Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

118

 


ภาพตลาดและแนวโน้ม

 

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสเงินลงทุน (fund flows) ใน 5 ตลาดหลักของภูมิภาคที่เราติดตามพลิกกลับมาไหลเข้าภูมิภาค หลังเผชิญแรงขายมา 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง โดยมียอดซื้อสุทธิที่ 4,135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่เป็นเงินไหลออกสุทธิ 271 ล้านดอลลาร์

แรงซื้อที่เข้ามากระจุกอยู่ในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ทั้งตลาดหุ้นไต้หวัน (2,242 ล้านดอลลาร์) และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (1,796 ล้านดอลลาร์) ขณะที่ตลาด TIP มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย (80 ล้านดอลลาร์) และไทย (18 ล้านดอลลาร์) ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์มีแรงขายเข้ามาเล็กน้อย (-2 ล้านดอลลาร์)


แม้ว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แรงขายที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2025 ทำให้มียอดขายสุทธิสะสมรวมใน 5 ประเทศอยู่ที่ 23,747 ล้านดอลลาร์ โดยไต้หวันเป็นตลาดที่เผชิญแรงขายมากที่สุด (-10,373 ล้านดอลลาร์) ตามมาด้วยเกาหลีใต้ (-7,777 ล้านดอลลาร์) และอินโดนีเซีย (-2,934 ล้านดอลลาร์)

จากสัญญาณดัชนี Volume Index ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนว่า เซกเตอร์ที่โดดเด่นในระดับภูมิภาค ได้แก่ Energy ในตลาดหุ้นไทย อินโดนีเซียและไต้หวัน, กลุ่ม Finance ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวัน, กลุ่ม Electronics ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวัน


สำหรับสัปดาห์นี้ คาดว่ากลุ่ม Energy และ Bank จะเป็นเซกเตอร์ที่โดดเด่นของไทย โดย Volume Index ของกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าเซกเตอร์อื่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าสู่ระดับใกล้ mid-point ขณะที่ Volume Index ของกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากระดับใกล้ mid-point
ในทางกลับกัน Volume Index ของกลุ่ม Chemical ของไทยเริ่มปรับลงจากระดับใกล้ Overbought เราจึงแนะนำให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจมีเข้ามาในหุ้นกลุ่มดังกล่าวในอนาคตอันใกล้

สรุปภาพตลาดวานนี้
ย่อต่อ กดดันจาก AOT (สะท้อนปัญหา Duty Free) CBG (เรื่องกัมพูชา) BGRIM (ห่วงต้นทุนก๊าซ) MINT CPAXT ส่วนหุ้นสวนตลาด GULF (พร้อมบิ๊กล็อตระหว่างวัน) DELTA TRUE JTS SAWAD เป็นต้น สำหรับปิโตรเคมีมีแรงซื้อเข้ามาช่วงเช้า ก่อนจะขายทำกำไรกลางวัน ส่วนหุ้นเห็นปริมาณการซื้อขายเพิ่มมาพร้อมราคา MAJOR DV8 TASCO COM7

แนวโน้มตลาดวันนี้
เริ่มหายเมาหมัด
คาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากที่ลงสวนทางหุ้นโลกมาตลอดเวลา โดยอาศัยจังหวะที่ ภาวะสงครามในตะวันออกกลางยังไม่มีแววที่จะบานปลายไปมากกว่าของเดิม เมื่อสหรัฐฯยังสงวนท่าทีไม่ตอบรับ การชักชวนจากอิสราเอล ด้านรัสเซียเองก็ยังวุ่นกับการจัดการชายแดนตนเอง,
ขณะที่ปัจจัยลบต่อราคาหุ้นไทยรายตัว เช่น AOT THCOM CBG MINT น่าจะเริ่มเห็นแรง Cover short ทำกำไรบ้างหลังราคาหุ้นปรับลงมาแรง จนเป็นที่น่าพอใจสำหรับขา Shorted

ส่วนหุ้นรายกลุ่ม คงคาดกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่เป็นกลุ่มแข็งกว่าตลาดมาตลอด จะยังคงช่วยค้ำภาพรวมดัชนีฯ ส่วนหุ้นธนาคาร อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสารฯ ที่ราคาหุ้นกดไม่ค่อยลง จะยังทรงตัว แต่เราเริ่มระวังการไล่ราคาซื้อหุ้น ธนาคาร ในช่วงที่ใกล้ Preview งบการเงินไตรมาส 2 ด้วยเราเห็นสัญญาณเชิงลบจาก ยอดสินเชื่อ ที่ชะลอ สอดคล้องกับ ความระมัดระวังในการตั้งสำรองเพื่อ รองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ทั้งจากปัจจัยภายใน และ ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค นอกประเทศ

และจากงบธนาคารที่ BLS Research ประเมินว่าจะปรับลดลงทั้ง y-y, q-q คาดเป็นสัญญาณเตือน หุ้นที่อิงกับทั้งภาคอุตสาหกรรม การผลิตในประเทศ และ บริโภคในประเทศในช่วงเริ่มฤดูกาลประกาศงบ

ทำให้พอร์ตกลยุทธ์ยังคง ถือหุ้นเชื่อมโยงสินค้าโภคภัณฑ์ และเศรษฐกิจโลกต่อไปอีกระยะ เพราะเห็นแนวโน้มส่วนต่างผลิตภัณฑ์ และค่าการกลั่นที่ดีขึ้นในไตรมาส 2 หนุนราคาหุ้น ช่วงนี้ โดยเราจะรอจนกว่าหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศเริ่มนิ่งมากกว่านี้ ค่อยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร เล่นรอบ เน้นไปที่หุ้น 1Q25 ส่อแววผ่านจุดต่ำสุด และเริ่มจะเห็นสัญญาณของการฟื้นตัว เช่นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

วิเคราะห์ทางเทคนิค
ดัชนีลงต่อเนื่อง ล่าสุด -8% คิดเป็น -116 จุด จากจุดยอดที่ 1,231 จุด….ล่าสุดปรับลงมาที่ช่องว่าง (close gap) บริเวณ 1,100-1,120 จุด ขณะที่ RSI เข้าใกล้เขต oversold ทำให้แนวโน้มสัปดาห์นี้ดัชนีลงแต่อาจมีสลับรีบาวด์ได้บ้าง
ไฮไลท์: AOT ทิ้งดิ่ง วอลุ่มขายหนัก....ลงอีกหรือพอแล้ว // วางแผนเล่นรอบ “SCC” ขายก่อน...แล้วรอย่อรับกลับ ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ ไปตรวจการบ้าน หุ้นที่เคยลุย เช่น GULF, BAM และ KCE ทำไม! ปิดเขียวในขณะที่ตลาดลง ไปติดตามกันครับ


What to watch
ผู้นำสหรัฐฯ หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อวานที่ 14 มิย. เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยทั้งคู่เห็นพ้องกันว่า "สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านต้องยุติได้แล้ว"
หุ้นติดโผ SET50 รอบใหม่ BCP KKP TCAP TIDLOR หุ้นออก BGRIM GLOBAL ITC SAWAD // ส่วน SET100 หุ้นเข้า AURA JTS MBK TFG TOA WHAUP หุ้นออก CKP COCOCO ROJNA SAPPE SKY SNNP
ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลาดคาด Dotplot ปรับลดมุมมองการลดดอกเบี้ยปีนี้ลงเหลือ 1 ครั้ง และคงดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธนี้
สหรัฐฯ ยกระดับไทยเป็นประเทศท่องเที่ยวปลอดภัยสูง หนุนความเชื่อมั่นภาคท่องเที่ยว
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of State) ได้ปรับระดับคำแนะนำการเดินทาง (Travel Advisory) ประเทศไทยให้อยู่ใน ระดับ 1 - Exercise Normal Precautions ซึ่งเป็นระดับปลอดภัยสูงสุด เทียบเท่า ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และสิงคโปร์

หุ้นแนะนำวันนี้

PTT ความเสี่ยงภัยสงครามอิหร่าน อิสราเอล หนุนราคาน้ำมันดิบ
แนวรับ 30 ต้าน 31.5 Stop loss 29

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Quant Portfolio
อัพเดทพอร์ตการลงทุน
พอร์ตการลงทุนของเราให้ผลตอบแทน -2.4% นับจากวันที่เราออกบทวิเคราะห์ฉบับล่าสุดในวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่ -1.2% ในบทวิเคราะห์ฉบับนี้เรามีการปรับหุ้นในพอร์ตการลงทุน โดยถอดหุ้น HMPRO MC และ TVO ออกจากพอร์ตการลงทุน

Weekly
Commodities
ค่าระวางเรือเทกองพุ่งเด่น ตามด้วยน้ำมันดิบ
น้ำมันดิบ: ราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยเพิ่มขึ้น $3.8 WoW อยู่ที่ $68.07/bbl ได้แรงหนุนจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างอิหร่าน–อิสราเอล ซึ่งอาจกระทบต่ออุปทานน้ำมันโลกในระยะสั้น
ค่าการกลั่น (GRM): GRM สิงคโปร์ลดลง $1.17 WoW เหลือ $5.98/bbl จาก crack spread ที่แคบลงทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันเครื่องบิน (-$0.42 WoW) ดีเซล (-$0.33) และ HSFO (-$0.58) ซึ่งถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นและสต๊อกทั่วโลกที่สูงขึ้น
สเปรดเคมี: ราคาเคมีทรงตัว แต่ spread ลดลงจากต้นทุนนาฟทาที่สูงขึ้น โดย Ethylene -$14, Propylene -$49, HDPE -$24 และ PP -$24 WoW
ถ่านหิน: ราคานำเข้าถ่านหิน Newcastle เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง +$0.67 WoW เป็น $104.75/ตัน จากความต้องการในเอเชียที่ยังแข็งแกร่ง
ค่าระวางเรือ: BDI พุ่ง +276 จุด (18% WoW) อยู่ที่ 1,796 หนุนโดย Capesize (+28%) และ Panamax (+15%) ขณะที่ Supramax (ส่วนใหญ่ของ PSL และ TTA) ลดลง 1% WoW เหลือ 927
ส่วน WCI ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นต่ออีก 1% WoW มาอยู่ที่ 3,543
Fundamental view: เราชอบ TOP จาก Valuation ถูกและได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันที่ลดลง, IVL จากแนวโน้มกำไรดีกว่ากลุ่ม และ PTTGC ที่คาดว่ากำไรจะดีขึ้น QoQ ใน 2Q25
ขณะเดียวกัน PTTEP และกลุ่มโรงกลั่น น่าเก็งกำไรจากราคาน้ำมันที่ฟื้นจากประเด็นตะวันออกกลาง และหุ้นเรือ (PSL, RCL) ได้อานิสงส์จากค่าระวางที่เพิ่ม

 


BDMS
กรุงเทพดุสิตเวชการ
ภูเก็ต เพชรเม็ดงามของ BDMS
เราร่วม Site Visit เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ในภูเก็ต ที่ได้ใช้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในภูเก็ต โดย BDMS มี 3 โรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งครบทั้ง 3 กลุ่มผู้ป่วย คือ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ รับผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และทำการผ่าตัดใหญ่ได้ กรุงเทพสิริโรจน์ และดีบุก ซึ่งจำนวนเตียงรวมทั้งหมดที่ 490 เตียง คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของจำนวนเตียงของโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด และ 30% ของโรงพยาบาลทั้งหมดในภูเก็ต โดยรายได้ความในภูเก็ตคิดเป็นสัดส่วน 12% ของ BDMS (เป็นรองเพียงกรุงเทพฯ และ EEC)
ในปี 2024 เครือภูเก็ตมีรายได้รวมที่ 6 พันล้านบาท เติบโต 13% YoY และตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ที่ 6.7 พันล้านบาท เติบโต 12% โดยยังมีแรงหนุนหลักจากการเป็น Medical Tourism Destination, การขยายศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (COE) และการเติบโตของฐานกลุ่มผู้ป่วยเงินสดพรีเมียม
กลยุทธ์ระยะยาวของ BDMS ในภูเก็ต นอกจากโรงพยาบาลที่มีครบทุกตลาดแล้ว ยังมีแผนการขยาย Satellite Clinics จำนวน 3 สาขาในปีนี้ คือ สาขาไม้ขาว สนามบิน และลากูน่า เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและ referral case มาที่โรงพยาบาลหลักได้
จากภาพรวมของเครือภูเก็ตนี้เรามองว่า BDMS มีความแข็งแกร่งทางด้านตำแหน่งตลาด และส่วนแบ่งการตลาด
Fundamental view: เราคาดกำไร 2Q25 ไว้ที่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY แต่ลดลงตามฤดูกาล 12% QoQ เรายังคงคำแนะนำซื้อ และราคาเป้าหมาย 35 บาท


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความเสี่ยงคลุมหุ้นไทย By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เป็นปัจจัยความเสี่ยง ทั้งในและนอกประเทศ ปกคลุมตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นไทย จังหวะเด้ง .....

กังวล By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม นักลงทุน ยังคงมีความกังวลใจต่อ สถานการณ์ตะวันออกลาง จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพิ่มเติมใหม่หรือไม่ ....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้