คาด SET Index แกว่งตัว Sideways : หลังไร้ปัจจัยใหม่ๆเข้ามาขับเคลื่อน โดยคาดแรงหนุนยังคงมาจากความหวังต่อมาตรการภาครัฐ รวมถึงมีลุ้นแรงหนุนจาก Fund flow หากแต่จำกัดด้วยความกังวลสงครามการค้าและสงครามอาวุธ
แนวรับ-ต้าน
1,180 –1,200
กลยุทธ์การลงทุน
1) โครงการ+มาตรการภาครัฐ : ADVANC, CK, GULF, PT, TRUE, UNIQ, WHA
2) ปศุสัตว์ : BTG, CPF, GFPT, TFG
3) Thai ESGX : BBL, KBANK, KTB, PTT, SCB
4) Short-sell : AAV, BA, BJC, CRC, GLOBAL, DOHOME, HMPRO, SAWAD, SIRI
ยังไม่ไปไหน หลังไร้เรื่องใหม่ๆ
หวังเศรษฐกิจไทยได้รับการช่วยเหลือ : คาด Sentiment เชิงบวกยังคงมาจากความหวังต่อมาตรการภาครัฐ ทั้งจากมาตรการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในด้านต่างๆของ BOI รวมถึงความพยายามช่วยเหลือเศรษฐกิจของภาครัฐที่เริ่มเห็นพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง หลังวานนี้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ และคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออก และเพิ่มผลิตภาพตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ อีกทั้ง วานนี้ที่ประชุม ครม. ยังได้รับทราบการปรับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา เริ่มต้น 485-800 บาท/วัน นอกจากนี้ ยังมีความหวังต่อการแก้ไขปัญหาหนี้เพิ่มเติมหลัง ธปท. เผยกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเงื่อนไขมาตรการคุณสู้เราช่วย โดยคาดว่าจะชัดเจนได้ภายในกลางเดือนหรือปลายเดือน มิ.ย.68
หวังพลังต่างชาติหนุนตลาดหุ้นไทย : นอกจากนี้ มอง SET Index มีลุ้นแรงหนุนจาก Fundflow ของนักลงทุนต่างชาติที่ทิศทางเริ่มดีขึ้นหลังจากการขายสุทธิ 1.17 พันล้านบาท ในวันที่ 15 พ.ค.68 จากนั้นเห็นแรงขายสุทธิที่ลดลงต่อเนื่อง จนกระทั่งพลิกมาซื้อสุทธิวานนี้ที่ 865 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับค่าของเงินบาทที่เคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า ขณะที่เช้านี้ (7.25 น.) ค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 32.8 บาท/ดอลลาร์
ยังไม่เบาใจสงครามการค้าและสงครามอาวุธ : อย่างไรก็ดี คาด SET Index จะเผชิญกับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนมีแนวโน้มเปิดรับความเสี่ยงอย่างจำกัด ท่ามกลางความกังวลนโยบายการค้าสหรัฐฯที่เป็น Overhang หลังรัฐบาลไทยยังไม่ได้เผยถึงวันเจรจากับสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ รวมถึงมีความกังวลต่อทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ปธ.เฟดแอตแลนตา เผยว่าต้องรอติดตามว่าเศรษฐกิจจะไปในทิศทางทางใดก่อนค่อยตัดสินใจด้านนโยบายการเงิน พร้อมคาดว่าปีนี้เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งเดียวที่ 0.25% นอกจากนี้ คาดอีก Sentiment เชิงลบมาจากการที่นักลงทุนมีแนวโน้มเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สอดรับกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 1.58% ปิดที่ $3,284.6 ต่อออนซ์ ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯและไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) ครม. เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 โดยจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปในวันวันที่ 28-30 พ.ค.68
(+) BOI เผยผลการจัดงาน SUBCON Thailand 2025 ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 14-17 พ.ค.68 ว่ามีการเจรจาธุรกิจภายในงาน 9,975 คู่ โดยบริษัทที่ร่วมเจรจาธุรกิจได้ ประเมินว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท
(-) กระทรวงท่องเที่ยวฯเผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 พ.ค.68 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 13.4 ล้านคน ลดลง 1.75% y-y
(-) ผลสำรวจระดับโลกของ Allianz Trade ระบุว่าผู้ส่งออกทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบทางจิตวิทยาอย่างรุนแรงจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าชุดใหม่ของสหรัฐฯ โดย 42% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามคาดว่ารายได้จากการส่งออกจะลดลงอย่างมาก
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์