Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

92

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 16 พ.ค.68 ปิด +1.28 จุด อยู่ที่ 1,195.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,714 ลบ. ต่างชาติขาย 1,149 ลบ. สถาบันขาย 58 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 80 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,127 ลบ.  NVDR มียอดซื้อสุทธิ 661 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,AOT,SCB,GULF,DELTA และยอดขายหุ้น PTT,IVL,KBANK,MINT,SCC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,084 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ INDIA01,HMPRO,SIRI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 1,448 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 51,550 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 42 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.8%, S&P500 +0.7%, Nasdaq +0.5% ได้ปัจจัยหนุนจากข้อตกลงการค้าชั่วคราวสหรัฐ – จีน แม้ว่า ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น พ.ค. ลดลงอยู่ที่ 8 & เม.ย. 52.2 และคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ 7.3% & เดิมคาดที่ 6.5% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.42% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรา +2.2% หลังหุ้นริชมอนด์ +7% ตอบรับยอดขายรายไตรมาสสูงกว่าคาด และกลุ่มบริการสุขภาพ +1.2% นำโดยหุ้น AstraZeneca ขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ & เทคโนโลยีปรับลดลง  

Market View

  • DJIA +3.4%, S&P500 +5.3%, Nasdaq +7.2% WoW ได้ปัจจัยหนุนจากข้อตกลงการค้าสหรัฐ – จีนที่ปรับลดภาษีศุลกากรระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน ส่วนข้อมูล US CPI เม.ย. อยู่ที่ 3% & คาด 2.4% YoY และ US PPI เม.ย. อยู่ที่ 2.4% & คาด 2.5% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐยังไม่มีสัญญาณปรับสูงขึ้น กอปรกับยอดค้าปลีกสหรัฐ เม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ พ.ค. มีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ชณะที่วันศุกร์ที่ผ่านมา Moody’s ได้ปรับลดเครดิตเรตติ้งของสหรัฐจาก Aaa ลงสู่ระดับ Aa1 สาเหตุมาจากคาดการณ์หนี้ภาครัฐต่อ GDP สหรัฐในปี 20235 จะปรับขึ้นอยู่ที่ 135% & ปีก่อนที่ 98% ส่วนข้อเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ติดตาม US PMI ภาคผลิต & บริการ เบื้องต้น พ.ค., ยอดขายบ้านใหม่ &มือสองของสหรัฐ เม.ย. และความคืบหน้าการเจรจาการค้ากับคู่ค้าสำคัญ ๆ เช่น แคนาดา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย   
  • Stoxx600 ยุโรป +2.0% WoW ได้แรงหนุนจากข้อมูล GDP อังกฤษ Q1/68 +0.7% & Q4/67 +0.1% QoQ ได้ปัจจัยหนุนจากภาคบริการและภาคการผลิตขยายตัวดี และ GDP ยูโรโซน Q1/68 +0.3% & Q4/68 +0.2% QoQ ขณะที่ CPI เยอรมัน, ฝรั่งเศส เม.ย. มีแนวโน้มชะลอตัว โดยนักลงทุนรอรายงานงบ บจ. ใน Stoxx600 ซึ่ง LSEG คาดกำไร Q1/68 +1.9% YoY และหากไม่รวมกลุ่มพลังงานคาดกำไร +7.3% YoY รวมถึงรอผลการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย - ยูเครน สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น พ.ค.
  • MSCI Asia Pacific X Japan +3.5% WoW หลังจีน & สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว 90 วัน กอปรกับ ธ.กลางจีนได้ลดอัตรา RRR ของธนาคารพาณิชย์ลง 5% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเกาหลีใต้ปรับขึ้น หลังข้อมูลส่งออกสินค้าไอซีที เม.ย. +10.8% และชิป +17.2% YoY ส่วนนิเกอิ +0.67% WoW ผันผวนตามค่าเงินเยนที่แข็งค่า และกำลังเจรจากับสหรัฐในประเด็นแทรกแซงค่าเงินเยน          
  • SET -1.25% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 4 หมื่น ลบ. -2.6% WoW ต่างชาติขาย 4,362 ลบ. สถาบันขาย 2,227 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 420 ลบ. และรายย่อยซื้อ 7,009 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มไฟแนนท์ -7.2%, ขนส่ง -6.6%, ไอซีที -3.6%, ปิโตรเคมี -2.8%, พลังงาน -2.2% WoW หลังราคาหุ้นกลุ่มเหล่านี้ได้ปรับขึ้นรับข่าวบวกสหรัฐ – จีนทำข้อตกลงการค้าชั่วคราว 90 วัน ส่วนกลุ่มค้าปลีก -2.6%, รพ. -1.6% WoW จากคาดการณ์รายได้ใน Q2/68 มีแนวโน้มลดลงตามกำลังซื้อในประเทศ และนักท่องเที่ยว & ผู้ป่วยต่างชาติที่ชะลอตัว ขณะที่กลุ่มอิเล็ก ฯ +8.5% WoW ได้ปัจจัยหนุนจากกระแสการลงทุนด้าน Data Center & Ai และยอดส่งออกชิปของเกาหลีใต้ เม.ย. +17.2% YoY โดยระหว่างสัปดาห์ MSCI ได้ปรับ BEM,CRC,KTC ออกจาก Global Index ส่วน Small Cap Index ได้เพิ่ม 2 หลักทรัพย์ และถอดออก 8 หลักทรัพย์ ส่งผลให้น้ำหนักหุ้นไทยคาดจะลดลงราว 500 ล.ดอลลาร์สหรัฐ มีผลในวันที่ 30 พ.ค. นี้ ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามสภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q1/68 คาด 2.9% & Q4/67 ที่ 3.2% YoY รวมถึงประมาณการณ์ GDP ไทยปีนี้และปีหน้า , วันอังคาร ติดตามผลการประชุม ครม. ที่เกี่ยวกับ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจและความคืบหน้าการนัดเจรจาการค้าสหรัฐ - ไทย                

Daily Strategy

  • ประเมิน Filter แนวรับดัชนีที่ 1,190 จุด ในกรณืยืนได้คาดดัชนีจะ Sideway ในกรอบ 1,190 – 1,210 จุด โดยวันนี้ติดตามมุมมองของสภาพัฒน์ต่อ GDP ไทยในปีนี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า BCPG,CKP,GPSC ที่คาดรายได้ใน Q2/68 ยังขยายตัวได้ดี / กลุ่ม รพ. PR9 ได้ปัจจัยหนุนจากผู้ป่วยชาวตะวันออกกลาง
  • BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.30 บาท) คาดกำไรปกติในช่วงที่เหลือของปีจะกลับมาเติบโตจาก Hydro power plant ที่ปริมาณน้ำมากขึ้น ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ปัจจัยบวกที่เหลือมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 42 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.8 พันล้านบาท +27%YoY
  • PR9* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 29.06 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 ออกมาอยู่ที่ 200 ลบ.(+26%YoY, -3%QoQ) อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยัง YoY บวกได้เด่นโดตามรายได้(+16%YoY) ได้แรงหนุนจากรายได้ผู้ป่วยต่างประเทศ(+88%YoY)โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มชาติตะวันออกกลาง สอดคล้องกับกลยุทธของ PR9* ที่ทำการตลาดไปหาผู้ป่วยต่างชาติมากขึ้น ด้านPR9*เอง ปี68 นี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโต +10 ถึง 20%YoY โดยบริษัทยังคงเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศขึ้นราว 20% จากฐานคนไข้รวม ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ PR9* จะขยายตัวมาอยู่ที่ 814 ลบ.(+14%YoY) และ 891 ลบ.(+9%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI มิ.ย. -$0.87 อยู่ที่ $62.49 / บาร์เรล, Brent ก.ค. -$0.88 อยู่ที่ $65.41/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI +2.4%, Brent +1% WoW โดยช่วงวันพฤหัสราคาน้ำมันลดลงกว่า -2% ระหว่างรอผลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐ - อิหร่าน ขณะที่การเจรจาสันติภาพรัสเซีย – ยูเครนยังไม่ได้ข้อสรุป หลังรัสเซียเสนอเงื่อนไขที่ยูเครนยังไม่สามารถรับได้

 

Gold Update(-) Comex Gold มิ.ย.-$39.40 อยู่ที่ $3,187.20 /ออนซ์ หลังสหรัฐ – จีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว 90 วัน กอปรกับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ เม.ย. ชะลอตัวลง ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +91.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -209.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด ฯ +305.34 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -3.83 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 33.19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.483 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +83 จุด อยู่ที่ 1,388

(+) BitCoin เช้านี้ +3.0% อยู่ที่ 106,492 ดอลลาร์สหรัฐ

(0)เช้านี้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น ผลผลิตภาคอุตฯ, ยอดค้าปลีก, การลงทุนสินทรัพย์ถาวร, ราคาบ้านและอัตราว่างงาน เม.ย.

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

19 พ.ค.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 

                ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

 

ต่างประเทศ

19 พ.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (เม.ย.)

21 พ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

22 พ.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( พ.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( พ.ค.) 

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (เม.ย.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

23 พ.ค.     US ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, ทิศทางดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่ขาลง,  และ/หรือ สามารถรับจากความเสี่ยง Trade War ได้  

 

(1) กลุ่มการเงิน Leasing รับแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยในประเทศลดลง NCAP*, S11*, SINGER* ,SGC* ,THANI*

 

(2) กลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า หุ้น defensive ได้ประโยชน์จาก Bond yield ที่ปรับลดลง ธุรกิจหลักมีการเติบโตสอดคล้องเศรษฐกิจใหม่ ADVANC ,TRUE ,GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่มเกษตรได้ประโยชน์จากราคาสุกรในประเทศที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การส่งออกไก่ไปต่างประเทศยังทำได้ดี CPF, BTG* ,TFG* ,FM* ,GFPT

 

(4) กลุ่ม China Play คาดความดึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แม้ยังมีความผันผวนแต่หุ้นที่เกี่ยวข้องมี valuation ที่ปรับตัวลงมาต่ำมากแล้ว น่ากลับไปหาจังหวะเก็งกำไร SCC* ,SCGP* ,PTTGC

 

(5) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*,SIS*

 

(6) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC ,OKJ*, NSL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: CPALL, TASCO*, TFG*, STECON, NSL*

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ขุดหุ้น มาเก็งกำไร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ปรับตัวลดลง ตามตลาดต่างประเทศ ด้วยมูดี้ส์.....

LEO จับมือพันธมิตรจีน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ส่งออกทุเรียนไทย

LEO จับมือพันธมิตรจีน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ส่งออกทุเรียนไทย

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้