Equality for All
CPF : บมจ. ซีพีเอฟ
คาด 2Q25 กำไรแตะ 10,000 ลบ. จากราคาขายที่ดีทั้งไทย และต่างประเทศ รวมถึงราคาวัตถุดิบยังลดลงต่อ : เราคาดกำไรสุทธิ ที่ 10,179 ลบ. +47% y-y +19% q-qจะทำสถิติสุงสุดของปีจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งในไทย และตปท. ที่ยังเพิ่มขึ้น q-q
ยอดขาย คาดที่ 152,488 ลบ. เพิ่ม +2% y-y และ +6% q-q ตามราคาเนื้อสัตว์ที่เร่งตัวขึ้น ราคาหมูในไทยจาก 1Q25 ที่ 79 บาท/ กิโลกรัม เป็น 88 บาท/ กิโลกรัม ส่วนไก่ลดลงเล็กน้อยเหลือ 39.7 บาท/ กิโลกรัม จาก 40 บาท/ กิโลกรัม ส่วนหมูเวียดนามจาก 65,000 ดองเป็น 67,500 ดอง/กิโลกรัม รวมถึงราคาหมูในฟิลิปปินส์ และกัมพูชาที่ราคาปรับตัวขึ้นเช่นกัน ส่วนจีนลดลงเป็น 14.7 หยวนจาก 16 หยวน/ กิโลกรัม
ต้นทุนวัตถุดิบหลัก อย่างข้าวโพดในไทยทรงตัว q-q ที่ 10.9 บาท/ กิโลกรัม แต่หากกากถั่วเหลืองลดลงจาก 17 บาทเป็น 16.4 บาท/ กิโลกรัม เช่นเดียวกับราคาวัตถุดิบในเวียดนามที่ลดลงส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มเป็น 19% จาก 18.5% ใน 1Q25 และ 15.4% ใน 2Q24
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร คาดเพิ่มไม่มากเพียง +1% y-y และ +6% q-q จากการควบคุมค่าใช้จ่ายเข้มงวด
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คาด 3,687 ลบ. เพิ่มขึ้น +10% y-y +7% q-q จากธุรกิจในไทยอย่าง CPALL และ CPAXT มีผลการดำเนินงานดีขึ้น รวมถึงธุรกิจในตปท. อย่าง Hylife และจีนดีขึ้นจากราคาขายที่ดีขึ้น y-y และคาดดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น y-y และ q-q จากเงินกู้ยืมเพิ่มขึ้น
หมูไทย ส่งออกไปสหรัฐน้อยมาก แต่ตลาดกังวลนำเข้าหมู : สำหรับการส่งออกของ CPF อยู่ที่เพียง 6% ของยอดขายและการส่งออกไปสหรัฐเพียง 0.35% ของยอดขายเท่านั้น ประเด็นการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐนั้นคาดว่าจะส่งผลกระทบจำกัดต่อ CPF อย่างไรก็ตาม ตลาดกังวลว่าอาจมีการแลกเปลี่ยนด้วยการนำเข้าหมูจากสหรัฐเข้ามา ซึ่งมาตรการดังกล่าวเรามองว่าอาจต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยในการบริโภคด้วยเนื่องจากการนำเข้าเนื้อสัตว์ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงซึ่งหมูในสหรัฐมีการฉีดสารเร่งเนื้อแดงซึ่งอาจไม่ง่ายนักในการนำเข้า คงต้องรอผลสรุปอีกครั้งสำหรับการเจรจารอบใหม่
หมูเวียดนาม คาดไม่กระทบ : ในส่วนเวียดนามนั้นการเจรจาภาษีกับสหรัฐมีข้อสรุปแล้ว ซึ่งเดิมการนำเข้ากากถั่วเหลืองและข้าวโพดภาษีนำเข้าเป็น ศูนย์ อยู่แล้วทำให้ไม่ส่งผล ส่วนหมูนั้นมีการนำเข้าจากสหรัฐอยู่บ้าง แต่พฤติกรรมการบริโภคเนื้อหมูในเวียดนามส่วนใหญ่นิยมบริโภคหมูสดซึ่งหมูนำเข้าจากสหรัฐจะเป็นหมูแช่แข็งทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการขายในเวียดนามมากนัก
คงประมาณการไว้ดังเดิม : แม้เรายังมีมุมมองบวกต่อการดำเนินงานกลุ่มเนื้อสัตว์ว่ายังดีต่อเนื่อง จากราคาเนื้อสัตว์ที่ยังอยู่ในระดับสูง และเกินจุดคุ้มทุนทั้งในไทยและเวียดนาม แต่คาดว่ากำไรสูงสุดน่าจะอยู่ในช่วง 2Q25 จากปัจจุบันที่ราคาเนื้อสัตว์ทั้งในไทยและเวียดนามมีการปรับลงบ้างทำให้คาดว่าช่วงที่เหลือของปีการดำเนินงานจะอ่อนตัวลง q-q
เราคงประมาณการไว้ดังเดิม คาดยอดขาย +4% y-y เป็น 602,575 ลบ. หลัก ๆ จากผลบวกของราคาขายเพิ่มขึ้น และปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นจากเดิมเป็น 15.5% จากแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ในตลาดหลักอย่างไทยและเวียดนามยังดีต่อเนื่อง และราคาวัตถุดิบลดลง และคงสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายที่ 8.9% จากการควบคุมค่าใช้จ่าย
แต่ปรับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มจากเดิมเป็น +17% y-y จากการดำเนินงานของ CPALL ที่ดีขึ้น ส่วน CTI คาดหดตัวตามราคาหมูในจีนที่ลดลง และคาดกำไรก่อนรายการพิเศษปี 2025 ที่ +24% y-y ที่ 23,599 ลบ.
หมูยังเป็นพระเอกต่อ
“ เราคาด 2Q25 ผลกำไรจะทำสถิติสูงสุดของปีตามราคาเนื้อสัตว์ที่ยังคงเพิ่มขึ้น และราคาวัตถุดิบที่ลดลงทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่คาดว่าช่วงที่เหลือของปีจะเห็นการย่อตัวของการดำเนินงานตามราคาหมูที่ทยอยปรับลง
กลยุทธ์การลงทุน แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ที่ดีทั้งในไทยและเวียดนาม คาด CPF ได้ประโยชน์สูงสุด คงแนะนำใช้กลยุทธ์ซื้อขายเล่นรอบตามราคาเนื้อสัตว์ ส่วนประเด็นการขึ้นภาษีจากสหรัฐเราคาดผลกระทบจำกัดต่อ CPF จากสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐเพียง 0.35% ของยอดขายเท่านั้น ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th