Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ LHFG และ LH Bank ที่ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

573

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (14 มีนาคม 2568)-------ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank และบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG ที่ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ยังได้คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ F1+(tha)

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

 

อันดับเครดิตได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น: อันดับเครดิตของ LH Bank และ LHFG พิจารณาจากการคาดการณ์ของ

ฟิทช์ว่าผู้ถือหุ้นจากไต้หวันซึ่งคือ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC; อันดับเครดิตสากล 'A'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน 'a') จะให้การสนับสนุนในกรณีที่จำเป็น การคาดการณ์นี้สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ถึงความสามารถของ CTBC ที่สูงแต่มีโอกาสในการให้การสนับสนุนในระดับปานกลาง โดย CTBC ถือหุ้นใน LHFG สัดส่วน 46.6% และมีอำนาจควบคุมการบริหารกลุ่มบริษัทลูกในประเทศไทย

 

อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงโครงสร้างอันดับเครดิตของ LHFG และ LH Bank เมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ และแสดงถึงระดับของโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทรายอื่นในประเทศไทย

 

ช่วยเสริมสร้างเครือข่ายของ CTBC: LHFG มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเครือข่ายระหว่างประเทศของ CTBC Bank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน โดยมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งและกำลังขยายธุรกิจระหว่างประเทศโดย LHFG ช่วยให้ CTBC Bank ขยายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่าย รวมทั้งสนับสนุนการให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดน โดยบริษัทจากไต้หวันมีการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นรวมถึงในประเทศไทย ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญสำหรับ LHFG

 

ความเชื่อมโยงกับธนาคารแม่ที่อ่อนแอกว่าเมื่อเทียบธนาคารลูกของธนาคารต่างประเทศอื่นในประเทศไทย: ฟิทช์มองว่าความเชื่อมโยงด้านชื่อเสียงระหว่าง LHFG กับธนาคารแม่ CTBC มีข้อจำกัด เนื่องจาก CTBC ถือหุ้นใน LHFG ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า 50% แม้ว่าจะมีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นในการประสานงานด้านชื่อเสียงและสัญญลักษณ์ทางการค้า แต่ความเชื่อมโยงยังคงอ่อนแอกว่าธนาคารลูกของธนาคารต่างประเทศอื่นในประเทศไทยที่มีสัดส่วนการถือหุ้นสูงกว่าและใช้ชื่อและแบรนด์ร่วมกันกับธนาคารแม่อย่างเต็มที่

 

ธนาคารแม่มีความสามารถที่แข็งแกร่งในการสนับสนุน: ความสามารถของ CTBC ในการให้การสนับสนุนแก่ LHFG สะท้อนจากโครงสร้างเครดิตของธนาคารเองซึ่งสะท้อนโดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของCTBC ฟิทช์คาดว่าการสนับสนุนใดๆที่ให้แก่ LHFG จะอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้โดย CTBC เนื่องจากขนาดสินทรัพย์ของ LHFG ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับธนาคารแม่โดย สินทรัพย์ของ LHFG คิดเป็นประมาณ 5% ของสินทรัพย์ของ CTBC

 

ความเชื่อมโยงในการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น: ฟิทช์คาดว่าความเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่าง CTBC กับบริษัทและธนาคารลูกจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย LHFG และ LH Bank ถูกรวมเข้ากับรายงานทางการเงินของ CTBC ซึ่งสะท้อนถึงการควบคุมและอิทธิพลของธนาคารแม่ต่อคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทและธนาคารลูก นอกจากนี้ CTBC ยังแบ่งปันความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ เช่น ในธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งและการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพของ LH Bank ทั้งนี้การแนะนำลูกค้าจาก CTBC แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก แต่คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต CTBC ยังดูแลให้กลุ่ม LHFG ปฏิบัติตามมาตรฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงและการดำเนินงานของกลุ่ม CTBC รวมทั้งสอดคล้องกับกรอบกฎหมายและข้อบังคับของกลุ่มด้วย

 

การสนับสนุนด้านสภาพคล่องจากธนาคารแม่: โครงสร้างการระดมทุนและสภาพคล่องของ LHFG ถูกกำหนดโดยฐานเงินฝากของ LH Bank ที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งอาจทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มากกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารที่ใหญ่กว่าและมีฐานที่มั่นคงได้หากเกิดสภาวะกดดันต่อสภาพคล่องในระบบ อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนด้านการระดมทุนตามปกติจาก CTBC ผ่านเงินฝากหรือการกู้ยืมระหว่างธนาคารช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องบางส่วนได้ ทั้งนี้การสนับสนุนดังกล่าวอาจน้อยกว่าธนาคารลูกของต่างประเทศที่ได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางการถือหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าและมีระดับความเชื่อมโยงในการดำเนินงานที่สูงกว่า

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

อันดับเครดิตภายในประเทศอาจถูกปรับลดอันดับหากมีการปรับตัวด้อยลงของสมมติฐานด้านการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของฟิทช์ ตัวอย่างเช่น การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ CTBC  ซึ่งอาจบ่งชี้ว่า CTBC มีความสามารถที่ลดลงในการสนับสนุนและส่งผลต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ LHFG และ LH Bank

 

นอกจากนี้ การลดความเชื่อมโยงระหว่าง LHFGหรือ LH Bank และ CTBC อย่างมีนัยสำคัญอาจบ่งชี้ถึงโอกาสที่ลดลงของธนาคารแม่ในการให้การสนับสนุน และอาจนำไปสู่ผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หาก CTBC ลดสัดส่วนการถือหุ้น ส่งผลให้สูญเสียการควบคุม LHFG รวมกับการลดความเชื่อมโยงในการดำเนินงานและการสนับสนุนทางการเงิน ความล้มเหลวในการผสานธุรกิจในประเทศไทยกับ CTBC และ/หรือผลการดำเนินงานทางการเงินที่แย่อย่างรุนแรง อาจทำให้ CTBC ต้องทบทวนความผูกพันธ์ทางกลยุทธ์ใหม่ ในสถานการณ์ดังกล่าว ฟิทช์อาจทบทวนวิธีการจัดอันดับเครดิตของ LHFG และ LH Bank ใหม่ และมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนจากการอ้างอิงปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเป็นการประเมินจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทลูก  และอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับ แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนในระยะปานกลาง

 

การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตจะต้องพิจารณาถึงโครงสร้างอันดับเครดิตของทั้ง LHFG และ LH Bank ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นเทียบกับบริษัทหรือธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน

 

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ LHFG และ LH Bank จะถูกปรับลดอันดับลงเป็น F1(tha) หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG ถูกลดอันดับลงเป็น A-(tha) หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อสมมติฐานการสนับสนุนของ CTBC ต่อบริษัทลูกในประเทศไทย

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ LHFG และ LH Bank หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ CTBC ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ (โดยที่โอกาสในการให้การสนับสนุนไม่ลดลง) ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความสามารถในการให้การสนับสนุนบริษัทลูกในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้ ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากรับรู้ได้ถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของโอกาสที่ CTBC จะให้การสนับสนุนแก่ LHFG และ LH Bank ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากความเชื่อมโยงและผสานการดำเนินงานกับ CTBC ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจสะท้อนจากการใช้ชื่อและสัญญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนการถือหุ้นที่สูงขึ้น หรือการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธนาคารเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศ และเพิ่มบทบาทเชิงกลยุทธ์ของธนาคารต่อธนาคารแม่

 

ไม่มีโอกาสที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ LH Bank และ LHFG จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นอีก เนื่องจากเป็นอันดับที่สูงที่สุดแล้ว

 

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น

ตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ LHFG อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

 

ตราสารหนี้ด้อยสิทธิ

หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของ LH Bank ได้รับการจัดอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันเนื่องจากฟิทช์เชื่อว่าตราสารเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับชำระหนี้คืนที่แย่กว่าตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ไม่มีการปรับลดอันดับเพิ่มเติมสำหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากตราสารเหล่านี้ไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ในการจัดอันดับของฟิทช์สำหรับตราสารลักษณะเดียวกันที่ออกในประเทศไทย

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

การปรับลดอันดับเครดิตของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG หรือ LH Bank จะส่งผลในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทหรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคาร

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ LHFG หรือ LH Bank จะทำให้เครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทหรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

 

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตของ LH Bank และ LHFG มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของ CTBC

 

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้

LHFG

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ ‘AA+(tha)’

 

LH BANK

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงอันดับที่ ‘AA-(tha)’

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

Thailand Focus By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ วันแรก งานThailand Focus 2025 เช้าวันนี้ หุ้นไทยบวก 5.22 จุด บ่ายวันนี้ ...

PTG มุ่งมั่นปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ได้รับเกียรติบัตร "โครงการ ESG DNA" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

PTG มุ่งมั่นปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ได้รับเกียรติบัตร "โครงการ ESG DNA" จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้