Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาด SET วันนี้ รีบาวด์ หลังมีพัฒนาทางการค้า

102

 

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9 มิถุนายน 2568 )-----InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2568 คาดตลาดกลับมาแกว่งตัวขึ้น หลังไม่หลุดแนวรับ 1127 ทำจุดต่ำสุดที่ 1129 ระยะสั้นแนวรับหลักยังอยู่ที่ 1127/1120 ไม่หลุดต่ำกว่ามีโอกาสรีบาวด์ โดยการปรับตัวขึ้นมีแนวต้านที่ 1145/1150 ไทยได้รับการตอบรับเจรจาภาษีกับสหรัฐเป็นความหวังรอกำหนดการวันเจรจา

 


ประเด็นสำคัญ
• รมว. ต่างประเทศเผยฝั่งสหรัฐฯ ได้ตอบรับความพร้อมการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ เร่งจัดคิว รมว. คลัง แยกพบกับ 3 หน่วยงานจากสหรัฐฯ USTR, รมว. คลัง และรมว. พาณิชย์สหรัฐฯ คาดจะได้กำหนดการในเร็วๆ นี้
• รมว. คลังกล่าวปาฐกภาถึงแนวทางขับเคลื่อนการลงทุนผ่านหลายนโยบาย เช่น การสร้างการลงทุนในอุตฯ ใหม่ เช่น Data Center, AI, EV, Biotech, การสร้างความโปร่งใสและความมั่นใจในตลาดหุ้น, การปรับปรุงกฎหมายให้เอื้อต่อการลงทุน และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้าสีเขียวและค่าไฟฟ้าที่ไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย
• กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรใน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.39 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ คลายความกังวลต่อตลาดแรงงาน ปธน. ทรัมป์ออกมาเรียกร้องต่อประธานเฟดเป็นครั้งที่สองในสัปดาห์นี้ให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 1%
• กระทรวงพาณิชย์รายงานภาวะเงินเฟ้อใน พ.ค. หดตัว 0.57%YoY ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองจากราคาผัก, ผลไม้ และพลังงานที่ปรับลง ทำให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 5M68 ขยายตัว 0.48%YoY และประเมินเงินเฟ้อใน มิ.ย. จะลดลงต่อจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลงต่ำกว่าปีก่อนและค่าไฟฟ้างวด พ.ค. - ส.ค. 2568 ที่ลดลงสู่ 3.98 บาท/หน่วย
• กระทรวงพาณิชย์ประเมินการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาจะกระทบต่อโครงสร้างสินค้าส่งออก เช่น เครื่องดื่ม, ส่วนประกอบยานยนต์, เครื่องจักรกล เป็นต้น ขณะที่ไทยนำเข้า มันสำปะหลัง, เศษโลหะ, ลวดสายไฟ, อาหารสัตว์ เป็นต้น คาดมูลค่าการค้าชายแดนจะได้รับผลกระบทบราว 90% จากทั้งหมด 1.75 แสนลบ. ติดตามการเจรจาแบบทวิภาคีในวันที่ 14 มิ.ย. นี้

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัว Sideways เนื่องจากยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน อินเดีย และญี่ปุ่น ความไม่แน่นอนการเมืองไทย (การปรับ ครม.) และผลกระทบของ DELTA จากเกณฑ์คำนวณใหม่ของ ตลท. ที่จำกัดน้ำหนักหุ้นรายตัวใน SET50/SET100 ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ก.ค. นี้ อย่างไรก็ดี วันที่ 10 มิ.ย. อาจมีความคืบหน้าพิจารณาโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ซึ่งแม้มองส่งผลบวกต่อ SET ไม่มากนัก แต่เชื่อว่าช่วงต้น เม.ย. SET ได้ปรับลงใกล้ระดับวิกฤติ (Downside ที่ 1,032 จุด) สะท้อนผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ ซึ่งผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว เรายังคงมุมมองหากดัชนีปรับตัวลงมาบริเวณ 1120-1100 จุด ยังเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

 

แนวรับ-ต้าน
1127/1120– 1145/1150


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสแกว่งตัว Sideways จากความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ, การเมืองไทย และการปรับเกณฑ์คำนวณดัชนี SET50/SET100 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 4 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC TRUE CPALL BTG CPF
2. หุ้น SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป คาดให้ Div. Yield ตั้งแต่ 5% ขึ้นไป อีกทั้งเราแนะนำ Outperform แนะนำ PTT KTB BBL HMPRO
3. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BDMS CPALL PTT BCH BTG AP
4. หุ้นตั้งรับที่มีรายได้ในประเทศเป็นหลัก สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการรอดูความชัดเจนการดำเนินมาตรการภาษี ปธน. ทรัมป์ แนะนำ BCH CPALL GULF MTC OR TRUE
5. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่มีโอกาสได้รับน้ำหนักเพิ่มจากกองทุน Passive Funds ที่ต้องลดน้ำหนัก DELTA ลงเหลือ 10% และเพิ่มน้ำหนักหุ้นอื่นใน SET50 แทน แนะนำ PTT ADVANC AOT GULF CPF และ 2) หุ้นที่ฟื้นตัวเร็วหากมีความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า แนะนำ AMATA AOT MINT PTT TU WHA

 

Daily top picks
BBL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจาก Fund Flow และเป็นหุ้นที่ Valuation ถูกสุดในกลุ่ม ซื้อขายที่เพียง PBV 0.5 เท่า ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากสงครามการค้าคาดสามารถบริหารจัดการได้จากฐานลูกค้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง LLR Coverage สูงสุด และเป็นธนาคารแห่งเดียวที่มีการเติบโตของสินเชื่อและสามารถจ่ายปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ที่ระดับ 6.2% ต่อปี

MINT: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากสัญญาณการท่องเที่ยวฟื้นตัว กำไรปกติ 2Q68 คาดจะปรับตัวดีขึ้น YoY จากธุรกิจโรงแรมที่แข็งแกร่งและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และ QoQ ที่เป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวในยุโรป เรามองว่าโมเมนตัมผลประกอบการใน 2Q68 ของ MINT จะดีกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว MINT เป็นหุ้นเด่นของเรา

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ตามสภาพ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวตามสภาพ ท่ามกลาง ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปรับตัวเพิ่มขึ้น บนปัจจัยที่.....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้