Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET แกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น "รอรายชื่อผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่"

137


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 15 กรกฎาคม 2568 )----- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/แกว่งขึ้น ตลาดยืนเหนือ 1130/1135 ได้ส่งผลให้กลับมาเป็นการแกว่งตัวขึ้น ระยะสั้นมีแนวต้านถัดไปที่ 1150/1160-1163 ที่มีโอกาสทำให้ชะลอตัว ส่วนแนวรับประเมินไว้ที่ 1135/1130 หากผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่เป็นคุณ วิทัย รัตนากร ตามที่ตลาดคาดไว้ คาดว่าจะเห็นทิศทางดอกเบี้ยมีโอกาสลดลงและการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่วนประเด็นการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ไทยยื่นข้อเสนอเพิ่มและเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ มากขึ้นหนุนจิตวิทยา


ประเด็นสำคัญ

• รมว.คลัง รับลงนามเสนอชื่อผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่แล้ว เตรียมเสนอครม.วันนี้ หากเป็นคุณ วิทัย รัตนากร ตามที่ตลาดคาดไว้ ทิศทางดอกเบี้ยมีโอกาสลดลง จะเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์ และ REITs
• EU เตรียมตอบโต้ภาษีสหรัฐฯ ด้วยมาตรการมูลค่า 84,000 ล้านดอลลาร์ ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตร รวมถึงเครื่องบิน รถยนต์ และ Bourbon เป็นการตอบโต้ภาษี 20–30% ของทรัมป์
• รมว. คลังเผยข้อเสนอเพิ่มเติมที่ส่งให้สหรัฐฯ เช่น เปิดตลาดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ บางรายการเข้าไทยภายใต้ภาษี 0% เพิ่มเป็น 69% จาก 63-64%, ส่งเสริมการลงทุนธุรกิจไทยในสหรัฐฯ และให้ความสำคัญกับการสวมสิทธิ์สินค้า เพิ่ม Local Content รวมถึงเตรียม Soft Loan 2 แสนลบ. เยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
• ม. หอการค้าไทยหนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐฯ บางรายการที่ไทยขาดแคลนหรือผลิตได้ไม่เพียงพอ เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร, เพิ่มความเข้มงวดจัดการปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์และสินค้าด้อยคุณภาพที่ทะลักเข้าไทยผ่านการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
• มาเลเซียออกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI ประสิทธิภาพสูงที่มีถิ่นกำเนิดจากสหรัฐฯสู่ประเทศที่สาม โดยต้องมีใบอนุญาตสำหรับส่งออก เพื่อปิดช่องว่างทางกฎหมาย
• การส่งออกจีนใน มิ.ย. 2568 ขยายตัว 5.8%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาด หนุนจากการเร่งส่งออกก่อนมาตรกาภาษีสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ โดยการส่งออกสู่ไทยและเวียดนามเติบโตสูงที่สุด ซึ่งเรากังวลว่าเป็นปัญหา Transshipment สู่ประเทศที่สาม ด้านการนำเข้าพลิกขยายตัว 1.1%YoY เป็นครั้งแรกในปีนี้

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวผันผวนเนื่องจากยังกังวลอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้ สำหรับไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% สูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียน ซึ่งทำให้ไทยมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการแข่งขันและกดดันให้ GDP อาจเติบโตชะลอตัวได้ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับไทยอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 


แนวรับ-ต้าน
1135/1130– 1150/1163

 


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัวผันผวน ยังมีความกังวลไทยจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญในกลุ่มอาเซียนและอาจทำให้ไทยสูญเสียความสามารถการแข่งขันและกดดันการเติบโต GDP ลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
3. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
4. Trading Ideas: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER และ PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BCPG BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทย แนะนำ ERW CENTEL AAV และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วหากเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า แนะนำ AMATA GPSC WHA

 

Daily top picks
MTC: ราคาหุ้นได้รับปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับตัวลงในช่วงที่เหลือของปี (INVX คาดลดอีก 2 ครั้ง) กำไรสุทธิ 2Q68 คาดจะเติบโตดี +3%QoQ และ 12%YoY และในปี 2568 นี้ คาดกำไรเติบโต 14%YoY โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อที่เติบโตและ credit cost ที่ลดลง เป็นหุ้น Undervalued ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 68F ระดับ 1.70 เท่า คิดเป็น -2SD วันนี้แนะซื้อที่ราคาไม่เกิน 37.50 บาท

GULF: มองราคาหุ้นมีโอกาสได้ปัจจัยหนุนจากทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับลดลง แนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปีแข็งแกร่งจากกำลังการผลิตใหม่ การ COD ของโครงการโซลาร์ฟาร์ม 5 แห่ง (+308MW) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 แห่ง (+289MW) และ Data Center เฟสแรก รวมถึง Capacity payment ที่เพิ่มขึ้น และเงินปันผลจาก KBANK

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

สัมผัสต้าน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้ พบหุ้นแบงก์ ถูกแรงขาย หลัง ครม.ไม่มี วาระพิจารณาแต่งตั้ง ผู้ว่าแบงก์ชาต ฝั่งตลาด...

มัลติมีเดีย

CRD ครึ่งปีหลัง68 เร่งเครื่องสร้างผลงาน ชูBacklog กว่า700 ลบ. #งานmaiforum2025

CRD ครึ่งปีหลัง68 เร่งเครื่องสร้างผลงาน ชูBacklog กว่า700 ลบ. #งานmaiforum2025

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้