพิเศษเข้ามาเพิ่ม : เราคาดกำไรปกติ 3,531 ลบ. ผนนวกกับการมีรายการพิเศษ +2,000 ลบ. ทำให้กำไรสุทธิจะเพิ่มเป็น 5,523 ลบ. +58% q-q โดยหลักๆ ไตรมาสนี้ผลักดันจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นในกลุ่มโรงกลั่น ส่วนอะโรเมติกส์และ LUBE ทรงตัว
โรงกลั่น : คาดกำลังการกลั่นใกล้เคียง q-q ที่ 113%ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์แก๊สโซลีน, ดีเซล และน้ำมันเตาดีขึ้น +3.76, +1.55 และ +3.73 เหรียญ/บาร์เรล ตามลำดับ แม้จะได้ผลกระทบจาก crude premium เพิ่มขึ้น +0.18 เหรียญ/ บาร์เรล และยังได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำมันรั่ว แต่ส่วนต่างราคาที่ดีขึ้นทำให้ GRM เพิ่มจาก 3.5 เป็น 5.3 เหรียญ/ บาร์เรล
อะโรเมติกส์ : คาดกำลังการผลิตลดลงเหลือ 75% ขณะที่ LAB คาดที่ 120% แต่จากส่วนต่างราคา BZ ที่ลดลงทำให้ GIM ทรงตัวที่ 0.9 เหรียญ/บาร์เรล
LUBE : คาดการใช้กำลังการผลิตลดลงจากหน้าฝนแต่ส่วนต่างราคาดีขึ้นทำให้ GIM ทรงตัว 1 เหรียญ/บาร์เรล
ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ใกล้เคียงไตรมาสก่อนที่ 1.5 เหรียญ/ บาร์เรล ดอกเบี้ยจ่ายทรงตัวที่ 0.6 เหรียญ และค่าเสื่อมราคา 1.5 เหรียญ/ บาร์เรล
รายการพิเศษสุทธิ +2,000 ลบ. (ขาดทุนจากสต็อกตามราคาน้ำมันลง -4,400, การปรับราคาตามตลาด (NRV) -500 ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน -430 ขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยง -150 แต่มีรายการบวกมาช่วยคือ กำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้ +1,500 และการปรับมูลค่ายุติธรรมจากการที่ CAP ซื้อโรงกลั่นของเชลล์ในราคาถูกกว่าราคายุติธรรม +6,000 ลบ.)
เทรดดิ้งได้
“การดำเนินงาน 2Q25 คาดยังดีทั้งจากการดำเนินงานปกติ และรายการพิเศษเข้ามา ส่วนโครงการ CFP แม้ปัจจุบันยังไม่ทราบชื่อผู้รับเหมา แต่ทุกอย่างมีความชัดเจนมากขึ้นทำให้คาดว่าโครงการดังกล่าวคงไปต่อได้ แต่แนวโน้ม GRM ที่หดตัวลง q-q อาจกดดันการดำเนินงาน 3Q25 ให้หดตัวตาม
กลยุทธ์การลงทุนยังเก็งกำไรตาม GRM ฟื้นตัว, ราคาน้ำมันดิบ และความชัดเจนมากขึ้นในโครงการ CFP ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th