Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

108

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 25 มิ.ย.68 ปิด +7.68 จุด อยู่ที่ 1,107.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,662 ลบ. สถาบันซื้อ 1,200 ลบ.  ต่างชาติซื้อ 2,651 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 143 ลบ. และรายย่อยขาย 3,709 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 993 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น AOT,PTT,DELTA,ADVANC,HANA และยอดขายหุ้น AOT,BDMS,KBANK,GULF,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,397 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TISCO,HKCE01,BJC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 11,325 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 107,060 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,492 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.25%, S&P500 -0.0%, Nasdaq +0.31% ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอสังหาฯ -2.46%, สินค้าอุปโภค -1.39% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี +1.18%, บริการสื่อสาร +0.51% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐ พ.ค. -13.7% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.74% ถูกแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้นรับข่าวอิหร่าน – อิสราเอลหยุดยิง ขณะที่กลุ่มยานยนต์ยุโรป +1.3% หลังยอดขายรถยนต์ พ.ค. +1.9% YoY           

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA ปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้น 2 วันทำการตอบรับข่าวอิหร่าน – อิสราเอลหยุดยิง แต่ Nasdaq ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.18% นำโดย Nvidia +4.3% ส่งผลให้มูลค่าตลาดปรับขึ้นไปอยู่ที่ 3.77 ลล.ดอลลาร์ ส่วนถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดต่อคณะกรรมาธิการการเงินวุฒิสภานั้น ยังคงเน้นรอประเมินผลกระทบจาก ม.ภาษีศุลกากร ก่อนจะตัดสินใจลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 67% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม ก.ย. นี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, US GDP Q1/68 และวันศุกร์ US PCE พ.ค.คาด 2.5% & เม.ย. 2.6% YoY  
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มธนาคาร นำโดย Commerzbank -5.7% และกลุ่มวัสดุพื้นฐาน, ค้าปลีกที่ปรับลดลง ขณะที่กลุ่มยานยนต์ +1.3% นำโดย Stellantis +3% รับข่าวยอดขายรถยนต์ในยุโรป พ.ค. +1.9% YoY ส่วนการประขุม NATO วานนี้มีมติเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 5% ต่อ GDP ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งมีเพียงสเปนที่ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลให้อาจถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตราเพิ่มขึ้น 2 เท่า โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – อียู ก่อนจะถึงเส้นตายในวันที่ 8 ก.ค.
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.04%, ฮั่งเส็ง +1.23% หลังทางการจีนเปิดเผยร่างนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะเน้นด้านการบริโภค และสนับสนุนเศรษฐกิจในวงกว้าง รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของบริษัทกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เข่น การขายหุ้น IPO, การออกหุ้นกู้ และช่องทางอื่น ๆ ส่วนดัชนีนิเกอิ +0.39% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ตามการเติบโตของเทคโนโลยี Ai
  • SET วานนี้ +0.70% ปริมาณการซื้อขาย 26 หมื่น ลบ สถาบันซื้อ 1,200 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,251 ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 143 ลบ. และรายย่อยขาย 3,709 ลบ. โดยดัชนี SET ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลัง ปธน.ทรัมป์สั่งให้อิสราเอล – อิหร่านหยุดยิง ส่งผลให้ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ปรับลดลง กอปรปัจจัยการเมืองในประเทศนิ่งขึ้น หลังพรรคเพื่อไทยกำลังทำการปรับ ครม. เพื่อบริหารราชการต่อไป แม้ว่าสัปดาห์หน้าวันที่ 1 ก.ค. ศาล รธน.มีโอกาสจะวินิจฉัยคำร้องของ สว.ให้นายก ฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และถอดถอนจากตำแหน่ง ในประเด็นไม่ซื่อสัตย์สุจริต – ฝ่าฝืนจริยธรรมในกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน แต่คาดการพิจารณาคำร้องดังกล่าวอาจต้องใช้เวลา 3 – 6 เดือน ซึ่งจะยังไม่กระทบต่อการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 69 ในช่วงกลาง ส.ค. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง, ท่องเที่ยว และค้าปลีก ตอบรับงบประมาณกระตุ้นท่องเที่ยววงเงิน 1.0 หมื่น ลบ. ซึ่งส่วนหนึ่งจะใข้ในโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง กอปรกับกลุ่มไฟแนนท์ก็เริ่มฟื้นตัว นำโดย KTC +6.0% หลังเริ่มมีแรงซื้อจากออร์เดอร์ Big Lot มูลค่า 2.67 พัน ลบ. ส่วนผลการประชุม กนง.วานนี้มีมติ 6 – 1 คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% และได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ไทยปีนี้จากเดิมคาดที่ 2.0% เป็น 2.3% โดย GDP ไทยในครึ่งปีแรกนี้คาด +2.9% เป็นผลจากการส่งออกขยายตัวดีกว่าคาด แต่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวในข่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งทาง กนง.พร้อมใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ตลาดยังคาดมีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้        

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,095 – 1,100 แนวต้าน 1,115 – 1,120 หลังดัชนีได้ฟื้นตัวตอบรับข่าวการหยุดยิงของอิหร่าน – อิสราเอลระดัขหนึ่งแล้ว และยังรอประเมินสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยว & ขนส่ง เช่น MINT,CENTEL,ERW,AAV,BA ได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นท่องเที่ยว / กลุ่มอิเล็ก ฯ CCET,HANA,KCE จากยอดส่งออกสินค้ากลุ่มอิเล็ก ฯ ในช่วง Q2/68 ยังขยายตัวได้ดี
  • SCGP* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 16.50 บาท) บริษัทรายงานกำไร 1Q68 ที่ 900 ล้านบาท ดีขึ้น QoQ แต่ยังลดลง YoY หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นรวมที่ฟื้นตัว แนวโน้มผลประกอบการ 2Q68 มีโอกาสฟื้นตัว QoQ ต่อเนื่องหนุนจากปริมาณขายบรรจุภัณฑ์ในเวียดนามและอินโดนีเซียที่ฟื้นตัวหลังผ่านช่วงเทศกาล ขณะที่ผลขาดทุนของ Fajar เริ่มลดลง ส่วนใน 2H68 แนวโน้มกำไรอาจจะอ่อนตัวตามปัจจัยฤดูกาลเทียบกับ 1H68 แต่ถ้าเทียบปีก่อนน่าจะกลับมาโต YoY จากฐานที่ต่ำ สำหรับภาพรวมทั้งปี 68 ตลาดคาดกำไรสุทธิ 5 พันล้านบาท -5%YoY ยังคงได้รับผลกระทบจากการเพิ่มสัดส่วนใน Fajar และต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนในปี 69 คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตขึ้นเป็น 4.3 พันล้านบาท +22%YoY หนุนจาก Fajar ทีเริ่มกลับมาเป็นกำไรได้

NETBAY* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.65 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 71 ลบ. (+49%YoY , +12%QoQ) ตามรายได้การดำเนินงานที่สูงขึ้น +41%YoY มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการรับรู้รายได้งานโครงการพัฒนาระบบ Digital Zoo แลธดครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มกลางการจัดเก็บฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ การดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อจาก Fynnet Ventures (ให้บริการ Compliance Solution ผ่านแพลตฟอร์ม CHECK+) และ Ai-Box ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ NETBAY* จะอยู่ที่ 247 ลบ.(+14%YoY) และ 272 ลบ.(+10%YoY) ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ส.ค.+$0.55 อยู่ที่ $64.92 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$0.54 อยู่ที่ $67.68/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 5.8 ล.บาร์เรล สูงกว่าคาดจะลดลง 1.2 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+9.20 อยู่ที่ $3,343.10 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.18% อยู่ที่ 97.679 และยังรอข้อมูล US PCE พ.ค. ที่จะรายงานในช่วงค่ำวันศุกร์นี้

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +18.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +81.2 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -57.16 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -5.84 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.274 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -16 จุด อยู่ที่ 1,665

(+) BitCoin เช้านี้ +0.78% อยู่ที่ 107,209 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

25 มิ.ย.     ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/68

30 มิ.ย.     ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม 

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค     

 

 

ต่างประเทศ

23 มิ.ย.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มิ.ย.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มิ.ย.) 

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)

24 มิ.ย.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มิ.ย.)

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

25 มิ.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)

27 มิ.ย.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( พ.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC,GULF

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: รับมอบประกาศนียบัตร Carbon Footprint ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

PTG ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: รับมอบประกาศนียบัตร Carbon Footprint ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

ไปต่อ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย เห็นตลาดหุ้นไทย ไปต่อ ตามแรงซื้อ หุ้นใหญ่หลายตัว ขยับปรับตัวขึ้น ไปต่อ ด้วยตัวแปรเชิงลบใหม่.....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้