Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

210

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 22 เม.ย.68 ปิด +9.34 จุด อยู่ที่ 1,144.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,686 ลบ.สถาบันขาย 357 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 56 ลบ. ต่างชาติซื้อ 123 ลบ.และรายย่อยซื้อ 290 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,404 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,AOT,CPALL,BBL,GULF และยอดขายหุ้น KBANK,BDSM,TRUE,SCB,BH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,389 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ SCC,IRPC,CPN โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 27 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 56,418 สัญญา และต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,864 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +2.66%, S&P500 +2.51%, Nasdaq +2.71% ได้แรงหนุนจากกลุ่มการเงิน +3.28%, สินค้าฟุ่มเฟือย +3.2% หลัง รมว.คลังสหรัฐเผยความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ – จีน จะคลี่คลายในไม่ช้า ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.25% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +0.7%, ทรัพยากรพื้นฐาน +1.2% ปรับขึ้นตามราคาสินแร่ ขณะที่กลุ่มบริการสุขภาพ -0.6%     

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลัง รมว.คลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ ให้ความเห็นในงานประชุมของ JP.Morgan ว่าข้อขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ – จีน จะคลี่คลายในไม่ช้า และสหรัฐไม่ต้องการแบ่งแยกเศรษฐกิจสหรัฐ ออกจากเศรษฐกิจจีน (Decoupling) ขณะที่ IMF ปรับลดคาดการณ์ US GDP ปีนี้ลงอยู่ที่ 1.8% & เดิมคาดที่ 2.8% เป็นผลจากสงครามการค้า อย่างไรก็ตามดัชนีหุ้นสหรัฐยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการ Q1/68 ของ 3M ออกมาดีกว่าคาด และ LSEG เผย 82 บริษัทใน S&P500 ที่ส่งงบแล้ว มีสัดส่วน 73% รายงานกำไรดีกว่าคาด โดยสัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล US PMI ภาคผลิต & บริการ เม.ย.,  Fed Beige Book,ม.มิชิแกนรายงานดัชนึความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เม.ย. และรายงานกำไร บจ.สหรัฐ เช่น Tesla, Alphabet
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร, ทรัพยกรพื้นฐาน และหุ้นลอรีอัล +6.3% หลังรายงานยอดขายใน Q1/68 ดีกว่าคาด ขณะที่ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ยูโรโซนปีนี้ลงอยู่ที่ 0.8% & เดิมคาดที่ 1.0% เป็นผลจากสงครามการค้า ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูล PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน, อังกฤษ เบื้องต้น เม.ย. และความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – EU หลังสัปดาห์ก่อนนายก ฯ อิตาลีได้หารือเบื้องต้นกับ ปธน.ทรัมป์
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.25%, ฮั่งเส็ง +0.78% ได้ปัจจัยหนุนจากคาดรัฐบาลจีนจะออก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจโดยการออกพันธบัตร และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ -0.17% ถูกกดดันจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าอยู่ที่ 141.5 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น นักลงทุนรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ – เกาหลีใต้ในวันที่ 24 เม.ย.
  • SET วานนี้ +0.82% ปริมาณการซื้อขาย 3.56 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 357 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 56 ลบ. ต่างชาติซื้อ 123 ลบ. และรายย่อยซื้อ 290 ลบ. โดยดัชนี SET ฟื้นตัวหลังปรับฐานลง รับข่าวการเลื่อนการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ไทยจากกำหนดเดิมในวันนี้ 23 เม.ย. เนื่องจากฝ่ายไทยจะต้องเตรียมความพร้อมในด้านข้อมูลที่เกี่ยวประเด็นการบิดเบือนค่าเงิน, การใช้ภาษี VAT เป็นกำแพงภาษี, มาตรฐานด้านความปลอดภัยของสินค้าเกษตรที่อาจจะกีดกันสินค้าเกษตรของสหรัฐ, การละเมิดลิขสิทธิ์ และการส่งสินค้าผ่านประเทศที่สามเพื่อเลี่ยงภาษี รวมถึงรอประเมินผลการเจรจาการค้าของญี่ปุ่น & เกาหลีใต้ ที่เป็นประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐ ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับมาในกลุ่มอิเล็ก ฯ, ขนส่ง & ท่องเที่ยว และไฟแนนท์ ที่อยู่ระหว่างรอรายงานกำไร Q1/68 ทางด้าน IMF ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลงอยู่ที่ 1.8% & เดิมคาดที่ 2.9 และปีหน้าคาดที่ 1.6% ต่ำสุดในกลุ่มเอเชียที่กำลังพัฒนาที่ปีนี้คาดเติบโตเฉลี่ยที่ 4.5% เนื่องจากไทยพึ่งพาตลาดส่งออกสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 18%          

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,135 – 1,140 แนวต้าน 1,150 – 1,160 โดยคาดดัชนีจะฟื้นตัวตามตลาดภูมิภาค หลังความขัดแย้งสงครามการค้าสหัฐ – จีน เริ่มผ่อนคลายลง แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Domestic Play เช่น GFPT,TFG,BTG,CBG,OSP เป็นกลุ่มสินค้าจำเป็น / ไฟแนนท์ SAWAD,SCAP,MTC,DIF คาดได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และพักเงินบางส่วนในกลุ่มปลอดภัย เช่น BDMS,ADVANC,GPSC
  • GPSC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 38.50 บาท) คาดผลประกอบการปี 68 ปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีกลับมาเดินเครื่องปกติจากปีก่อนที่มีหยุดไปในช่วง high season ประกอบกับคาดว่าปีนี้จะมีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนมากกว่าปีก่อนตลอดทั้งปี นอกจากนี้โครงการพลังงานลม CFXD จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เต็มปีและส่งผ่านส่วนแบ่งกำไรมาให้เทียบปีก่อนที่ขาดทุน ส่วนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Avaada ที่อินเดียถือเป็นอีกตัวขับเคลื่อนหลักในอนาคตจากโครงการที่ COD ไปแล้วและที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนา โดย GPSC อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง spin off Avaada เป็นอีกทางเลือกในการจัดหาเงินลงทุนรองรับการพัฒนาโครงการที่เหลือ สำหรับประเด็นค่าไฟฟ้างวด พ.ค.-ส.ค.68 ที่ ครม.ให้ไปปรับลดค่าไฟฟ้าให้ไม่เกิน 99 บาท/หน่วย ลดลงจากงวด ม.ค.-เม.ย.68 คาดว่าตลาด price in ไปแล้ว ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 68-69 อยู่ที่ 4.63 พันล้านบาท +14%YoY และ 4.94 พันล้านบาท +7%YoY
  • MOSHI* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 75บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติในช่วง 1Q68 ยังมีแรงหนุน YoY คาดจาก SSSG เป็นบวก high single digit% ขณะที่สินค้าใหม่ๆยังมีต่อเนื่อง(เช่น Moshi Moshi x Moodeng, Moshi Moshi x Monsty Planet, We Bare Bears)และจำนวนสาขาสูงขึ้น(1Q68 เปิดแล้ว 8 สาขา) โดยทาง MOSHI* เองวางเป้ารายได้ปี68 เติบโต 15-20%/ เป้า SSSG บวก 3-5%/ ออกสินค้าใหม่กว่า 1,000 รายการต่อเดือน/ และ วางแผนเปิดสาขาใหม่ 40 สาขา ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MOSHI* ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 611 ลบ. (+17%YoY) และ 718 ลบ.(+17%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+)WTI พ.ค. +$1.23 อยู่ที่ $64.31 / บาร์เรล, Brent มิ.ย. +$1.18 อยู่ที่ $67.44/บาร์เรล หลังสหรัฐได้ออก ม.คว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่เซเอ็ด อาซาดุลลาห์ เอมามจอเมห์ เศรษฐีผู้ค้าก๊าซ LNG ชาวอิหร่าน และรอผลการเจรจาข้อตกลงกับอิหร่านรอบที่ 3 ในวันที่ 26 เม.ย. ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 4.565 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(-) Comex Gold มิ.ย.-$5.90 อยู่ที่ $3,419.40 /ออนซ์ หลัง รมว.คลังสหรัฐส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการคลี่ข้อขัดแย้งการค้าสหรัฐ – จีน

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +10.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +3.68 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +7.24 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.69 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.365 %

(0) ดัชนี BDI วานนี้ปิดทรงตัวอยู่ที่ 1,261 จุด

(+) BitCoinเช้านี้ +6.00% อยู่ที่ 92,937 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

30 เม.ย.    ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2/2568

                ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย 

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5  สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

                ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

               

ต่างประเทศ

23 เม.ย.    US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (เม.ย.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (เม.ย.) 

                US ยอดขายบ้านใหม่ (มี.ค.)

24 เม.ย.    US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มี.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio April 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, DOHOME*, BDMS

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้