----ราคาหุ้นลงมาในระดับที่ Valuation จูงใจ----
Preview : คาดกำไรสุทธิ 2Q25F ไว้เท่ากับ 3,440 พันล้านบาท (+3% y/y, -21% q/q) โดยการเติบโต y/y มาจากรายได้เพิ่ม +4% y/y (รายได้คนไข้ไทยเพิ่ม +3% y/y รายได้คนไข้ต่างชาติโต +9% y/y แม้ว่ารายได้คนไข้กัมพูชาลดลงเลขสองหลัก แต่รายได้คนไข้คนไข้ตะวันออกกลางโตแกร่ง +30% y/y และรายได้คนไข้ยุโรป & เมียนมาเพิ่มขึ้น และรายได้คนไข้จีนขยายตัวเลขหลักเดียว) Note : รายได้คนไข้กัมพูชาอยู่ที่ราว 3% ของรายได้รวมส่วนการลดลง q/q เป็นผลจากรายได้ลด -5% q/q (รายได้คนไข้ไทย -3% y/y รายได้คนไข้ต่างชาติ -8% q/q) และมาร์จิ้นลดลง โดยคาดว่า GPM งวด 2Q25F จะลดเป็น 32.5% เทียบกับ 34.7% ใน 1Q25 (แต่ทรงตัว y/y)
แนวโน้มกำไรสุทธิ 2H25F คาดว่าจะดีขึ้น โดยเติบโต h/h เนื่องจากไตรมาส 3 เป็น peak season เพราะเป็นฤดูฝน รายได้คนไข้ไทยจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากคนไข้ตะวันออกกลางดีขึ้น
ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 25F/26F ลง 4%-5% สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซายาวนาน ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และอัตราการเติบโตของรายได้ที่ลดลง รวมถึงปรับลด EBITDA margin ลง
คงคำแนะนำซื้อ แต่ลดราคาพื้นฐานเป็น 33 บาท (DCF) จากเดิม 36 บาท ทั้งนี้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาในระดับ Valuation ที่จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันมี P/E ปีนี้ 19.8 เท่า (Mean-2.5SD)
นักวิเคราะห์ : ศศิกานต์ อุดมเวศย์ : sasikarnudomvej@dbs.com : Tel. 02 857 7833