วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผัวผวน ในช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยได้รับแรงกดดันจาก Fund Flow นักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกอย่างต่อเนื่อง มีแรงขายน าโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่ช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวขึ้น จากแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก ขนส่ง และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นปัจจัยหนุนดัชนีส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,144.05 จุด +9.34 จุด +0.82% มูลค่าการซื้อขาย 35,686.26 ลบ.Program Trading -779.6 ลบ. ต่างชาติ +123.0 ลบ. TFEX -18,163 สัญญา ตราสารหนี้ +2,864.4 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 1,016.57 จุด หรือ +2.66% นักลงทุนคลายกังวลสงครามการค้าหลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังของสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายในไม่ช้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ +1.95% ปิดที่64.31 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำอิหร่านรอบใหม่ และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นหนุนนบรรกาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน ให้คึกคักขึ้นด้วย
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าภาษีศุลกากรขั้นสุดท้ายสำหรับสินค้าส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ จะไม่สูงถึง 145% แต่อัตราภาษีศุลกากร
จะไม่ใช่ 0%
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่าไม่มีแผนที่จะปลด เจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง แต่ยังคงกดดัน FED ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
+ รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ตสำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปีว่ายังคงแจกในไตรมาส 2 ปีนี้ตามกำหนดการเดิม คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์จะเสนอ ครม.อนุมัติ

ปัจจัยลบ
- กองกำลังรัสเซียโจมตีเมืองท่าโอเดสซาริมทะเลดำของยูเครนด้วยฝูงโดรนจ านวน 54 ลำ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และสร้างความเสียหายอย่างหนัก
ให้กับอาคารอะพาร์ตเมนต์หลายแห่ง
- สหประชาชาติ (UN) รายงานว่ากลุ่มอาชญากรในเอเชียที่อยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมหลอกลวงทางไซเบอร์มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์กำลังขยาย
เครือข่ายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เช่น อเมริกาใต้และแอฟริกา ขณะที่การปราบปรามที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่สามารถยับยั้งกิจกรรมของ
กลุ่มอาชญากรได้
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกเหลือขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ จากเดิมที่
คาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 3.3% โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ
- คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU)เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซนปรับตัวลง 2.2 จุด สู่
ระดับ -16.7 ในเดือนเม.ย. จากระดับ -14.5 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -15.5
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.อยู่ที่ 91.8 ลดลงจาก 93.4 ในเดือน ก.พ.68 เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
และอาฟเตอร์ช็อกกระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวและส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% (เริ่ม 12 มี.ค. 2568) อาจส่งผลให้การส่งออกไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักชะลอตัวลง

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังจากรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่Rebound ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,140-1,160 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว : HMPRO GLOBAL DOHOME SCGD TEAMG
• หุ้นที่ธปท.กำลังพิจารณาอนุมัติให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank : KTB ADVANC GULF OR SCB