Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

103

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 6 มิ.ย.68 ปิด -4.20 จุด อยู่ที่ 1,136.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,853 ลบ. สถาบันขาย 2,774 ลบ.ต่างชาติขาย 1,394 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 120 ลบ. และรายย่อยซื้อ 4,048 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 993 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น AOT,KTB,TOP,SCB,PTTEP และยอดขายหุ้น KBANK,CPALL,BBL,GULF,PTT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,508 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,CPN,CKP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 696 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 48,763 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 166 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.05%, S&P500 +1.03%, Nasdaq +1.2% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1.98%, บริการสื่อสาร +1.88% หลัง รมว.สหรัฐเตรียมหารือข้อตกลงการค้ากับจีนในวันจันทร์นี้ ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.32% ได้แรงหนุนจากกลุ่มการเงิน นำโดย UBS +3.8% หลังทางการสวิสจะเพิ่มทุนมูลค่าอีก 6 หมื่น ล.ดอลลาร์สหรัฐ

Market View

  • DJIA +1.17%, S&P500 +1.5%, Nasdaq +2.18% WoW หลัง ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยกับ ปธน.สี จิ้นผิง ในวันพฤหัสที่ผ่านมา ในประเด็น ม.คุมการส่งออกสินแร่หายากของจีน และ ม.คุมการส่งออกชิปของสหรัฐ โดย รมว.คลัง, พาณิชย์ และผู้แทนการค้าสหรัฐจะหารือกับผู้แทนการค้าจีนในวันที่ 9 มิ.ย. ที่กรุงลอนดอน ส่งผลให้ภาวะสงครามการค้ามีแนวโน้มคลี่คลาย ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. เพิ่มขึ้น 139,000 ดีกว่าคาดที่ 130,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานทรงตัวที่ 2% บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง และคาดเฟดจะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 มิ.ย. ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้วันพุธติดตาม US CPI พ.ค. คาด 2.5% & เม.ย. 2.3% YoY ,วันศุกร์ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น มิ.ย. คาด 52.0 & พ.ค. 52.2  
  • Stoxx600 +0.6% WoW ได้ปัจจัยหนุนจาก ECB มีมติลดดอกเบี้ย 25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินฝากลงลงอยู่ที่ 2.0% หลัง CPI ยูโรโซน พ.ค. อยู่ที่ 1.9% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2.0% YoY และ ปธ. ECB คริสติน ลาการ์ดได้ส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนการเจรจาการค้านั้น นายก ฯ เยอรมัน นายแมร์ซ ได้หารือกับ ปธน.ทรัมป์เพื่อหาแนวทางลดการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย
  • MSCI Asia Pacific X Japan Index +2.4% WoW นำโดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.1%, ฮั่งเส็ง +2.1% WoW ได้แรงหนุนจากการเริ่มเจรจากันระหว่าง ปธน.จีน - สหรัฐ ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากภาวะสงครามการค้า ขณะที่ข้อมูล Caixin PMI ภาคบริการจีน พ.ค. อยู่ที่ 1 & เม.ย. 50.7 อยู่ในโซนขยายตัว ส่วน Kospi เกาหลีใต้ +4.2% WoW หลังนายอี แจ-มย็อง จากพรรคประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง ปธน. ซึ่งมีนโยบายหนุนธุรกิจในประเทศ และสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐ & ญี่ปุ่น ขณะที่นิเกอิ +0.33% WoW หลังตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่น เม.ย. -0.1% & มี.ค. +2.1% YoY ส่งผลให้การประชุม BOJ วันที่ 17 มิ.ย. มีโอกาสคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ส่วนเช้านี้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น CPI, PPI, ส่งออก-นำเข้า พ.ค.     
  • SET -1.11% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 78 หมื่น ลบ. -8.3% WoW สถาบันขาย 3,828 ลบ. ต่างชาติขาย 2,377 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 122 ลบ. และรายย่อยซื้อ 6,083 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มอิเล็ก ฯ -7.9% WoW หลัง Delta -8.1% WoW จากประเด็นมีโอกาสถูกลดน้ำหนักใน SET50/100 ตามเกณฑ์ Cap Weight ของหุ้นรายตัวไม่เกิน 10% ของดัชนี ขณะที่กลุ่มปิโตรเคมี -2.2% WoW จากแรงชาย TOP วันศุกร์ -5.1% หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลที่ศรีราชา ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งปริมาณน้ำมันรั่วไหลไม่มากเพียง 8,888 ลิตร และมีประกันครอบคลุมความเสี่ยงต่าง ๆ ครบถ้วน ส่วนกลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ท่องเที่ยว +1.3% WoW ตอบรับรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 26 พ.ค. – 1 มิ.ย. เพิ่มขึ้น +24.1% WoW  โดยนักลงทุนยังชะลอการลงทุน จากความกังวลปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา และความชัดเจนของการปรับ ครม. รวมถึงวันศุกร์นี้ ศาลฎีกาจะนัดไต่สวนกรณีคุณทักษิณพักรักษาใน รพ.ตำรวจ ถือว่าได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาแล้วหรือไม่   

Daily Strategy

  • ประเมิน SET มีโอกาสทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,120 – 1,130 แนวต้าน 1,150 หลังปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชาเริ่มคลี่คลาย กอปรกับสหรัฐได้ตอบรับข้อเสนอไทยที่จะเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้า โดยวันศุกร์นี้ยังต้องติดตามการไต่สวนของศาลฎีกาในกรณีคุณทักษิณ แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Global Play เช่น PTT,PTTEP,SCC,RCL,PSL หลังสหรัฐ – จีนเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้า/ กลุ่ม Defensive เช่น ADVANC,CPF,GFPT ที่ได้รับผลกระทบน้อยจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
  • TOP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) ประเมินผลกระทบกรณีน้ำมันรั่วที่บริเวณทุ่น SBM-2 ไม่มาก ปริมาณน้ำมันที่รั่วแค่ 8Q (8,888 ลิตร) น้อยกว่าที่ข่าวออก คราบน้ำมันไม่ได้ถูกพัดเข้าใกล้ชายฝั่ง ต่อจากนี้คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบระบบประมาณ 1 เดือน ตัวทุ่น-ท่อ-อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย การรั่วของน้ำมันเป็นการทำงานของระบบที่ปิดตัวอัตโนมัติตามที่ออกแบบไว้ ส่วนสาเหตุเกิดจากลมแรง 60 นอตในขณะนั้นทำให้โซ่ยึดโยงเรือขาด ทั้งนี้คาดกรมเจ้าท่าเข้ามาตรวจสอบจะใช้เวลาไม่นานเหมือนอุบัติเหตุในครั้งก่อน โดยจะมีค่าใช้จ่าย ship-to-ship ในการส่งผ่านทุ่น SBM-1 ประมาณ 0.5$/bbl เท่าครั้งก่อน โรงกลั่นไม่ได้กระทบอะไร ประกัน all risk, สิ่งแวดล้อม, third party ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ต้องตั้งค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม ตลาดมองลบในช่วงสั้นเนื่องจากเหตุการณ์เกิดติดๆกัน แต่ถ้าบริษัทอธิบายได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย และการทำงานของระบบเป็นไปอย่างถูกต้อง ราคาหุ้นน่าจะฟื้นตัวในระยะถัดไป

SYNEX* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.56 บาท) Nintendo Switch2 เข้าไทยปลายเดือน มิ.ย.68 นี้ เป็นบวกต่อ SYNEX* ที่เป็น Nintendo Authorized Store และจะช่วยหนุนสินค้า Gaming ที่มีมาร์จิ้นดี ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในช่วงปี68 คาดว่ากลุ่มสินค้าไอทียังมีปัจจัยบวกจากDemand การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(4g>5g>AI) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนสําหรับ Windows 10 ก็จะถูกยกเลิก หลังวันที่ 14 ต.ค.68 ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ SYNEX* จะอยู่ที่ระดับ 696 ลบ.(+11%YoY) และ 786 ลบ.(+13%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.ค.+$1.21 อยู่ที่ $64.58 / บาร์เรล, Brent ส.ค. +$1.13 อยู่ที่ $66.47/บาร์เรล โดย WTI +4.9%, Brent +2.75% WoW ได้ปัจจัยหนุนจากการเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีนที่จะเริ่มในวันนี้ กอปรตลาดยังคาดเฟดจะลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ พ.ค. เพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง/เดือน

 

Gold Update(-) Comex Gold ส.ค.-$28.50 อยู่ที่ $3,346.60 /ออนซ์ หลัง ปธน.ทรัมป์ & ปธน.สี จิ้นผิงได้พูดคุยข้อตกลงการค้า ส่งผลให้สงครามการค้ามีแนวโน้มคลี่คลายลง กอปรนักลงทุนคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ก.ย.

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -351.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขายหุ้นไทย -72.73 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด ฯ -288.45 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +9.76 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 32.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.514 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +7 จุด อยู่ที่ 1,633

(+) BitCoin เช้านี้ +0.13% อยู่ที่ 105,620 ดอลลาร์สหรัฐ

(+)GDP ญี่ปุ่น Q1/68 ทรงตัวอยู่ที่ 0.0% & คาด -0.2% QoQ ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน +0.1% & คาด 0% QoQ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

09 มิ.ย.     ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

                สศช. รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 1/68

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

                ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

 

ต่างประเทศ

09 มิ.ย.     CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ( พ.ค.)

                CN ดุลการค้า

11 มิ.ย.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( พ.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

12 มิ.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ( พ.ค.)

13 มิ.ย.     EU ดุลการค้า

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: PLANB*, TASCO*, TFG*, STECON, IVL*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ตามสภาพ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวตามสภาพ ท่ามกลาง ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปรับตัวเพิ่มขึ้น บนปัจจัยที่.....

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้