Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาด SET วันนี้ "ลุ้นรีบาวด์ หากการเมืองชัดเจน"

91

 

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(20 มิถุนายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2568 คาดตลาดแกว่งตัวผันผวน แต่ที่บริเวณใกล้ Low เดิม 1056 มีโอกาสรีบาวด์ได้สูง มีแนวรับที่ 1056 และ 1050 ส่วนแนวต้านที่ 1080/1095 สถานการณ์ในตะวันออกกลางตลาดรอดูว่าสหรัฐฯ จะเข้าร่วมสงครามหรือไม่ และการเมืองในประเทศหากมีความชัดเจนมีโอกาสที่จะทำให้ตลาดรีบาวด์ หลังตลาดตอบสนองเชิงลบมาระดับหนึ่งแล้ว ติดตาม รสทช. เข้าหารือนายกฯ

 

ประเด็นสำคัญ
• นายกฯ ส่งสัญญาณดำรงตำแหน่งต่อ และพรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่เดินหน้าร่วมรัฐบาลต่อ ยกเว้นพรรค รทสช. ที่จะต้องติดตามการพูดคุยเงื่อนไขใหม่ก่อนที่จะมีมติพรรค โดยได้มอบหมายหัวหน้าพรรคเข้าหารือกับนายกฯ
• ธปท. เผย 3 ผู้รับเลือกอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank ได้แก่ บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้งส์ จำกัด (เครือ CP), กลุ่ม KTB-AIS-OR และกลุ่ม SCBX-WeTechnology-KakaoBank ทั้ง 3 รายมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ซึ่งจะนำมาสู่ความหลากหลายในระบบ ศก. การเงิน ผู้รับคัดเลือกมีเวลา 1 ปีในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มดำเนินการ
• กบน. มีมติปรับลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับดีเซลอีก 70 สต./ลิตร มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อรอบรับราคาน้ำมันโลกที่ผันผวนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ กบน. ได้ประกาศลดอัตราเงินสมทบเป็นครั้งที่ 3 ในเดือนนี้ รวม 2.10 บาท/ลิตร
• สำนักข่าว Mehr ของอิหร่านรายงานรัฐสภาอิหร่านกำลังพิจารณาแผนการปิดช่องแคบ Hormuz เป็นทางเลือกเพื่อตอบโต้การรุกราน ด้าน Bloomberg รายงานสหรัฐฯ กำลังเตรียมโจมตีอิหร่านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และ WSJ เผย ปธน. ทรัมป์ได้อนุมัติแผนการโจมตีอิหร่านแล้วแต่ยังไม่อนุมัติให้เริ่มปฏิบัติการ
• กรมรางเผยยอด ผดส. รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานีหลังเริ่มเก็บค่าโดยสารวันแรกลดลง 68% เหลือเพียง 2,168 คน-เที่ยว/วัน เมื่อเทียบกับยอดเฉลี่ยช่วงทดลองระหว่างวันที่ 20 พ.ค. – 16 มิ.ย. 2568 ซึ่งทับซ้อนกับช่วงงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2025 ที่มียอดเฉลี่ยสูงถึง 16,669 คน-เที่ยว/วัน


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวน อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าเพิ่มเติม (ญี่ปุ่น อินเดีย) หลังมีข้อสรุปเบื้องต้นกับจีนแล้ว รวมถึงการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวกับประเทศอื่นๆ ใน 1-2 สัปดาห์นี้ ขณะที่ปัจจัยภายในยังติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง (การปรับ ครม.) และการออกมาตรการกระตุ้น ศก. (เที่ยวไทยคนละครึ่ง และโครงการกระตุ้น ศก. 1.57 แสนลบ.) อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่า ช่วงต้น เม.ย. SET ได้ปรับลงสะท้อนวิกฤติจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ไปแล้ว (มอง SET ผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้วที่ Downside 1,032 จุด) และยังคงมุมมองว่าหากดัชนีปรับตัวลงมาบริเวณ 1100 ยังเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ-ต้าน
1056/1050– 1080/1095


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET ผันผวน รอติดตามความชัดเจนจากหลายปัจจัย อาทิ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าเพิ่มเติม, อัตราภาษีฝ่ายเดียวจากสหรัฐฯ และปัจจัยการเมืองไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 4 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC TRUE CPALL BTG CPF
2. หุ้น SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป พร้อมคาดให้ Div. Yield ตั้งแต่ 5% ขึ้นไป แนะนำ PTT KTB BBL HMPRO
3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BDMS CPALL PTT BCH BTG AP
4. หุ้นตั้งรับที่มีรายได้ในประเทศเป็นหลัก สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการรอดูความชัดเจนของการดำเนินมาตรการภาษีของ ปธน. ทรัมป์ แนะนำ BCH CPALL GULF MTC OR TRUE
5. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังเกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนะนำ PTT PTTEP BCP 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์หากรัฐออกมาตรการะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แนะนำ SCC SCCC STECON CK และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF), กลุ่มเช่าซื้อ (MTC TIDLOR) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF GPSC)

 

Daily top picks
DIF: มองมีปัจจัยระยะสั้นจากการไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด แนวโน้มใน 2Q68 คาดว่ากำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีสูงถึง 11% ในปี 2568 และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกใน 2H68 จะเป็นปัจจัยกระตุ้นได้

PTT: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และราคาหุ้นปัจจุบันไม่แพง โดยซื้อขาย PBV 2568F ที่ระดับ 0.7 เท่า (-1.5 SD) และ PER ที่ระดับ 7.5 เท่าเทียบค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ PBV 1.3 เท่า และ PER 14.6 เท่า อีกทั้งปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตเด่น 44%YoY และให้ Div. Yield ปีนี้สูงราว 6-7%

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

FTI ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบบำบัดน้ำ จัดสัมมนาใหญ่ "Future Water Solutions 2025"

ไฟการเมือง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักลงทุน ยังคงชะลอลงทุนต่อไป ด้วยเห็นไฟการเมืองในประเทศแล้ว ก็ถอย พัก รอดูสถานการณ์ .....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้