ปัจจัยบวก กระจุกเฉพาะกลุ่ม
TOP PICK BEM / CK / MTC

EXTERNAL FACTOR
GLOBAL INDICES

• เช้านี้ราคาน้ำมันโลกดีดตัวแรง โดย WTI พุ่งขึ้นเกือบ 2% แตะ 63.50 เหรียญฯ/บาเรลหลังมีกระแสข่าวจาก CNN อ้าง หน่วยข่าวกรองสหรัฐ พบว่าอิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน (อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าอิสราเอลจะดำเนินการจริงหรือไม่) คาดเป็น SETIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มอิงราคาน้ำมัน อาทิ PTTEP, PTT, PTTG, TOP, SPRC, BCP เป็นต้น
• อีกหนึ่งประเด็น คือ ความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว หลังแบงก์ชาติจีนประกาศลดดอกเบี้ย LPR มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม CHINA PLAY อาทิ SCC, SCGP, IVL

INTERNAL FACTOR
• ครม.เคาะแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ ซึ่งที่มาของเม็ดเงินคงหนีไม่พ้นจากงบประมาณปี 69ที่ครม.เห็นชอบร่างงบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ชงเข้าสภา 28-30 พ.ค.68
• จากนั้นจะเข้าสู่วาระที่ 2 เพื่อพิจารณารายมาตรา และวาระที่ 3 เพื่อประกาศใช้ต่อไปในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งน่าจะช่วยพยุงให้ GDP GROWTH ปีนี้ไม่ต่ำกว่ากรอบล่างของประมาณการของหลายสำนักเศรษฐกิจ(1.0%-1.5%)

INVESTMENT STRATEGY
• การเมืองร้อนแรง ทำให้ FLOW ต่างชาติยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้ -122 ล้านเหรียญฯ สวนทางหุ้นในภูมิภาคที่ถูกซื้อสุทธิทั้งสิ้นในเดือนนี้ น่าจะหนุนให้ SET ขยับขึ้นได้ยากและกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าได้ช่วงสั้น
• ขณะที่ระยะถัดไปมีโอกาสเห็นเม็ดเงินของสถาบันฯ มาช่วยพยุงดัชนี โดยเม็ดเงินกองทุน THAI ESGX ไหลเข้ามาเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 พันล้านบาท ดังนั้นมีโอกาสจะเห็นเม็ดเงิน ณ สิ้น มิ.ย.68 ราว 8 พันล้านบาท ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นเป็น 2 THEME หลัก 1.หุ้นมี ESG RATING ระดับ A ขึ้นไป CPALL SCB KBANK BDMS CPN
CRC CPF SCC 2.หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว PTTEP TOP SCC SCGP CK PLANB

ปัจจัยบวกกระจุกเฉพาะกลุ่ม
เช้านี้ราคาน้ำมันโลกดีดตัวแรง โดย WTI พุ่งขึ้นเกือบ 2% แตะ 63.50 เหรียญฯ/บาเรล หลังมีกระแสข่าวจาก CNN อ้างหน่วยข่าวกรองสหรัฐ พบว่าอิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน (อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าอิสราเอลจะดำเนินการจริงหรือไม่) ซึ่งความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โลก อาจเพิ่มความผันผวนในตลาดพลังงาน เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตน้ำมันประมาณ 1 ใน 3 ของโลกประเด็นดังกล่าว น่าจะเป็นแรงหนุนต่อ SET INDEX เนื่องจากมีสัดส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันสูงถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักตลาด
ฯ โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ อาทิ PTTEP, PTT, PTTGC, TOP, SPRC, BCP เป็นต้น

อีกหนึ่งประเด็น คือ ความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว หลังแบงก์ชาติจีน (PBOC) ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปี(จาก 3.10% สู่ 3.00%) และ 5 ปี(จาก 3.60% สู่ 3.50%)ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ7เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางความตึงเครียด TRADE WAR

สำหรับกลุ่มหุ้นไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวในอนาคต และราคาหุ้นปรับฐานลงมาลึก (CHINAPLAY THEME) อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว/โรงแรม AOT ERW MINT CENTEL กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC SCGP กลุ่มพลังงาน/ปิโตรฯ TOP PTTEP PTTGC กลุ่มค้าปลีก CRC CPALL BJC เป็นต้น

ปัจจัยในประเทศ วานนี้มีเรื่องอะไรที่ต้อง UPDATE (ร่างงบประมาณปี 69 + มติ ครม.)
เริ่มเห็นแผนที่ชัดเจนขึ้นของการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวานนี้ ครม.เคาะแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ อีกทั้ง วานนี้ ครม. ไฟเขียวแก้พ.ร.บ. รฟม. ชดเชยค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทมั่นใจว่าจะแล้วเสร็จทันกับการเริ่มนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางในวันที่ 30 ก.ย.68โดยโครงการต่างๆต้องใช้เม็ดเงินพอสมควร ซึ่งที่มาของเม็ดเงินคงหนีไม่พ้นจากงบประมาณปี 69 ที่ครม.เห็นชอบร่างงบปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ชงเข้าสภา 28-30 พ.ค.68 ในวาระที่1 จากนั้นจะเข้าสู่วาระที่ 2 เพื่อพิจารณารายมาตรา และวาระที่ 3 เพื่อประกาศใช้ต่อไปในเดือน ต.ค.นี้ซึ่งน่าจะช่วยพยุงให้ GDP GROWTH ปีนี้ไม่ต่ำกว่ากรอบล่างของประมาณการของหลายสำนักเศรษฐกิจ(1.0%-1.5%)

FLOW ต่างชาติยังไม่เข้าไทย จากการเมืองร้อนแรง แต่มี THAIESGX ช่วยพยุง
การเมืองร้อนแรงตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. ถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้ฉากทัศน์การเมืองระยะถัดไปยังไม่ชัด ประเด็นดังกล่าวทำให้FLOW ต่างชาติยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้ -122 ล้านเหรียญฯ สวนทางหุ้นในภูมิภาคที่ถูกซื้อสุทธิทั้งสิ้นในเดือนนี้ ไต้หวัน +7057 ล้านเหรียญฯ เกาหลีใต้ +754 ล้านเหรียญฯ อินเดีย +3163 ล้านเหรียญฯ อินโดนีเซีย
+113 ล้านเหรียญฯ ฟิลิปปินส์ +19 ล้านเหรียญฯ และเวียดนาม +122 ล้านเหรียญฯ ประเด็นดังกล่าวน่าจะหนุนให้SET ขยับขึ้นได้ยากและกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าได้ช่วงสั้น

อย่างไรก็ตามระยะถัดไปมีโอกาสเห็นเม็ดเงินของสถาบันฯ มาช่วยพยุงดัชนีและลดความผันผวนในช่วงนี้ โดยเม็ดเงินกองทุน THAI ESGX ไหลเข้ามาเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 พันล้านบาท(ข้อมูลช่วง 2 สัปดาห์)ซึ่งหากอ้างอิงข้อมูลดังกล่าวมีโอกาสจะเห็นเม็ดเงินกองทุน THAI ESGX ณ สิ้น มิ.ย.68 ราว 8 พันล้านบาท ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นเป็น 2
THEME หลัก 1.หุ้นมี ESG RATING ระดับ A ขึ้นไป CPALL SCB KBANK BDMS CPN CRC CPF SCC 2.หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว PTTEP TOP CK PLANB เป็นต้น

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์