คาด SET Index ปรับตัวลง: แรงกดดันจากความกังวลการเมืองไทย สงครามตะวันออกกลาง และเศรษฐกิจสหรัฐฯ หากแต่พอมีแรงพยุงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงลุ้นโครงการภาครัฐและการเผยตัวเลขส่งออกไทยเดือนพ.ค.68

แนวรับ-ต้าน
1,100 –1,120

กลยุทธ์การลงทุน
1) เข้า SET50/100 รอบ 2H68
-SET50: BCP, KKP, TCAP, TIDLOR
-SET100: AURA, JTS, MBK, TFG, TOA, WHAUP
2) พลังงาน: PTTEP, SPRC, TOP
3) ท่องเที่ยว: CENTEL, ERW, MINT
4) ส่งออก: CPF, HANA, KCE, NER
5) Short-sell: BGRIM, CBG, GPSC, TRUE

เธอจะอยู่หรือไป ?

ความกังวลเสถียรภาพของรัฐบาลไทย: คาดแรงกดดันมาจากความกังวลเสถียรภาพของรัฐบาลไทย หลังมีรายงานข่าวความคืบหน้าการปรับครม.แจ้งว่าคุณแพทองธาร นายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทยตัดสินใจเดินหน้าปรับครม. โดยวานนี้เวลา 15.00 น. ได้แจ้งไปยังคุณอนุทินหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้ตัดสินใจว่าจะรับเงื่อนไขการปรับครม.หรือไม่ซึ่งพรรคเพื่อไทยขอก.มหาดไทยมาบริหาร โดยสับเปลี่ยนให้พรรคภูมิใจไทยบริหารก.สาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีสำนักนายกฯ และขอค าตอบใน 48 ชม. และข่าวยังแจ้งอีกว่าหากพรรคภูมิใจไทยไม่รับเงื่อนไข โดยยืนกรานจะไม่ปล่อยก.มหาดไทย นายกฯจะปรับครม.โดยไม่มีพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล ขณะที่ท่าทีก่อนหน้านี้คุณอนุทินยืนยันชัดว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้านถ้าถูกยึดก.มหาดไทย ดังนั้น ภาพข้างต้นมีโอกาสที่จะนำไปสู่ผลลัพท์ที่รัฐบาลมีสส.ลดลงหากทัง้ 2 พรรคไม่สามารถตกลงร่วมกันได้

ความกังวลสงคราม รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ: คาดแรงกดดันมาจากสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่านที่วานนี้ได้เข้าสู่วันที่ 5 และยังไม่มีท่าทีว่า จะเข้าสู่การแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีขณะที่ฝ่่งสหรฐั ฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปธน.ทรัมป์เผยว่าตอนนี้เขาควบคุมท้องฟ้าเหนืออิหร่านได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมี Sentiment เชิงลบจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.68 -0.9%m-m แย่กว่าตลาดคาดและเดือนเม.ย.68 ที่ -0.5% m-m และ -0.1%m-m ตามล าดับ ขณะที่คืนนี้ติดตามประชุม FOMC ซึ่งตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.5% รวมถึงติดตาม Economic project และDotplot ซึ่งจะเผยถึงทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงนิ ของสหรัฐฯ

แรงพยุงจากพลังงานและลุ้นโครงการรัฐ: มองทางลงยังพอมีแรงพยุง โดยคาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTIที่ปรับตัวขึ้น 4.28% ปิดที่ $74.84 ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์ตะวันออกกลาง อีกทั้ง มีลุ้นแรงพยุงเพิ่มเติมจากการประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจในวันนี้ซึ่งอาจเผยถึงความคืบหน้าของโครงการใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท รวมถึงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนแล้ววานนี้ ขณะที่การเผยตัวเลขการค้าไทยเดือนพ.ค.68 เช้านี้ มีแนวโน้มเป็นอีก Sentiment เชิงบวก หลังก่อนหน้านี้คุณพิชัย รมว.พาณิชย์ เผยว่ายังเติบโตเป็นเลข 2 หลัก

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)ครม.เห็นชอบในหลักการไทยเจ้าภาพจัด F1 วงเงินดำเนินการ 4.1 หมื่นล้านบาท เริ่มเป็นเจ้าภาพปี 2571-75 คาดทำให้เงินสะพัดทางเศรษฐกิจระหว่างการจัดการแข่งขันเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท/ปี
(+)ครม.อนุมัติโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV)1,520 คัน ระยะเวลา 7 ปี ในกรอบวงเงินลงทุนโครงการ 15,355.60 ล้านบาท
(+/-) บอร์ดไตรภาคีค่าแรงเคาะปรับเพิ่มค่าแรงขัน้ ต่า 400 บาททั่วกทม. ส่วนจังหวัดอื่นได้แค่บางกลุ่มอาชีพ นำร่อง กลุ่มกิจการโรงแรม และสถานบริการเริ่มมีผลวันที่ 1 ก.ค.68 ทางฝ่ายมองเป็นแรงหนุนต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในทางกลับกัน คาดเป็นแรงกดดันด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ
(-) IMD เผยรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆทั่วโลกประจำปี 2568 ผลปรากฏว่าไทยอยู่ที่อันดับ 30 ในปีนี้ จากทั้งหมด 69ประเทศ/ดินแดนในการสำรวจ ลดลง 5 อันดับจากปีก่อนหน้า

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์