Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.ทิสโก้ : มูลค่าการส่งออกไทยเดือน พ.ค. ขยายตัว 18.4% YoY

99

 

 

ECONOMICS : มูลค่าการส่งออกไทยเดือน พ.ค. ขยายตัว 18.4% YoY สูงสุดในรอบ 38 เดือน ขณะที่การนำเข้าโต 18.0% สะท้อนการส่งสินค้าผ่านไทยที่ยังต่อเนื่อง และผลบวกจากการบังคับใช้ภาษีตอบโต้ที่ล่าช้า


การส่งออกไปตลาดสำคัญขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ จีน และยุโรป ด้านสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ยังโตดีต่อเนื่อง ส่วนสินค้าเกษตรพลิกกลับมาบวก

• การส่งออกภายใต้ระบบศุลกากรในเดือน พ.ค. พลิกกลับมาเกินดุลที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากที่ขาดดุล -3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้า อยู่ที่ 31,044.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 18.4% YoY (vs. 10.2% เดือนก่อน) ขณะที่ การนำเข้าขยายตัว 18.0% YoY (vs. 16.1% เดือนก่อน) อยู่ที่ 29,928.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

• การส่งออกและนำเข้าภายใต้ระบบศุลกากรในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2025 ขยายตัวที่ 14.9% และ 11.3% ตามลำดับ หากพิจารณาเฉพาะภาคเศรษฐกิจจริง (หักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับ ทองคำ น้ำมัน และยุทธปัจจัย) การส่งออกสินค้า ในเดือน พ.ค. ขยายตัวแข็งแกร่งที่ 20.3% YoY ส่งผลให้การส่งออกในภาคเศรษฐกิจจริงในช่วง 5M25 ขยายตัว 13.9% ส่วนดุลการค้าในช่วง 4 เดือนขาดดุลสุทธิ -1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

• อุปสงค์จากประเทศคู่ค้าหลักยังคงแข็งแกร่ง โดยการส่งออกไปยังตลาดหลักขยายตัวในระดับเลขสองหลักที่ 19.0% YoY (vs. 12.7% เดือนก่อน) โดยหากพิจารณารายละเอียด พบว่าการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ขยายตัว 35.1% YoY (vs. 28.3% เดือนก่อน) ตลาดจีนขยายตัว 28.0% YoY (vs. 3.2% เดือนก่อน) และตลาดสหภาพยุโรป-27 ขยายตัว 16.6% YoY (vs. 6.1% เดือนก่อน) ขณะที่การส่งออกไปยังตลาด CLMV ชะลอลงเล็กน้อยที่ 20.8% YoY (vs. 25.2% เดือนก่อน) แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

• หากพิจารณาตามลักษณะของสินค้า การส่งออกสินค้าเกษตรพลิกกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกหลังจากหดตัวต่อเนื่อง 4 เดือนที่ 6.8% YoY (vs. -19.6% เดือนก่อน) ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรยังคงแข็งแกร่งที่ 10.1% YoY (vs. 9.1% เดือนก่อน) โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง และบรรจุกระป๋อง ซึ่งขยายตัว 11.8% YoY (vs. -29.0% เดือนก่อน) และไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัว 9.3% YoY (vs. 8.6% เดือนก่อน) ในทางกลับกัน การส่งออกข้าวหดตัวที่ -9.9% YoY (vs. -44.0% เดือนก่อน) และการส่งออกยางพาราหดตัวที่ -7.8% YoY (vs. 22.5% เดือนก่อน)

• ด้านสินค้าอุตสาหกรรม การส่งออกขยายตัว 22.9% YoY (vs. 16.6% เดือนก่อน) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 โดยสินค้าสำคัญที่หนุนการขยายตัวได้แก่ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ซึ่งขยายตัว 104.0% YoY (vs. 75.1% เดือนก่อน) รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัว 15.3% YoY (vs. -7.8% เดือนก่อน) ผลิตภัณฑ์ยางขยายตัว 34.2% YoY (vs. 15.9% เดือนก่อน) และแผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Integrated Circuits) ขยายตัว 41.4% YoY (vs. 39.0% เดือนก่อน) ขณะที่การส่งออกอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ที่
-32.1% YoY (vs. -33.1% เดือนก่อน) เช่นเดียวกับการส่งออกเม็ดพลาสติก (-4.4% YoY vs. -5.6% เดือนก่อน) โทรศัพท์และส่วนประกอบ (-20.8%) และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ (-9.5%) ที่ยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ

• ด้านการนำเข้า: การนำเข้าสินค้าทุน (41.1% YoY vs. 27.5% เดือนก่อน) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (19.3% vs. 17.4% เดือนก่อน) และยานพาหนะและอุปกรณ์การข่นส่ง (23.8% vs. -0.6% เดือนก่อน) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (10.1% vs. 11.9% เดือนก่อน) ชะลอตัวลงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิง (-11.8% vs. 1.7% เดือนก่อน) พลิกหดตัว

การส่งออกรวมในเดือน พ.ค. โตดีกว่าที่คาดไว้มาก แต่การนำเข้าก็โตสูงเช่นกัน โดยเฉพาะหมวดคอมพิวเตอร์ที่โตสูงทั้งส่งออกและนำเข้า สะท้อนว่าไทยเป็นทางผ่านของสินค้าจากต่างประเทศ ด้านอัตราภาษีที่แท้จริงที่สหรัฐฯ จัดเก็บแม้ปรับขึ้นบ้าง แต่ยังไม่สูงอาจเป็นอีกปัจจัยหนุน

• ตัวเลขการส่งออกสินค้าในเดือน พ.ค. รายงานออกมาสูงกว่าที่เราคาดการณ์ โดยเฉพาะการส่งออกที่ไม่รวมทองคำ น้ำมัน และยุทธปัจจัย ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแรง โดยกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของปธน. ทรัมป์ ส่งผลให้การส่งออกยังสามารถเร่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ในอัตราที่แข็งแรงเมื่อเทียบจะเทียบกับเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซีย อาทิ ไต้หวัน (+24%), เวียดนาม (+17%), สิงคโปร์ (+7%), จีน (+5%), เกาหลีใต้ (-1%) และอินเดีย (-2%)

• การส่งออกสินค้าในเดือน เม.ย. แม้ว่าจะโตได้ในระดับเลขสองหลัก แต่ถือว่าทำได้น่าผิดหวัง เนื่องจากแรงส่งออกการเร่งส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เริ่มแผ่ว การส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวและมันสำปะหลังยังหดตัวแรงต่อเนื่อง อีกทั้งทุเรียนที่คาดว่าจะช่วยหนุนได้กลับเป็นปัจจัยฉุด ดังนั้น หากมองไปในเดือนข้างหน้าที่อัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วนั้น คาดว่ายอดการส่งออกในระยะต่อจากนี้จะเผชิญกับความจริงที่โหดร้าย คือจะเริ่มชะลอตัวลงแรง และอาจเห็นการหดตัวในระดับเลขสองหลักได้ในช่วงครึ่งหลังของปี

• เราคงประมาณการเศรษฐกิจไทยไว้ที่ 1.4% ในปี 2025F และ 1.4% ในปี 2026F และยังคาดว่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มหดตัว ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขทั้งปีขยายตัวได้ราว 2% ด้านความเสี่ยงต่อประมาณการโน้มไปทางด้านต่ำจากสงครามการค้าที่ยังไม่แน่นอนสูง จำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจลดลง และภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่สูงขึ้นอาจส่งผลต่อแรงส่งทางการคลัง

• จากตัวเลขการส่งออกที่ดีกว่าคาด และการต่อรองด้านภาษีศุลกากรที่ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา เราประเมินว่า กนง. มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ตามเดิมในการประชุมสัปดาห์หน้า (25 มิ.ย.) ขณะที่เรายังคงประเมินว่า กนง. มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในช่วงครึ่งหลังของปี (Q3 และ Q4 ไตรมาสละครั้ง) ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2025 จะอยู่ที่ 1.25% ขณะเดียวกัน มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะต่อเนื่องไปยังครึ่งแรกของปี 2026 โดยมองว่า กนง. จะปรับลดเพิ่มเติมอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้าคาดว่าจะลดลงไปอยู่ที่ระดับ 0.75%

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

ไฟการเมือง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักลงทุน ยังคงชะลอลงทุนต่อไป ด้วยเห็นไฟการเมืองในประเทศแล้ว ก็ถอย พัก รอดูสถานการณ์ .....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้