Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดวันนี้ "ปัจจัยแวดล้อมเป็นลบ กด SET ลงต่อ"

302

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 มีนาคม 2568)---- บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX Securities Co., Ltd.) ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2568 เปิดเผยว่า คาด SET ปรับลดลง จากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐกับประเทศคู่ค้ารุนแรงขึ้น ส่วนการเมืองในประเทศยังมีความไม่แน่นอน ภาวะที่ขาดปัจจัยหนุนใหม่ทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ยากลำบาก ประเมินแนวรับที่ 1150 - 1140 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1170 - 1175 จุด

 

ปัจจัยสำคัญ
• IEA เตือนภาวะน้ำมันล้นตลาด คาดอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะมากกว่าอุปสงค์ราว 6 แสนบาร์เรล/วันในปีนี้ พร้อมคาดอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.03 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลงจากคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว 70,000 บาร์เรล/วัน กดดันจากสงครามการค้า
• EU เรียกเก็บภาษีวิสกี้จากสหรัฐฯ ในอัตรา 50% เพื่อตอบโต้ภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ทำให้ปธน. ทรัมป์ ขู่จะเรียกเก็บภาษีผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และไวน์นำเข้าจาก EU สูงถึง 200%
• PPI สหรัฐฯ ก.พ. + 3.2%YoY และ Core PPI +3.4%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดและชะลอตัวลงจาก ม.ค. ส่วนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนลดลง 2,000 ราย สู่ 220,000 ราย ต่ำกว่าตลาดคาด
• ติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายงบฯ ชั่วคราวเพื่อเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางในวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องส่งให้ ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้ภายในวันนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์
• รัสเซียเห็นพ้องกับสหรัฐเกี่ยวกับข้อเสนอหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่การหยุดยิงจะต้องนำไปสู่สันติภาพที่ถาวร ทางด้าน ปธน. ทรัมป์กล่าวรัสเซียจะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างหนัก หากปฏิเสธที่จะยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครนเป็นเวลา 30 วัน
• ม. หอการค้าไทยประเมินนโยบายทรัมป์ 2.0 จะกระทบต่อ 4 สินค้าส่งออก เหล็ก, อลูมิเนียม, ยานยนต์ และอุปกรณส่วนประกอบ และกระทบต่อ GDP ราว 0.3% และคาดว่าจะเติบโตเหลือราว 2.8-3.2%
• ม. หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ. ปรับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนสู่ 57.8 จากความกังวลต่อสงครามการค้า และเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้า แม้ว่ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยพยุง

 

แนวรับ-ต้าน
1150/1140 – 1170/1175

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวบ้าง โดยคาดว่าจะมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอก เช่น สหรัฐฯ อาจเลื่อนเก็บภาษีนำเข้าบางรายการจากเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่ยังมีความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน นอกจากนี้เงินเฟ้อจีนและสหรัฐฯ คาดยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและราคาพลังงานที่ลดลง และน่าจะทำให้เฟดยังไม่เปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงิน ส่วนปัจจัยในประเทศยังติดตามเสถียรภาพทางการเมือง การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐ การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนใน เม.ย. และเงื่อนไขของการโอนย้ายเม็ดเงินกองทุน LTF เป็น ThaiESGX ซึ่งจะทำให้ตลาดมีแรงขายลดลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง หนุนจากความคาดหวังจากปัจจัยภายนอกและรัฐบาลไทยมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1. หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน เลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) กำไรปี 2568 คาดเติบโต YoY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Int. Cov. Ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield อย่างน้อย 2% และ 5) SETESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปี และ SETESG Rating ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield เกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ผลประกอบการปี 2568 ยังแข็งแกร่งและยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
3. หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนกำไร 1Q68 ที่คาดจะเติบโต YoY และ QoQ และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากงาน Opp. Day ซึ่งคาดจะมีโทนประชุมเป็นบวกในสัปดาห์นี้และเราดูแลอยู่อย่าง AU TIDLOR BTG PTG


Daily top picks
BBL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป็นเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SETESG Rating ระดับ AAA และเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจากมีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด สินเชื่อเติบโตมากที่สุด ความเสี่ยงเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ Valuation ถูกที่สุดในกลุ่ม และจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 6.50 บาท (XD 23 เม.ย.) คิดเป็น Div. Yield 4.4%

BDMS: มองเป็นหุ้นปลอดภัยภายใต้ตลาดที่ผันผวนสูงและราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SETESG Rating ระดับ A ขณะที่กำไรยังมีโมเมนตัมเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดกำไรจะเติบโต 8%YoY และ Valuation ไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 22 เท่า ต่ำกว่า -2SD ของ PER เฉลี่ย 10 ปี

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เขียวสดใส แรงซื้อหุ้นบิ๊ก แคป หนุนนำ ท่ามกลางนักลงทุน ลุ้นผลเจรจาภาษีระหว่าง..

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้