CPAXT : ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

การอัพเดทผลประกอบการและเป้าหมาย : บริษัทรายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSg) ในระดับ low single digit สำหรับทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกในไตรมาสปัจจุบัน สอดคล้องกับผลประกอบการในไตรมาสก่อน สำหรับแนวโน้มด้านกำไรขั้นต้น ธุรกิจค้าส่งยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าแบรนด์ตัวเองและสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง สำหรับธุรกิจค้าปลีก บริษัทคาดว่าสัดส่วนอาหารสดที่เพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันกำไร โดยสัดส่วนอาหารสดได้เพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 28% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ CPAXT โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 36.00 บาท

การเพิ่มศักยภาพผู้เช่าในศูนย์การค้า : โลตัสมีอัตราการเช่าพื้นที่ในระดับสูงกว่า 90% ผู้บริหารมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอผู้เช่าเพื่อเพิ่มผลตอบแทน จนถึงขณะนี้ การเช่าพื้นที่เน้นไปที่การฟื้นตัวจากโควิด

เป้าหมายช่องทาง Omnichannel : ช่องทางออนไลน์มีสัดส่วน 18.8% ของยอดขายรวมใน 3Q24 สูงกว่าเป้าหมายเริ่มต้นของบริษัทที่ 17% สำหรับปีหน้า ผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะรักษาโมเมนตัมการเติบโตปี 2024 ที่เกือบ 50% ที่เห็นจนถึงขณะนี้ CPAXT ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนอย่างท้าทายที่ 500 bps ต่อปี ซึ่งจะสอดคล้องกับการบรรลุสัดส่วนยอดขายทาง Omnichannel 35% ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า ในระยะสั้นผู้บริหารตั้งเป้าลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการขยาย Omnichannel ที่ 1%

ภาพรวมการ synergy : CPAXT เน้นย้ำ 4 หมวดหมู่สำหรับการ synergy กลุ่มแรกคือ การจัดซื้อเชิงพาณิชย์และที่ไม่ใช่การค้า ซึ่งมุ่งเน้นการจัดหาสินค้าเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านราคา การ synergy ในส่วนนี้ควรใช้เวลา 3-6 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ กลุ่มที่สองคือการปรับปรุงซัพพลายเชน รวมการดำเนินงานของค้าส่งและค้าปลีกเข้าด้วยกัน กลุ่มที่สามคือ การปรับปรุงการดำเนินงานของศูนย์การค้าค้าส่ง สุดท้ายคือ การปรับปรุงระบบไอทีและฟังก์ชันสนับสนุน ซึ่งควรใช้เวลา 12-18 เดือนก่อนที่ต้นทุนที่เกี่ยวข้องจะถูกปรับให้เหมาะสม

ความคืบหน้าเรื่อง REIT สำหรับโลตัส : บริษัทอัพเดทว่าอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ โดยกำลังเจรจากับผู้เช่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าร่วม REIT การสรุปผลอาจเห็นได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2024