ไม่สงบ (สักที)
TOP PICK PTT / WHA / CPN

EXTERNAL FACTOR
• ความตึงเครียดตะวันออกกลางส่อแววยืดเยื้อและรุนแรงมากขึ้น ทำให้ทุกคนยังคงหลีกเลี่ยงเดินทางผ่านอิสราเอลกับอิหร่าน บวกกับเพิ่มความเสี่ยงในการปิดช่องแคบ
ฮอร์มุซ และเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันดิบโลกขยับขึ้น ซึ่งจะมาตามด้วยปัญหาเงินเฟ้อ
• คืนนี้เวลาตี 1 รอติดตามท่าทีของ FED ในการประชุม FOMC พร้อมกับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะ DOT PLOT
• แม้ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ แต่คาดว่ามีหุ้น/สินทรัพย์บางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาหุ้นน้ำมันไทยกลับมา STOCK GAIN (2Q) และราคา LAGGARD กว่า แนะ PTT,
PTTEP, BCP, JAPAN13, OIL03, GOLD03

INTERNAL FACTOR
• การเมืองไทยยังร้อนแรง หลังพรรคเพื่อไทย ขีดเส้น 48 ชม. หวังพรรคภูมิใจไทยคืนกระทรวงมหาดไทย ในการปรับครม. ความไม่แน่นอนดังกล่าว ยังคงสร้าง
OVERHANG ให้กับตลาดหุ้นไทย
• จุดสำคัญที่ต้องโฟกัส คือ หากความขัดแย้งนำไปสู่การยุบสภา ถือเป็นความเสี่ยงต่องบประมาณปี 2569 (ที่รอพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3) อาจถูกเลื่อนออกไปไม่ทันเดือน ต.ค. 68 ถือเป็นลบต่อนโยบายการคลัง เศรษฐกิจ แต่ถ้าการเจรจาผ่านไปด้วยดี ก็มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ SET หลังตอบรับความกังวลนี้มานาน

INVESTMENT STRATEGY
• ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในความไม่สงบ ทั้งจากศึกการเมืองในประเทศ และสงครามต่างประเทศ ทำให้ยังขาดเม็ดเงินหล่อเลี้ยงในช่วงนี้
• กลยุทธ์การลงทุน ยามตลาดขาดสภาพคล่อง แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐาน ราคาลงมาลึก และไม่ถูกกระทบจากประเด็นสงคราม พร้อมกับผู้บริหายทยอยยังเข้ามาเก็บซื้อหุ้นบริษัทตัวเองในเดือนนี้ อย่าง CCET ผู้บริหารซื้อ 5แสนหุ้น ทุน 4.82 บาท, WHA ผู้บริหารซื้อ 6 ล้านหุ้น ทุนเฉลี่ย 2.97 บาท, CRC ผู้บริหารซื้อ 5.7 แสนหุ้น ทุนเฉลี่ย 17.16 บาท, GULF ราว 70 ล้านหุ้น ทุนเฉลี่ย 40.12 บาท

สงครามตะวันออกกลางคาราคาซัง
วานนี้ตลาดหุ้นโลกยังคงผันผวน ฝั่งสหรัฐฯ ร่วงลงราว 0.7% - 1% ส่วนฝั่งยุโรปปรับตัวลดลง 0.5% - 1.1% สวนทางกับราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ 3,391 เหรียญฯ ขณะที่ราคาIนนน้ำมันดิบ BRENT ดีดตัวยืนเหนือ 76 เหรียญฯ/บาเรล อีกครั้ง หลังความตึงเครียดตะวันออกกลางส่อแววยืดเยื้อและรุนแรงมากขึ้น

ความเสี่ยงในการขยายวงกว้างของสงคราม เพิ่มระดับความกังวลมากขึ้น หลัง ปธน. ทรัมป์ เตือนให้ทุกคนหนีออกจากเตหะราน พร้อมกับเรียกร้องให้อิหร่าน “ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข” และขู่ว่าจะโจมตีผู้นำสูงสุดของอิหร่านนอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลืออิสราเอลโจตี ทั้งกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน USS NIMITZ ถูกส่งไปยังตะวันออกกลางก่อนกำหนด มีการเสริมกำลังเครื่องบินรบในภูมิภาค รวมถึงดาวเทียมเผยภาพความเสียหายที่โรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใต้ดินที่นาทานซ์ความตึงเครียดข้างต้น ทำให้ทุกคนยังคงหลีกเลี่ยงเดินทางผ่านอิสราเอลกับอิหร่าน บวกกับเพิ่มความเสี่ยงในการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งมีน้ำมันดีเซลประมาณ 850,000 บาร์เรล/วัน หรือ 3% ของความต้องการทั่วโลก และเป็นเหตุให้ราคาน้ำมันดิบโลกขยับขึ้น ซึ่งจะมาตามด้วยปัญหาเงินเฟ้อ

อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องติดตาม คือ ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มเห็นการหดตัวในภาคการบริโภค ล่าสุดยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. 68 หดตัว -0.9%MOM ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่เงินเฟ้อยังยืนอยู่ในระดับสูงที่ 4.5% เพิ่มความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ STAGFLATION ให้อนาคตได้ ขณะที่ FEDWATCH TOOL ให้น้ำหนักเกือบ 90% คาด FED คงดอกเบี้ยไปถึงเดือน 7 อย่างไรก็ตาม คืนนี้เวลาตี1 รอติดตามท่าทีของ FED ในการประชุม FOMC พร้อมกับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะ DOT PLOT

สรุป แม้ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ แต่คาดว่ามีหุ้น/สินทรัพย์บางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาหุ้นน้ำมันไทยกลับมาSTOCK GAIN (2Q) และราคา LAGGARD กว่า แนะ PTT, PTTEP, BCP, JAPAN13, OIL03, GOLD03

อุณหภูมิการเมืองเร่งสูง ใกล้เห็นจุดเปลี่ยน
การเมืองไทยยังร้อนแรง หลังพรรคเพื่อไทย ขีดเส้น 48 ชม. หวังพรรคภูมิใจไทยคืนกระทรวงมหาดไทย ในการปรับครม. ความไม่แน่นอนดังกล่าว ยังคงสร้าง OVERHANG ให้กับตลาดหุ้นไทย

จุดสำคัญที่นักลงทุนจะต้องโฟกัส คือ ความขัดแย้งดังกล่าว หากนำไปสู่การยุบสภา ถือเป็นความเสี่ยงต่องบประมาณปี 2569 (รอพิจารณาวาระ 2 และ วาระ 3) อาจถูกเลื่อนออกไปและไม่ทันเดือน ต.ค. 68 ถือเป็นลบต่อนโยบายการคลัง และเศรษฐกิจ แต่ถ้าการเจรจาทั้ง 2พรรคผ่านไปด้วยดี ก็มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้น หลังตอบรับความกังวลนี้มานานระดับเกิน 1 เดือน

แนะสะสมหุ้นตามผู้บริหาร ยามตลาดไร้สภาพคล่อง
ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในความไม่สงบ ทั้งจากศึกการเมืองในประเทศ และสงครามต่างประเทศ ทำให้ยังขาดเม็ดเงินหล่อเลี้ยงในช่วงนี้โดยมูลค่าซื้อขาย SET วานนี้ 2.7 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยเดือนนี้ 3.3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

กลยุทธ์การลงทุน ยามตลาดขาดสภาพคล่อง แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐาน ราคาลงมาลึก และไม่ถูกกระทบจากประเด็นสงคราม พร้อมกับผู้บริหายทยอยยังเข้ามาเก็บซื้อหุ้นบริษัทตัวเองในเดือนนี้ อย่าง CCET ผู้บริหารซื้อ 5 แสนหุ้น ทุน4.82 บาท, WHA ผู้บริหารซื้อ 6 ล้านหุ้น ทุนเฉลี่ย 2.97 บาท, CRC ผู้บริหารซื้อ 5.7 แสนหุ้น ทุนเฉลี่ย 17.16 บาท,GULF ราว 70 ล้านหุ้น ทุนเฉลี่ย 40.12 บาท

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์