Company Note
ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q25F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยอดส่งออกลดลงโดยเฉพาะเวียดนาม โดยยอดขายในประเทศยังเติบโต การส่งออกลดลงจากประเทศเวียดนามเป็นหลักจากการปรับตัวแทนและเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลเต๊ดในเวียดนาม สำหรับอัตราทำกำไรที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายตลาด traditional trade เพิ่มขึ้น และต้นทุนแพคเกจจิ้งลดลง เรายังคงประมาณการเดิมคาดแนวโน้มผลประกอบการ 1Q25F ต่ำสุดของปี คาดกำไรยังเติบโตได้เฉลี่ย 11% (CAGR2y) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ 14.3 บาท
คาดกำไรสุทธิ 1Q25F เพิ่มขึ้นเล็กน้อยทั้ง YoY และทรงตัว QoQ
เราคาด SNNP จะมีกำไรสุทธิ 1Q25F ที่ 169 ล้านบาท (+8%YoY, +1%QoQ) คาดรายได้ 1Q25F เพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง -7% QoQ และสัดส่วนยอดขายในประเทศ : ต่างประเทศ เป็น 81:19จาก 1) ยอดขายในประเทศเติบโต 2 หลัก YoY จากการออกสินค้าใหม่แบรนด์ เบนโตะ และ โลตัส โตต่อเนื่อง แต่ลดลง QoQ เนื่องจากยอดขายใน 4Q24 เป็นช่วง high seasonal 2) รายได้ส่งออกลดลงทั้ง YoY และ QoQ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม (คาดสัดส่วน 53% ของการส่งออก) จากการปรับตัวแทนจำหน่ายและยังไม่กลับมาปกติ และเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลเต๊ดในเวียดนาม สำหรับประเทศอื่นๆ เป็นไปตามแผนบริษัท คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ตามรายได้กลุ่ม snack ที่มีอัตรามาร์จิ้นดีกว่ากลุ่มเครื่องดื่มมียอดขายเพิ่มขึ้น ต้นทุนแพคเกจจิ้งลดลง และการออกสินค้าใหม่ คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลง เนื่องจากมีการใช้จ่ายบางส่วนทำการตลาดไปแล้วใน 4Q24
คงประมาณการเดิมคาดกำไรเติบโตปีละ 11% (CAGR2Y)
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q25F เราคาดจะดีขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ กลุ่มเครื่องดื่มจะเพิ่มขึ้นจากช่วง high seasonal ฤดูร้อน และการส่งออกที่เวียดนามคาดจะค่อยๆดีขึ้นหลังจากการแก้ปัญหาในการกระจายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายคาดเสร็จสมบูรณ์ในสิ้นปีนี้ เราคงประมาณการเดิม จากยอดขายในประเทศเติบโตปีละ 6% แต่คาดยอดส่งออกเพิ่มขึ้นปีละ 8%YoY จากประเทศเวียดนามที่เริ่มกลับมาดีขึ้น โดยกลุ่ม CLMV จากประเทศเวียดนามกลับมาปกติ และฟิลิปปินส์ที่มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำการตลาดเข้ากลุ่ม modern trade เพิ่มขึ้น สำหรับบริษัทร่วมทุนสิริโปรคาดจะเริ่มจุดคุ้มทุน คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการดำเนินไลน์ผลิตในเวียดนามที่มีต้นทุนต่ำกว่าช่วยเพิ่มอัตราทำกำไร และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 16.2% และ 16% ใกล้เคียงกับปี 2024F ที่คาด 16.2% จากการทำการตลาดสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ราคาเป้าหมายที่ 14.3 บาท อ้างอิง PER25F ของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ย 18X โดย PER25F อยู่ที่ 16.3X, Div.Yield 25F ที่ 4.5% ปัจจัยเสี่ยง 1) สภาวะเศรษฐกิจ 2) ยอดขายไม่เป็นตามคาด