AT THE OPEN (#ATO)
การเมืองยังกดดันต่อ
Selective หุ้นรายตัวชอบ CCET BCP
Market Strategy
SET พักตัวที่ 1080-1100 จากปัจจัยการเมือง ส่วนประเด็นอิหร่าน-อสราเอลแรงกดดันต่อตลาดการเงินลดลง ส่วนการประชุม FED คงดอกเบี้ยตามคาด หุ้นเด่นวันนี้เลือก CCET BCP
ปัจจัยทางการเมืองเป็นประเด็นกดดันหลัก เรามองเห็น 4 Scenario 1) นายกรัฐมนตรีลาออก รัฐบาลชุดเดิมเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นกรณีดีที่สุด เพราะทำให้การบริหารประเทศต่อเนื่อง 2) นายกฯ ดำรงตำแหน่งต่อ แต่รัฐบาลอาจอยู่ได้ไม่นาน จากประเด็นเสถียรภาพรัฐบาล 3)นายกฯ ยุบสภาและจัดเลือกตั้งใหม่ทันที เป็นกรณีที่ไม่พึงประสงค์สำหรับพรรคเพื่อไทยและบางพรรคร่วมรัฐบาล เพราะกระแสความนิยมต่ำลง 4)รัฐประหาร (ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นต่ำมากในเวลานี้)
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับว่าจะยุบสภาเมื่อไร หากยุบในช่วง 2 เดือนข้างหน้า อาจทำให้ร่างงบประมาณไม่ผ่านสภา และนำไปสู่ความล่าช้าในการใช้งบฯ แต่ถ้ายุบหลังจากงบประมาณผ่านแล้ว ก็น่าจะไม่มีผลกระทบที่เป็นรูปธรรมมากนัก อย่างไรก็ตามปีนี้มี 2 ปัจจัยที่ช่วยรองรับผลกระทบจากการล่าช้างบประมาณ 1) การเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบฯ 2568 (ต.ค. 67 - มี.ค. 68) ใช้ไปเพียง 26% ดังนั้นยังมีเงินเหลืออยู่มาก 2) ยังมีวงเงินโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลเหลืออยู่ 157,000 ล้านบาท ซึ่งกำลังถูกปรับเปลี่ยนไปใช้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานระยะสั้น เช่น ถนน ระบบชลประทาน และมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ
ผลต่อตลาดหุ้นเราคาดในยามที่การเมืองไม่ชัดเจนจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ตลาดหุ้นปปรับลง โดยในเชิงกลยุทธ์เลือกระยะสั้นไปที่กลุ่ม Defensive PR9 กลุ่มได้ประโยชน์จากบาทอ่อน CCET กลุ่ม High Yield PTTEP KTB และ OSP
Market Summary
SET Index ปรับลง -1.7% หรือ 19 จุด จากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ กลุ่มที่ปรับลงแรง คือ กลุ่มรับเหมาฯ -4.3% กลุ่มอาหารนำโดย CPF -8.8% TFG -7.5% จากราคาหมูที่ปรับลง กลุ่ม ICT จาก TRUE -6% จากงบ 2Q68 คาดลดลง QoQ และการเปิดตัวแพ็คเกจของ EPL ของ ADVANC กลุ่มที่ปรับขึ้น กลุ่มอิเล็คฯตามการขยายตัวส่งออกเดือน พ.ค. HANA+4% KCE +4% ท่องเที่ยว CENTEL +2%
DAILY Stock Pick
CCET
ตัวเลขส่งออกโตเด่น
ทยอยรับรู้รายได้ลูกค้ารายใหม่ในเดือนหน้า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท
ยอดขายประจำเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 366 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+13%YoY,+22%MoM) กลุ่มผลิตภัณฑ์ HDD/SSD น่าจะยังคงเป็นแหล่งการเติบโตหลักของ CCET สอดคล้องกับกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออก เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เติบโตถึง 104%YoY หนุนรายได้ในไตรมาส 2 ส่วนความไม่แน่นอนของการเมืองภายในประเทศ หนุนกลุ่ม Global Play
ลูกค้ารายใหม่ในกลุ่มเครื่องพิมพ์เลเซอร์ของ CCET คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 นอกจากโรงงานที่เพชรบุรี (สำหรับรองรับลูกค้ารายใหม่สองรายในกลุ่มเครื่องพิมพ์เลเซอร์) โรงงานที่สร้างขึ้นใหม่ในประเทศบราซิลก็เริ่มดำเนินการแล้วเช่นกัน (คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตโดยรวมของ CCET ได้ 6-8%)
KEY FACTOR
Fed คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25% - 4.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมส่งสัญญาณมุมมองดอกเบี้ยระยะยาว ผ่าน Dot Plot บ่งชี้โอกาสการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ในปีนี้ และต่อเนื่องอีก 1 ครั้ง ในปี 2569 ซึ่งเข้มงวดขึ้น Dot Plot ครั้งล่าสุด เดือน มี.ค. (ที่ให้น้ำหนักลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีหน้า)
ส่งออกของไทย เดือน พ.ค. ขยายตัว +18.4% YoY คิดเป็นมูลค่าแตะระดับ 31,044.6 ล้านเหรียญฯ สูงสุดในรอบ 38 เดือนนับตั้งแต่มีนาคม 2565 หากตัดสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยออก +20.3% YoY ได้แรงหนุนจากสินค้าอุตสาหกรรม นำโดย คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า และฮาร์ดดิสก์ และ สินค้าเกษตร หลังการผ่อนคลายการใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ
EYES ON
20 มิ.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ