Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

85

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 2 พ.ค.68 ปิด +1.72 จุด อยู่ที่ 1,198.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,633 ลบ. สถาบันซื้อ 1,368 ลบ. ต่างพอร์ตโบรกซื้อ 195 ลบ. รายย่อยขาย 209 ลบ. และต่างชาติขาย 1,354 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 194 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น F&D,BBL,SCB,PTT,EA และยอดขายหุ้น AOT,KBANK,DELTA,GULF,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,134 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ LVMH01,BEM,NDX01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 11,484 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 46,881 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,578 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.24%, S&P500 -0.64%, Nasdaq -0.74% จากแรงขายกลุ่มพลังงาน -2.0% และกลุ่มผู้ผลิตภาพยนต์ เช่น Netflix -1.94%, Paramount Global -1.6% ขณะที่ ISM เผยดัชนีภาคบริการสหรัฐ เม.ย.ปรับขึ้นอยู่ที่ 51.6 & มี.ค. 50.8 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มประกันภัย +1.1%, กลาโหม +1%, อสังหา ฯ +0.8% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป พ.ค.อยู่ที่ -8.1 & เม.ย. -19.5  

Market View

  • DJIA +3%,S&P500 +2.9%,Nasdaq +3.4% WoW แม้ว่า US GDP Q1/68 -0.3% QoQ เป็นผลจากการเร่งน้ำเข้าสินค้า แต่ตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. เพิ่มขึ้น 177,000 สูงกว่าคาด 138,000 ราย บ่งชี้งตลาดแรงงานสหรัฐยังไม่รับกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากร ส่งผลให้ตลาดคาด Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม มิ.ย. หรือ ก.ค. นี้ ขณะที่ข้อขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ - จีนเริ่มลดลง ส่วนวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มพลังงาน และกลุ่มผลิตภาพยนต์ เช่น Netflix, Paramount, Warner Bros ปรับลดลง หลัง ปธน.ทรัมป์จะเก็บภาษีภาพยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศในอัตรา 100% โดยสัปดาห์นี้รอผลการประชุมเฟดวันที่ 6 – 7 พ.ค. ซึ่งตลาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 – 4.5%
  • Stoxx600 +3.0% WoW หลังข้อขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ – จีนเริ่มลดลง ขณะที่รายงาน Core CPI ยูโรโซน เม.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 7% & มี.ค. 2.4% YoY แต่ไม่ส่งผลต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ ECB ในปีนี้ ส่วนวานนี้ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มประกันภัย, กลาโหม โดยสัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล PPI & PMI ภาคบริการยูโรโซน เม.ย. และผลการประชุม BOE อังกฤษวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งตลาดคาดจะลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.25%
  • MSCI Asia Pacific X Japan +4.0% WoW หลัง ก.พาณิชย์จีนกำลังประเมินข้อเสนอของสหรัฐ เพื่อเจรจา ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในอัตรา 145% ส่วนวานนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, ฮ่องกงปิดในช่วงหยุด และตลาดหุ้นญี่ปุ่น & เกาหลีใต้ยังหยุดต่อเนื่องในวันนี้ สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น PMI ภาคบริการ,ตัวเลขส่งออก – นำเข้า, CPI & PPI เม.ย.     
  • SET +3.45% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 09 หมื่น ลบ. +13.7% WoW ต่างชาติซื้อ 1,491 ลบ. สถาบันซื้อ 2,643 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 511 ลบ. และรายย่อยขาย 3,623 ลบ. WoW ได้ปัจจัยหนุนจาก กนง.ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% อยู่ที่ 1.75% เพื่อลดกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ GDP ไทยปีนี้คาดที่ 1.3 – 2.0% & ปีนี้ก่อนที่ 2.5% โดยตลาดยังคาด กนง.ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ลงอีก 1 – 2 ครั้ง ซึ่งส่งผลให้ Earning Yield Gap ของ SET ปรับสูงขึ้นอยู่ที่ 4.56% เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ย 7 ปี + 2 SD. ส่งผลให้ต่างชาติและสถาบันกลับมาซื้อสุทธิ   กอปรกับในช่วง พ.ค. - มิ.ย. ยังมีเม็ดเงินใหม่จากกองทุน Thai ESGX มูลค่าราว 1 แสน ลบ. เช้ามาช่วยหนุนสภาพคล่อง โดยดัขนี SET ยังได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่มอิเล็กฯ +21.1% WoW นำโดย DELTA +23.8% WoW หลังรายได้ Q1/68 ขยายตัวได้ดีตามอุปสงค์ของธุรกิจ Data Center ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง +3.6% WoW หลัง SCC รายงานกำไร Q1/68 อยู่ที่ 1,099 ลบ. ดีกว่าคาดที่ 696 ลบ. ได้แรงหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลงตามน้ำมันดิบ และสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับดีขึ้น ส่วนประเด็นทางเศรษฐกิจนั้น Moody’s ได้คงอันดับเครดิตประเทศที่ Baa1 แต่ปรับลดมุมมองจาก Stable ลงสู่ Negative อาจเป็นข้อจำกัดในการใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะถัดไป สัปดาห์นี้ติดตามรายงาน CPI ไทย เม.ย. และรายงานกำไร Q1/68 ของ บจ. เช่น ADVANC,TRUE,THCOM,CPN,WHA,GULF,OR,CPAXT ฯลฯ               

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,180 – 1,190 แนวต้าน 1,210 คาดดัชนีจะทรงตัวในกรอบระหว่างรอผลการประชุมเฟดในช่วงค่ำวันพุธ และรอรายงานกำไร บจ.ต่างๆ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มที่มี ESG เรตติ้งสูง เช่น AMATA,WHA,GSPC,BEM,CPN,CPALL และ ADVANC,TRUE,GULF,OR ที่คาดจะมีกำไร Q1/68 เติบโตดี
  • TASCO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19.60 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 ยังคงเติบโต YoY หนุนจากยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม QoQ ปริมาณขายจะลดลงจากตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นปัจจัยฤดูกาล (เวียดนาม อินโดฯ) ทั้งนี้จาก product mixed ที่สัดส่วนยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้นตาม (YoY) ขณะที่การตั้งสำรองหนี้สูญมีแนวโน้มลดลงหลังสถาการณ์ของลูกหนี้ดีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบ ซึ่งไตรมาสนี้น่าจะมีการ reverse กลับ ส่วน 2Q68 คาดกำไรฟื้น QoQ โต YoY ต่อ ความต้องการใช้ยางมะตอยเพิ่มก่อนเข้าหน้าฝน แนวโน้มปี 68 มีปัจจัยหนุนจากทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าจะดีขึ้น โดยตั้งเป้า 2 ล้านตัน จากไม่มีการล่าช้าของงบประมาณ
  • SYNEX* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 107 บาท) คาด Nintendo Switch2 จะเข้าไทยช่วง ก.ค.-ก.ย.68 นี้ เป็นบวกต่อ SYNEX* ที่เป็น Nintendo Authorized Store และจะช่วยหนุนสินค้า Gaming ที่มีมาร์จิ้นดี ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในช่วงปี68 คาดว่ากลุ่มสินค้าไอทียังมีปัจจัยบวกจากDemand การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(4g>5g>AI) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนสําหรับ Windows 10 ก็จะถูกยกเลิก หลังวันที่ 14 ต.ค.68 ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ SYNEX* จะอยู่ที่ระดับ 685 ลบ.(+10%YoY) และ 769 ลบ.(+12%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI มิ.ย. -$1.16 อยู่ที่ $57.13 / บาร์เรล, Brent ก.ค. -$1.06 อยู่ที่ $60.23/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่ พ.ค. จากเดิมคาดจะเพิ่มขึ้นเพียง 135,000 บาร์เรล/วัน

 

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย.+$79.0 อยู่ที่ $3,322.30 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.2% อยู่ที่ 99.828 และรอผลการประชุมเฟดวันที่ 6 – 7 พ.ค.

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +3.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซื้อหุ้นอินโด ฯ +5.11 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -1.39 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 32.95 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.354 %

(0) ดัชนี BDI ปิดทำการในวันหยุด Bank Holiday

(+) BitCoinเช้านี้ +0.78% อยู่ที่ 94,697 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) เช้านี้ติดตาม Caixin PMI ภาคบริการจีน เม.ย. คาด 51.7 & มี.ค. 51.9 และผลการประชุม ธ.กลางออสเตรเลีย

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

06 พ.ค.     กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า

07 พ.ค.     ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

สัปดาห์ที2  สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก

                สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

                ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

               

ต่างประเทศ

05 พ.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (เม.ย.)

07 พ.ค.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

08 พ.ค.     US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC สหรัฐ 

US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย           

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: KLINIQ, TASCO*, TFG*, OKJ*, NSL*

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้