วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยตลาดได้รับ Sentiment เชิงบวกจากบอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวลงหลังสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ PPI ปรับตัวขึ้นต่่ากว่าคาดการณ์ มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ยังคงไหลออกอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันดัชนี มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มไอซีที และค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,195.77 จุด +1.28 จุด +0.11%มูลค่าการซื้อขาย 36,714.07 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -15.17 จุด -1.25%) Program Trading-1,139.13 ลบ. ต่างชาติ -1,148.55 ลบ. TFEX +3,029 สัญญา ตราสารหนี้+42.29 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 331.99 จุด หรือ +0.78% โดยได้แรงหนุนจากการท่าข้อตกลงระงับเก็บภาษีน่าเข้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯแย่ลงก็ตาม
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ +1.41% ปิดที่62.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่าสถิติบวกติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สองหลังความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มผ่อนคลาย แม้ว่าราคาถูกกดดันจากการคาดการณ์ว่าอุปทานจะเพิ่มขึ้นจากอิหร่านและกลุ่มโอเปกพลัสก็ตาม
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจ่าลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว2.4% ใน 2Q68 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.3% ใน 1Q
+ คณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนเสร็จสิ้นการเจรจาสันติภาพที่กรุงอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งเป็นการเจรจาโดยตรงของทั้งสองฝ่ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565 โดยใช้เวลาในการเจรจาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
+ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อขยายเงื่อนไขมาตรการแก้หนี้ "คุณสู้เราช่วย"
+ ททท.ปลื้ม นักท่องเที่ยวยุโรปทะลักเข้าไทย 4 เดือนแรก พุ่งทะลุ3.5 ล้านคน โต 19%

ปัจจัยลบ
- มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody's Ratings) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ Aa1 จากระดับ Aaa โดยให้เหตุผลว่า หนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น และภาระ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยมูดี้ส์คาดว่า ภาระหนี้ของรัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 134% ของ GDP ภายในปี 2578 เทียบกับระดับ
98% ในปี 2567
- กระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีสหรัฐฯ ใช้มาตรการควบคุมการส่งออกโดยมิชอบ พร้อมด่าเนินการเด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทจีน หลังจากที่สหรัฐฯ ออกค่าเตือนบริษัทต่าง ๆไม่ให้ใช้ชิป AI รุ่น Ascend ของหัวเว่ย (Huawei) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเพิ่มบริษัทจีนหลายแห่งเข้าไปในบัญชีจ่ากัดการส่งออก (Entity List) ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านั้นไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีหรือสินค้าจากสหรัฐฯ ได้ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ได้รับการอนุมัต

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันหลังจาก มูดี้ส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่ในประเทศนักลงทุนเริ่มมีความกังวลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,185-1,200 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกองทุน TESGX: BBL BEM CPALL PTT TISCO
- คาดหุ้นเข้าค่านวณ SET50 : BCP KKP TCAP / หุ้นออกจาก SET50 : BGRIM GLOBAL ITC
- คาดหุ้นเข้าค่านวณ SET100 : AURA MBK TOA WHAUP / หุ้นออกจาก SET100 : CKP COCOCO ROJNA SAPPE
*การค่านวณ SET50/100 ยังขาดข้อมูลเดือน พ.ค. อีก 1 เดือน
- MSCI Thailand เข้า - ไม่มี / ออก - BEM, CRC, KTC
- MSCI Global Small Cap เข้า - BEM, AWC / ออก - AURA, BPP, DOHOME, GUNKUL, JAS, JMART, M, PRM