Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

105

 


ฝรั่งหนุน กองทุนประคอง
TOP PICK PLANB / BEM / OSP

 

EXTERNAL FACTOR
• การเดินหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ค่อนข้างมีความเกี่ยวโยงกับนโยบายการค้าสหรัฐฯ จึงต้องรอดูความชัดเจนและติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิดเพราะหากพิจารณาข้อมูลในอดีต FED ปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก หลังจากเริ่ม TRADEWAR 1.0 ราว 13 เดือน และเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย 2%
• ส่วนทิศทางดอกเบี้ยปีนี้ DOT PLOT คาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง สู่ระดับ4.0% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในปี 2569 และอีก 1 ครั้ง ในปี 2570ซึ่งสอดคล้องกับ FETWATCH TOOL ที่คาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกปีนี้ในเดือน ก.ย. 68 (4.50% สู่ 4.25%) และครั้งที่สองในเดือน ธ.ค. 68(4.25% สู่ 4.00%)


INTERNAL FACTOR
• วานนี้กนง. เสียงแตก 6 : 1 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% ตามคาด
• อย่างไรก็ดี ธปท. ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้+2.3% (เดิมคาด 1.3-2.0%) และปีหน้า +1.7% ทั้งนี้ GDP ปี68 ไม่น่าจะขยายตัวต่ำกว่า 2.0% หากไม่เกิด SHOCK รุนแรง
• ฝ่ายวิจัยฯ ได้ประเมินเศรษฐกิจไทย ภายใต้สมมติฐานมูลค่า GDP เมื่อเทียบรายไตรมาส นับตั้งแต่ 2Q68-4Q68 คงเดิม พบว่า เศรษฐิกจใน 2Q68 โต +2.2%YOY, 2Q68โต +1.1%YOY, 2Q68 โต +0.7%YOY ซึ่งล้วนต่ำกว่า ธปท. และ BLOOMBERGคาดการณ์ไว้ทั้ง 3Q จึงน่าจะช่วยลดความกังวลการเกิด TECHNICAL RECESSION ได

 

 

INVESTMENT STRATEGY
• สัปดาห์นี้เม็ดเงินจากกองทุน THAIESGX เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.2 พันล้านบาทต่อวัน หนุนกองทุน THAIESGX มีเม็ดเงินไหลเข้ามาแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท (ณ 25 มิ.ย. 68) อย่างไรก็ตามกองทุน LTFเดิมยังมีเงินคงค้างอยู่ 1.17 แสนล้านบาท ดังนั้นช่วงที่เหลือของเดือน นักลงทุนอย่าลืมซื้อหรือโยกเงินจากกองทุน LTF ไปกองทุน THAIESGX กันจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม
• ความกลัวของนักลงทุนเบาลง พร้อมกับเห็น MOMENTUM จากต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย 3 วัน 3.8 พันล้านบาท น่าจะช่วยหนุนให้ OUTPERFORM ตลาดหุ้นโลกต่อได้กลยุทธ์ยังคงแนะนำเก็งกำไรหุ้นตัวเดิม ที่ลงลึก แต่ปัจจัยกดดันเริ่มผ่อนคลาย AOT, BH, CRC, CK, CCET, TU, WHA, GULF, BGRIM, PTT, PTTGC

 

ดอกเบี้ยสหรัฐฯขาลง แต่ยังไม่ลงเร็วๆ นี้
วานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งผันผวยในกรอบแคบ หลังจากที่ปรับขึ้นแรงในวันก่อนหน้า จากสัญญาณความเสี่ยงตะวันออกกลางผ่อนคลายลง ตามสหรัฐมีแผนที่จะเจรจากับอิหร่านในสัปดาห์หน้า และทั้งสองประเทศอาจมีการลงนามในข้อตกลงกัน ทำให้หลังจากนี้ ธนาคารกลางต่างๆ น่าจะอยู่ในช่วง WAIT & SEE รอประเมินผลกระทบ ก่อนจะตัดสินใจเลือกทางเดินหน้านโยบายเช่นเดียวกับ ผลการประชุม FED รอบล่าสุดที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 4.5% ตามคาด ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี2025 โดย FED มีท่าทีตรึงดอกเบี้ยไว้ เพื่อรอดูข้อมูลก่อนปรับนโยบาย พร้อมยอมรับว่าผลกระทบจากภาษีใหม่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งที่ล่าสุดของประธาน FED ยังคงย้ำจุดยืนเช่นเดียวกับการแถลงในวันแรกว่าส่งสัญญาณ “ไม่รีบลดดอกเบี้ย” อยู่ในช่วง WAIT & SEE รอดูความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ส่วนทิศทางดอกเบี้ยปีนี้ DOT PLOT ยังคงทิศทางไว้เหมือนเดิม คือ คาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง สู่ระดับ4.0% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในปี 2569 และอีก 1 ครั้ง ในปี 2570 ซึ่งสอดคล้องกับ FETWATCHTOOL ที่คาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกปีนี้ในเดือน ก.ย. 68 (4.50% สู่ 4.25%) และครั้งที่สองในเดือน ธ.ค.68(4.25% สู่ 4.00%) ซึ่ง MOVEMENT ดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามตัวเลขเศรษฐกิจ ถ้อยแถลง TRUMP/PAWELL และปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบให้เกิด STAGFATION มากขึ้น

 


สรุป การเดินหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ค่อนข้างมีความเกี่ยวโยงกับนโยบายการค้าสหรัฐฯ จึงต้องรอดูความชัดเจนและติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด เพราะหากพิจารณาข้อมูลในอดีต FED ปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก หลังจากเริ่ม TRADE WAR 1.0 ราว 13 เดือน พร้อมกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย 2%ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงการประชุมครั้งถัดไป(ก.ย.68)กนง. คงเดิม แต่ SET เดินหน้าต่อนะ การประชุม กนง. วานนี้ เสียงแตก 6 : 1 มีมติ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” 1.75% ตามคาด พร้อมกับประเมิน

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไว้ดังนี้
• ธปท. ประเมินเศรษฐกิจไทย 1H68 ขยายตัวดีเกินคาดจากภาคการผลิตและการเร่งส่งออกสินค้า ส่วนเศรษฐกิจไทยใน 2H68 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง โดยความเสี่ยงหลักตกอยู่ที่การส่งออกสินค้า อาจได้รับผลกระทบจากนโยบาย TARIFF และ GEOPOLITICAL RISK รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตามรายได้และความเชื่อมั่นที่ลดลง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวปรับลดลงเช่นกัน
• เงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน (ยังไม่เห็นสัญญาณราคาสินค้าลดลงเป็นวงกว้าง)ขณะที่ CORE CPI ซึ่งสะท้อนอุปสงค์ ยังขยายตัวได้ดี
• สินเชื่อชะลอลง ส่วนหนึ่งจากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงในบางกลุ่มและความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้นอย่างไรก็ดี ธปท. ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 โต +2.3% (เดิมคาด 1.3-2.0%) และปี 69 โต +1.7% (เดิมคาด 1.0-1.8%) ภายใต้สมมติฐานที่ไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 18% ทั้งนี้ GDP ปี68 ไม่น่าจะขยายตัวต่ำกว่า 2.0% หากไม่เกิด SHOCK รุนแรง หรือเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะ RECESSION


ในแง่มุมของความเสี่ยง RECESSION ฝ่ายวิจัยฯ ได้ประเมินเศรษฐกิจไทย ภายใต้สมมติฐานมูลค่า GDP เมื่อเทียบรายไตรมาส (SEASONAL ADJUSTED) นับตั้งแต่ 2Q68-4Q68 คงเดิม (GDP GROWTH = 0.0%QOQ) พบว่าเศรษฐิกจใน 2Q68 โต +2.2%YOY, 2Q68 โต +1.1%YOY, 2Q68 โต +0.7%YOY ซึ่งล้วนต่ำกว่า ธปท. และBLOOMBERG คาดการณ์ไว้ทั้ง 3Q จึงน่าจะช่วยลดความกังวลการเกิด TECHNICAL RECESSION ได้


กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้น ธ.พ. NIM สูง KTB BBL, หุ่นปันผลระหว่างกาลสูง TTB KKP PTT SIRI ICHI, หุ้นเด่นรับมาตรการภาครัฐหนุน/งบ 69 เดินหน้าต่อ AOT ERW CENTEL CPALL BJC CPAXT WHA CK STECONหวังหุ้นไทยเดินหน้าต่อ...ฝรั่งกลับมาซื้อสะสม พร้อมกับรอเม็ดเงิน THAIESGX โค้งท้ายสัปดาห์นี้ เม็ดเงินจากกองทุน THAIESGX เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.2 พันล้านบาทต่อวัน หนุนกองทุน THAIESGX มีเม็ดเงินไหลเข้ามาแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท (ณ 25 มิ.ย. 68) อย่างไรก็ตามกองทุน LTF เดิมยังมีเงินคงค้างอยู่ 1.17 แสนล้านบาท ดังนั้นช่วงที่เหลือของเดือน นักลงทุนอย่าลืมซื้อหรือโยกเงินจากกองทุน LTF ไปกองทุน THAIESGX กัน จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม


ความกลัวของนักลงทุนเบาลง พร้อมกับเห็น MOMENTUM จากต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย 3 วัน 3.8 พันล้านบาทน่าจะช่วยหนุนให้ OUTPERFORM ตลาดหุ้นโลกต่อได้ กลยุทธ์ยังคงแนะนำเก็งกำไรหุ้นตัวเดิม ที่ลงลึก แต่ปัจจัยกดดันเริ่มผ่อนคลาย AOT, BH, CRC, CK, CCET, TU, WHA, GULF, BGRIM, PTT, PTTGC

 


Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: รับมอบประกาศนียบัตร Carbon Footprint ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

PTG ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ: รับมอบประกาศนียบัตร Carbon Footprint ตอกย้ำวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข"

ไปต่อ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย เห็นตลาดหุ้นไทย ไปต่อ ตามแรงซื้อ หุ้นใหญ่หลายตัว ขยับปรับตัวขึ้น ไปต่อ ด้วยตัวแปรเชิงลบใหม่.....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้