---กำไร 1Q25 ต่ำกว่าคาด แต่คาดจะดีขึ้นใน 2H25---

Earnings Review : กำไรสุทธิ 1Q25 ลดลง -55% YoY และ QoQ เป็น 143 ล้านบาท ซึ่งต่าสุดนับตั้งแต่ 1Q20 เป็นผลจาก 1) ยอดขายลดลง -13%YoY และ -21%QoQ เป็น 124 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยลดทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ยกเว้นกลุ่มยานยนต์, 2) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงมา จาก 10.7% ใน 1Q24 และ 9.3% ใน 4Q24 เป็น 7.9% ใน1Q25 เพราะสัดส่วนยอดขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงลดลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง, 3) อัตราภาษีรายได้เพิ่มเป็น 13.5% ใน 1Q25 จาก 5.7% ใน 1Q24 และ -2.2% ใน 4Q24

แนวโน้ม : คาด 2Q25 เริ่มฟื้นตัว และดีขึ้นใน 2H25 หลังบริษัทเพิ่มกำลังการผลิตจากโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐ ทั้งนี้บริษัทสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐขนาด 5.2 พันตรม. ลูกค้ารายแรกอยู่ในอุตสาหกรรมเหมืองขุดบิตคอยน์ของสหรัฐ ซึ่งขณะนี้มีข้อกำหนดว่าต้องผลิตในสหรัฐเท่านั้น SVI ตั้งเป้ารายได้จากลูกค้ารายนี้ในปี 25 ที่ 60–80 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ใน 2H25

ผู้บริหารได้ปรับลดเป้ารายได้ปี 2568 เหลือ 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่เคยตั้งไว้ 700 ล้านดอลลาร์ ส่วนฝ่ายวิจัยฯ DBS เราให้สมมติฐานรายได้ปีนี้ลดลง -18% (เนี่องจากรายได้ใน 1Q25 ต่ำกว่าคาดมาก) แล้วค่อยเติบโต +11% ในปี 2026

คาดเริ่มมีรายได้จากบริษัทร่วมทุนใหม่ในต้นปี 2027 ทั้งนี้ SVI ประกาศร่วมทุนกับบริษัท China Circuit Technology (Shantou) Corporation (CCTC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ชั้นนำของจีน ตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ในไทย ภายใต้ชื่อ Advanced Interconnection Technology Company Limited โดย SVI ถือหุ้น 75% และ CCTC ถือหุ้น 25% มูลค่าโครงการ 3.89 พันล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์คือ HDI (High-Density Interconnect) และ แผงวงจรหลายชั้น (Multi-layer PCBs) กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่ม สมาร์ทโฟน, ยานยนต์, ดาต้าเซ็นเตอร์, อุปกรณ์การแพทย์ และการบินอวกาศ ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนแล้ว ซึ่งจะใช้กำลังการผลิตเฟสแรกถึง 50%

แผนการพัฒนา - เฟส 1: ใช้เวลาก่อสร้าง 15 เดือน เดินเครื่องเต็มกำลังภายในปีที่ 3 กาลังผลิต 204,000 ตร.ม./ปี (เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์เฟสแรกใน 4Q26 หรือต้นปี 2027), เฟส 2 เริ่มในปีที่ 4, ก่อสร้างอีก 6 เดือน เพิ่มอีก 156,000 ตร.ม./ปี รวมกำลังผลิต: 360,000 ตร.ม./ปี โดยบริษัทจะยื่นขอ BOI เพื่อรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี

ปรับลดคำแนะนำเป็น Fully Valued ให้ราคาพื้นฐาน 6 บาท (เดิม 7.7 บาท) อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 17.2 เท่า (Mean+1SD)

นักวิเคราะห์ : จันทร์เพ็ญ ศิริธนารัตนกุล : chanpens@dbs.com : Tel. 02 857 7824