ภาวะตลาด : SET Index วานนี้ผันผวนในกรอบ 1107.46-1123.00 ปิ ดตลาดที่ 1123.00 (+3.06 จุด) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวัน โดยมีแรงซื้อหุ้นแบงค์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจะมีจ่ายปันผลระหว่างกาล และซื้อหุ้นสื่อสาร (ADVANC และ TRUE) หลังกสทช.ประกาศรับรองผลประมูลคลื่นแล้ว รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกบางตัว เช่น CPALL, CPAXT, HMPRO เป็นต้น ส่วนหุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิกส์และนิคมฯถูกขายลดความเสี่ยงหลังทรัมป์ มีแผนควบคุมการส่งออกชิป AI ไปยังไทยและมาเลเซีย นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ 1.09 พันลบ. ส่วนต่างชาติซื้อสุทธิ 574 ลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• ทรัมป์ ประกาศว่าประเทศที่หนุนกลุ่ม BRICS ต้านสหรัฐอาจจะถูกเก็บภาษีเพิ่ม 10% ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มนี้ด้วย
• ข้อมูลจาก Tax Foundation ระบุว่าการที่สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มในอัตรา 10%-15% จะทำให้ GDP โลกหดตัวลงราว 0.4%-0.6% เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นและเกิดความปั่นป่วนในห่วงโซ่อุปทาน ส่วนผลการศึกษาจาก Budget Lab แห่งมหาวิทยาลัยเยลระบุว่าอัตราภาษีดังกล่าวอาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.7%
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วง หลังทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีศุลกากรปท.คู่ค้า สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้น +1.3% เป็น 68-69 US$/bbl จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
• สัญญาทองคำส่งมอบส.ค.ทรงตัวที่ 3342.80 US$/ออนซ์ ส่วนดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเป็น 97.35 ค่าเงินบาทอ่อนมาที่ 32.51 บาท/ดอลลาร์ ด้าน US bond yield 10 ปีพุ่งขึ้นเป็น 4.39% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 109.5 (สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ทรงที่ 1436 (สูงสุด 1975)

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 14 ประเทศ ไทยจะถูกเก็บ 36% แต่ยังสามารถเจรจาได้ มีผล 1 ส.ค.25...เราคาดว่าไทยจะต้องเปิดทางให้นำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐเข้ามามากขึ้น นอกเหนือจากข้อเสนอนำเข้าถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง ข้าวโพด อาวุธ เครื่องบินโบอิ้ง ก๊าซ LNG จากโครงการก๊าซในอลาสก้า ก๊าซอีเทน ฯลฯ กลุ่มที่เผชิญความเสี่ยง เช่น เนื้อหมู ซึ่งหากเปิดนำเข้าก็จะกระทบทางลบกับผู้ประกอบการ เช่น CPF, TFG, BTG เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางส่วนได้จะได้รับการชดเชยจากต้นทุนกากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่ลดลง ในเชิงกลยุทธ์แนะนำให้ชะลอการลงทุน CPF, TFG, BTG ไปก่อน
• DBS ให้น้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วง 3Q25 เป็น Underweight เนื่องจากเผชิญความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรทรัมป์ ที่จะกระทบภาคส่งออก ภาคท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญชะลอตัวลง และการเมืองในประเทศไม่แน่นอน
• ไทย: เงินเฟ้อทั่วไปเดือนมิ.ย.ติดลบ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.06%...ก.พาณิชย์เชื่อยังไม่เข้าภาวะเงินฝืด อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ยังมี room ที่จะลดดอกเบี้ยได้อีก ทาง DBS คาดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะลดอีก 1 ครั้งที่ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.75%)...ซึ่งกลุ่มไฟแนนซ์จะยังได้อานิสงค์จากส่วนนี้ หุ้นเด่นเป็น MTC รองลงมาเป็น TIDLOR

กลุยทธ์ : สัญญาณทางเทคนิคกลับมาบวกเล็กๆ หลังกลับมาปิดเหนือ 1120 ได้ การปรับขึ้นต่อมีแนวต้าน 1128-1130, 1140-1150, 1160 ตามลำดับ ส่วนการอ่อนตัวมีแนวรับ 1110, 1104-1100 โดยมีแนวฟิวเตอร์ที่ไม่ควรหลุด 1100 หากหลุดดัชนีก็มีโอกาสเปลี่ยนเป็น Sideways down ได้

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : PR9 – ธุรกิจ Defensive เนื่องจากเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งมีความจำเป็นในการรักษาพยาบาลเมื่อมีการเจ็บป่วย PR9 คงอัตราค่ารักษาไว้ในระดับต่ำกว่าร.พ.พรีเมียมราว 20-30% รายได้คนไข้ตะวันออกกลางปี 25F เติบโตจากฐานต่ำใน 1H24 ทั้งนี้ร.พ.ทำการตลาดและมีคนไข้ภูมิภาคเข้ามาเพิ่มตั้งแต่ 3Q24 คาดการณ์กำไรหลักปี 25 เติบโต +13% เป็น 803 ล้านบาท จากการขยายเตียงผู้ป่วย รายได้คนไข้ต่างชาติเพิ่มขึ้น มาร์จิ้นดีขึ้นจากรายได้ศูนย์รักษาเฉพาะทางและสัดส่วนคนไข้ต่างชาติสูงขึ้น ประสิทธิภาพดีขึ้น และการลดต้นทุน ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้อฐาน 30 บาท (DCF)

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829