สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 กรกฎาคม 2568)------------สินเชื่อยั่งยืนและโครงการสีเขียวอาจจะช่วย SMEs และรายย่อยเข้าถึงเม็ดเงินลงทุนถูกได้
สินเชื่อยั่งยืน จะช่วยให้ธุรกิจ SMEs และรายย่อยได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป เช่น อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านยั่งยืนต่ำกว่าสินเชื่อบ้านทั่วไปเฉลี่ย 0.7% ในบางธนาคาร อีกทั้งยังได้รับเทคนิคและความรู้ ทำให้ SMEs สามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดที่เน้นความยั่งยืนมากขึ้น
สินเชื่อยั่งยืนในไทยเติบโตกว่าสินเชื่อทั่วไปตั้งแต่ปี 2021
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ในไทย เร่งออกสินเชื่อยั่งยืนมากขึ้น จนสัดส่วนยอดคงค้างสินเชื่อยั่งยืนต่อสินเชื่อรวมเร่งขึ้นจากเฉลี่ย 1.6% ในปี 2021 เป็น 3.9% ในปี 2024 จากการเร่งบรรลุเป้าหมายการสนับสนุนการเงินยั่งยืน โดย ณ สิ้นปี 2024 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย 3 แห่ง บรรลุเป้าหมายการสนับสนุนการเงินยั่งยืนอย่างรวดเร็ว เฉลี่ย 74.1% จากเป้าหมาย 1.5 - 2.5 แสนล้านบาท ภายในปี 2025 – 2030
ศูนย์วิจัยกสิกรคาดว่าพอร์ตสินเชื่อของธนาคารจะทยอยเพิ่มสัดส่วนไปสู่ Green Portfolio มากขึ้นในระยะยาว จากแนวโน้มการขยายเป้าหมายวงเงินสนับสนุนการเงินยั่งยืน หลังใกล้บรรลุเป้าหมายเดิม
แม้สินเชื่อยั่งยืนยังกระจุกในบริษัทใหญ่ แต่การแข่งขันระหว่างธนาคารพาณิชย์จะเปิดโอกาสเข้าถึงสินเชื่อให้ SMEs และรายย่อย
ณ สิ้นปี 2024 สินเชื่อยั่งยืนกระจุกอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่เกือบ 90% โดยเฉพาะภาคพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน จากการเร่งปรับตัวของอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนสูง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนน้อยที่สุดเพียง 2% จากข้อจำกัดด้านต้นทุนและความซับซ้อนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน
แต่ในระยะข้างหน้า ช่องว่างตลาด (1.6 แสนล้านบาท) มีแนวโน้มกระจายมายัง SMEs และรายย่อยมากขึ้น จากการขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ได้รับบริการเพียงพอ (underserved market) เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อสำหรับธนาคารพาณิชย์
อีกทั้ง การแข่งขันทั้งในแง่ราคาและบริการจะเข้มข้นมากขึ้น จากการจำกัดอุตสาหกรรมที่ผ่านเกณฑ์ Thailand Taxonomy ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ต้องการเพิ่มการปล่อยสินเชื่อยั่งยืน ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs และรายย่อยมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อยั่งยืนได้มากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ในไทยอาจพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ ‘ลดอัตราดอกเบี้ยตามการลดคาร์บอน’(Outcome-Based Rate) ถ้า SME ลดการปล่อย CO₂ ได้ตามแผน หรือเพิ่มบริการวัดคาร์บอนฟรี
แนวทางเตรียมตัวขอรับสินเชื่อยั่งยืนสำหรับ SMEs และรายย่อย
การเตรียมตัวเพื่อขอรับสินเชื่อยั่งยืน ต้องแสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ โดย SMEs และรายย่อยอาจเตรียมตัวยื่นขอสินเชื่อยั่งยืนดังนี้
การเตรียมตัว รายละเอียด ตัวอย่าง
ออกแบบหรือปรับโครงการให้มีผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม หรือสังคม
• โครงการ Solar PV
• โครงการ Wastewater Recycling
รวบรวมข้อมูลหรือรายงานที่แสดงผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม
• รายงานการลดการปล่อยคาร์บอน
• ใบรับรองระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น ISO 14001
• เอกสารรับรองผลิตภัณฑ์ เช่น Thai Green Label
เพิ่มความโปร่งใสโดยใช้เทคโนโลยีตรวจวัดและติดตาม
• ระบบ Smart Meter หรือตัววัดพลังงานแบบเรียลไทม์
• ติดตั้งระบบ Energy Monitoring Dashboard
นำเสนอแผนธุรกิจที่แสดงถึงความมั่นคงและผลตอบแทนของโครงการ
• จัดทำแผนธุรกิจที่แสดงรายได้ ค่าใช้จ่าย และจุดคุ้มทุนของโครงการ
• แสดงการประหยัดต้นทุนระยะยาว เช่น
ค่าไฟฟ้าที่ลดลง