Equality for All
HMPRO : บมจ.โฮมโปรดักส์

1Q25 กำไรสุทธิ 1,707 ลบ. หด -0.32% y-y ตามคาด:
ยอดขายรวม 18,654 ลบ. -0.71% y-y โดยรายได้หลักจากการขายสินค้าและบริการรายได้ (สัดส่วน 94%) หดตัว -0.66% y-y จากกำลังซื้อชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ, วงเงินโครงการ E-Receipt ที่ลดลงหากเทียบกับปีก่อน ส่วนรายได้ค่าเช่า(สัดส่วน 3%) เพิ่มขึ้น +4.5% y-y จากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาโฮมโปร และศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว ส่วนรายได้อื่น (สัดส่วน 3%) หด -5.5% y-y จากกิจกรรมส่งเสริมการขายลดลงตามยอดขายที่ลดลง
SSSG หดตัว -3.3% อัตรากำไรขั้นต้นหดจาก 26.24% ใน 1Q24 เป็น 26.18% จากสัดส่วนการขายที่เปลี่ยนแปลงโดยกลุ่ม Private Brand มีสัดส่วนยอดขายลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายหดเหลือ 18.2% จาก 18.5% จากค่าใช้จ่ายเปิดสาขาใหม่, ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่ลดลง
ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อชำระหนี้ครบกำหนดซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเดิม รวมถึงการออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น และการทำสัญญาเช่าระยะยาวสำหรับสาขาใหม่ ส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มตามมาตรฐาน TFRS16
SSSG เม.ย. กลับมาติดลบ 10% : ผู้บริหารเผย SSSG เดือน เม.ย. ของ HMPRO กลับมาติดลบ 10% ส่วน “เมก้าโฮม” ติดลบ 3-5% ขณะที่มาเลเซียคาดติดลบ 16-19% จากเทศกาลศีลอดปีนี้อยู่ในเดือน มี.ค. แต่ปีที่แล้วอยู่ เม.ย. โดยในส่วน HMPRO ที่ลดลงแรงนั้น เนื่องจากหน้าร้อนที่สั้นกว่าปีที่แล้ว และมีฝนมากในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและพัดลมลดลง อีกทั้งหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 28 มี.ค. ทำให้การขายชะงัก ขณะที่การซ่อมแซมหลังแผ่นดินไหวต้องรอให้ประกันมาประเมินก่อนคาดใช้เวลา 30-45 วันถึงจะเริ่มซ่อมแซมได้

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2025 : ผบห. เน้นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใน 5 ข้อหลักดังนี้
Omni Channel เปิดสาขาใหม่ และช่องทางการขายให้ครอบคลุม ในปีนี้ตั้งเป้าเปิดสาขา 12 สาขา โดย 2Q25 จะเปิด HMPRO 1 สาขา และ 2H2025 จะเปิด HMPRO 6 สาขา และ MEGA Home 5 สาขา ซึ่งจะเปิดแบบ hybrid มากขึ้น
Demand Generation ทำอย่างไรเพื่อให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นจากการหาลูกค้าใหม่ การเพิ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ารับรู้
Hmpro Ecosystem ให้ลูกค้ามองเราเป็นทางเลือกคาดจะมีงานใหญ่กลางปีนี้
Home Service ปรับตัวเองให้ลูกค้าเห็นว่า HMPRO เป็นได้มากกว่าร้านค้า เช่นงานช่าง เป็นต้น
Increasing Efficiency เพิ่มระบบห่วงโซ่อุปทานให้แข็งแกร่ง และนำระบบ AI และข้อมูลมาใช้มากขึ้นเพื่อหาโอกาสการดำเนินงาน

ยังเหนื่อยอยู่
“ผบห. เผยว่าสถานการณ์ปีนี้ดูแย่กว่าปีก่อน จากกำลังซื้อที่อ่อนแอ โดยเห็นจาก SSSG เม.ย. กลับมาหดตัวแรง อีกทั้งปีก่อนได้ผลบวกจากอากาศร้อนยาวนาน ส่วนประเด็นแผ่นดินไหวอาจไม่ได้บวกมากนักต่อประมาณการอย่างที่ตลาดคาดหวัง
ทำให้ระยะสั้นคาดปัจจัยดังกล่าวยังเป็นตัวกดดันให้ความน่าสนใจอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม โครงการซื้อหุ้นคืนจะเป็นตัวประคองราคาหุ้นได้ในระดับหนึ่ง และคงต้องดูว่ากลยุทธ์การดำเนินงานที่จะทยอยออกมาจะส่งผลบวกต่อช่วงที่เหลือของปีหรือไม่เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
ราคาหุ้นสะท้อน Dividend Yield 5.4% ยังไม่ดึงดูดนักเมื่อเทียบกับหุ้นปันผลอื่นๆในตลาด ขณะที่ตลาดฯ มีแนวโน้มจะปรับประมาณการ และลดความคาดหวังลงมา จึงยังไม่น่าสนใจในระยะสั้น ”

นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971 naree.a@liberator.co.th