---คาดกำไรหลัก 2Q25F ลดลง YoY และ QoQ---
คาดกำไรหลัก 2Q25F อ่อนตัว -48%YoY และ -24%QoQ เป็น 12.54 พันล้านบาท แม้ว่าราคาน้ามันปรับขึ้นในเดือนมิ.ย.25 และปริมาณขายเพิ่มขึ้น +3%QoQ ก็ตาม ทั้งนี้เป็นผลจาก 1) ราคาน้ำมันเฉลี่ยใน 2Q25F ลดลง YoY และ QoQ, 2) การตัดจำหน่ายสินทรัพย์ในเม็กซิโกมูลค่าราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 3) Unit cost เพิ่ม +3%QoQ เป็น 30.8 US$/bbl ด้าน EBITDA รวมคาดว่าจะอยู่ที่ 48.57 พันล้านบาท (-24%YoY, -5% QoQ)
ความเห็นเป็นกลางต่อการได้สัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติในแอลจีเรีย เนื่องจากโดยปกติแล้วจะใช้เวลา 7-8 ปีในการก้าวจากการได้รับสัมปทานไปสู่ขั้นตอนการสำรวจ พัฒนา และผลิต จึงยังไม่เห็นผลทางธุรกิจในระยะสั้น แต่มีมุมมองที่เป็นบวกในระยะยาวที่จะทำให้พอร์ตโฟลิโอของ PTTEP มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งนี้แหล่งผลิตนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท Eni (ถือหุ้น 66%) และ PTTEP (ถือหุ้น 34%) โดยอยู่ระหว่างพิจารณาสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC)
Note : ปัจจุบัน PTTEP มี แหล่งน้ำมัน 2 แห่งในแอลจีเรีย (แอลจีเรีย 433a และ 416b และแอลจีเรีย ฮัสซี บีร์ ราเคซ) ปริมาณผลิตน้ำมันคิดเป็น 6% ของปริมาณการผลิตรวม
กลุ่มโอเปกพลัสสร้างความประหลาดใจด้วยการเพิ่มปริมาณการผลิตที่มากเกินคาดในเดือนส.ค.25 โดยการประชุมเมื่อ 5 ก.ค.25 กลุ่มโอเปกพลัสมีมติที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ 548,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 411,000 บาร์เรล/วัน การที่อุปทานจะเพิ่มขึ้นทำให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงในระยะสั้น
การวิเคราะห์ความอ่อนไหว เราประมาณการว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 US$/bbl จะส่งผลให้มีกำไรสุทธิต่อปีเพิ่มขึ้น 1,075 ล้านบาท โดยอิงตามสมมติฐานของ 1) ปริมาณ การผลิตทั้งหมดประมาณ 507,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน 2) การผลิตก๊าซต่อน้ำมันอยู่ที่ 72:28 และ 3) อัตราภาษีนิติบุคคลที่ 45%
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาพื้นฐาน 169 บาท โดย (DCF, WACC: 11.69%, TG: 1%) ทั้งนี้แม้ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในระยะสั้น แต่เรายังคงชอบ PTTEP เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบจำกัด
นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethbik@dbs.com : Tel. 02 857 7833