สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 พฤษภาคม 2568)-------- ‘ดาโอ รีท แมเนจเมนท์’ มองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ยังมีปัจจัยสนุบสนุน การลดดอกเบี้ยของ กนง. ช่วยลดต้นทุนทางการเงินของกองทรัสต์ KTBSTMR ที่ยังคงมีความสามารถกู้เงินเพื่อลงทุนเพิ่มเติมในสินทรัพย์คุณภาพได้ เผย กระแสเงินสดแข็งแกร่ง จ่ายผลตอบแทน ไตรมาส 1/2568 ที่ 12% ของราคาตลาด ในอัตรา 0.1726 บาทต่อหน่วยทรัสต์ เป็นจำนวนเงินประมาณ 52.04 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยเตรียมรับเงินวันที่ 13 มิ.ย. 2568

นายพลสิทธิ ภูมิวสนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาโอ รีท แมเนจเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ‘DAOL REIT’ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2568 ลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ นโยบายการเงินและการค้าโลก ยังส่งผลให้ธนาคารต่างๆ เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ถือเป็นผลดีต่อกองทรัสต์ KTBSTMR ด้วย

โดยในปัจจุบัน กองทรัสต์ KTBSTMR มีสัดส่วนการกู้ยืมอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ (สัดส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจ่าย (interest-bearing debt) เมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์รวม ณ มี.ค. 2568 อยู่ที่ร้อยละ 16.62) ซึ่งส่งผลให้ในอนาคตกองทรัสต์ยังคงมีสามารถกู้ยืมเงินเพื่อนำไปใช้ในการลงทุนเพิ่มเติมได้

ทั้งนี้ด้วยคุณภาพของสินทรัพย์และความสามารถการบริหารที่ดีต่อเนื่อง เป็นผลให้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เคทีบีเอสที มิกซ์ หรือ ‘KTBSTMR’ พิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทนไตรมาสที่ 1 ปี 2568 สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 – 31 มีนาคม 2568 ในอัตรา 0.1726 บาทต่อหน่วยทรัสต์ เป็นเงินประมาณ 52.04 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราเงินจ่ายประโยชน์ตอบแทนแบบปรับปรุงเต็มปี (Annualized) ที่ประมาณ 7.0%/1 เมื่อเทียบกับราคาพาร์ (ที่ 10.00 บาท/หน่วย) หรือประมาณ 12.17%/2 เมื่อเทียบกับราคาตลาด (ณ วันที่ 16 พ.ค. 2568 ที่ 5.75 บาท/หน่วย)

โดย DAOL REIT กำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568
“สำหรับทิศทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจากการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวเป็นแรงสนับสนุนหลัก ทั้งนี้ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของธุรกิจคลังสินค้าให้เช่านั้น บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่ายังมีศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากแรงหนุนของการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยโดยรวม ประกอบกับการขยายตัวของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยสร้างความต้องการพื้นที่คลังสินค้าคุณภาพอย่างต่อเนื่อง” นายพลสิทธิ กล่าว
ดังนั้นจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่ยังหนุนการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว กองทรัสต์ KTBSTMR ยังมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการดำเนินการติดตั้งระบบ Solar Roof Energy บนอาคารต่างๆ ในโครงการสำนักงานและคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานของกองทรัสต์ และมุ่งสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ตลอดจนก่อให้เกิดคุณค่าที่ยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

นอกจากนี้เพื่อเฟ้นหาสินทรัพย์ที่มีคุณภาพในการเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง กองทรัสต์ได้เปิดโอกาสให้เจ้าของทรัพย์สินนำโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภท อาคารคลังสินค้า / โรงงาน อาคารศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน อาคารศูนย์รับฝากข้อมูล (ดาต้าเซ็นเตอร์) โรงแรมทั้งในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด หรือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ มานำเสนอให้แก่กองทรัสต์ในการพิจารณาเข้าลงทุนได้