วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นหลัก มีแรงขายกดดันนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง ตามด้วยแรงขายเพิ่มเติมในหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างไรก็ตามช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวขึ้นยืนในแดนบวก จาก กนง. ปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 68 ขยายตัว2.3% จากเดิม 1.3-2.0% ขณะที่ผลการประชุมมีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75%มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มขนส่ง และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,107.47 จุด +7.68 จุด+0.70% มูลค่าการซื้อขาย 62,662.66 ลบ. Program Trading +2,072.17 ลบ. ต่างชาติ +2,651.53 ลบ.TFEX +12,680 สัญญา ตราสารหนี -2,492.87 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ +0.85% ปิดที่64.92 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง รวมทั้งความยั่งยืนของข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านและอิสราเอล
+ FedWatch Tool บ่งชี ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 25% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค. และให้น้ำหนัก 67%
คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
+ มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่านประกาศ "สิ้นสุดสงคราม 12 วัน"และเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาล รวมถึงสถาบันปฏิวัติทั้งหมด ระดมสรรพกำลังเพื่อฟื้นฟูประเทศ
+ กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปีและปรับขึ้นคาดการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ อยู่ที่ 2.3% จากเดิม1.3-2% แล ะในปี 69 คาดขยายตัว 1.7% ป รับลดจ ากเดิม 1.8%จากสมมุติฐานไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐ 18% ครึ่งหนึ่งจากประกาศไว้ที่ 36%
+ รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมพุ่ง 1.21 แสนล้านบาท คิดเป็น109% ของแผนการเบิกจ่าย ลงทุนเมกะโปรเจกต์มูลค่าสูงกว่าเป้าหมาย9.77 พันล้านบาท

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัว ลดลง 106.59 จุด หรือ -0.25% โดยตลาดปรับฐาน หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการ อันเนื่องมาจากการทำข้อตกลงหยุดยิระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ขณะเดียวกันนักลงทุนประเมินถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯที่กล่าวต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2
- เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงแสดงท่าทีระมัดระวังต่อภาวะเงินเฟ้อและประเด็นภาษีนำเข้าระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่สอง โดยระบุว่าเฟดอาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ย หากผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเพียงชั่วคราว
- หน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ไม่สามารถทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยทำให้โครงการนิวเคลียร์ล่าช้าไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
-สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงสู่ระดับ 623,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. โดยดิ่งลง 13.7%MoM และต่่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 694,000 ยูนิต จากระดับ 722,000 ยูนิตในเดือนเม.ย.
- สรท. เปิดเผยว่า กำลังเฝ้าติดตามว่าประเทศอิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซหรือไม่ เพราะช่องแคบฮอร์มุซ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเป็นเส้นเลือดใหญ่ ของเส้นทางพลังงานของโลก อาจเกิดภาวะที่ขาดแคลนน้ำมันดิบในภาคการผลิตเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงภาคขนส่งของไทยส่วนใหญ่ยังพึ่งพาเชื้อเพลิงจากน้ำ มันเป็นพลังงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี มีโอกาส Rebound ต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุน กนง. ปรับขึ้นคาดการณ์ขยายตัวของ GDP ปีนี้ อยู่ที่ 2.3%จากเดิม 1.3-2% ประกอบกับ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติเริมไหลกลับเข้ามา มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,100-1,120จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นเข้าคำนวณ SET50 : BCP KKP TCAP TIDLOR / หุ้นออกจาก SET50 : BGRIM GLOBAL ITC SAWAD
• หุ้นเข้าคำนวณ SET100 : AURA JTS MBK TFG TOA WHAUP / หุ้นออกจาก SET100 : CKP COCOCO ROJNASAPPE SKY SNNP (มีผล 1 ก.ค. 68 – 31 ธ.ค. 68)
• สหรัฐโจมตีอิหร่าน : IRPC PTT PTTEP SPRC TOP
• โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง : MINT ERW CENTEL
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Virtual Bank : SCB ADVANC OR TRUE
• เที่ยวไทยคนละครึ่ง : AWC MINT ERW CENTEL SHR