Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

565

 

"Domestic Plays"

KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "แกว่งขึ้นในกรอบ" ต้าน 1475/1480 จุด รับ 1455/1446 จุด ดัชนี S&P500 -1.86% น่าจะเป็นการปรับสถานะโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสหรัฐ กอปรกับ กดดันจากหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Microsoft, Meta ที่ให้ Outlook การลงทุนเชื่อมโยง AI เพิ่มขึ้น แต่ภาพกลุ่ม Utilities ที่นำตลาด บ่งชี้ถึงภาพที่เป็นกลุ่มได้ประโยชน์ บวกต่อฝั่งอาเซียนที่กำลังเป็นศูนย์กลาง Infrastructure Tech ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจดี ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง w-w 3 สัปดาห์ติด แต่ US Bond Yield ปิดทรงตัว บ่งชี้ภาพเศรษฐกิจที่สะท้อนเข้าไปแล้ว รวมถึงภาพระมัดระวังรายงานภาคแรงงานวันนี้ ด้านจีนเริ่มมีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว เช้านี้ติดตามเพิ่มในส่วน PMI ผลิต (Caixin) ภายในยังมีกระแสทางบวกการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีกส่วนฝั่งอสังหา (+จากบริโภค ท่องเที่ยว ลงทุน แก้หนี้) มอง SET แกว่งขึ้นในกรอบ โดยมีหุ้นนำ หุ้นในธีม Infra Tech, หุ้น Yield นิ่งขึ้นหนุน, หุ้น Domestic และหุ้นคาดวันนี้-สัปดาห์หน้ารายงานกำไร 3Q24F ดี วันนี้แนะ ADVANC, GULF, SIRI

 


Daily outlook: "แกว่งขึ้นในกรอบ" ต้าน 1475/1480 จุด รับ 1455/1446 จุด

What happened around the world ?

(-)US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงแรงนำโดยหุ้นกลุ่ม Tech อิง Dow jones -0.9%, ดัชนี S&P500 -1.86% และดัชนี Nasdaq -2.8% โดยดัชนี S&P 500 Sectors ที่ปรับขึ้นมีเพียงคือ Utilities, Energy ส่วน Sector ที่ปรับลงหลักๆ คือ IT, Consumer discretionary, Real estate, ICT ฯลฯ หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ Meta -4.1% Microsoft -6% แม้ทั้ง 2 บริษัทจะรายงานกำไรและรายได้ 3Q24ที่สูงกว่าคาด แต่ก็มีการเตือนว่าการใช้จ่าย Capex ที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการลงทุน AI อาจจะกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท, Uber -9.3% หลังจากกำไรต่ำกว่าคาด สวนทางกับ Comcast ธุรกิจสื่อสารรายใหญ่สหรัฐ +3.4% รับงบดีกว่าคาดหนุนจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปารีส ซึ่ง NBCUniversal ได้รับลิขสิทธิ์เพียงรายเดียวในการถ่ายทอดสดในสหรัฐ ฯฯลฯ ส่วน After Hour หุ้นที่รายงานกำไรเพิ่มและดีกว่าคาด คือ Amazon และ Intel จุดน่าสนใจอยู่ที่ Amazon กล่าวถึงภาพ Capex คล้ายกับ Microsoft, META บวกต่อหุ้นในธีม Infra Tech ที่จะได้ประโยชน์ ส่วน Apple กำไรต่ำกว่าคาดจากรายการค่าปรับภาษีในยุโรป ขณะที่รายได้ดีกว่าคาดจากโมเมนตัม iPhone 16 หนุนจิตวิทยาหุ้นกลุ่มขายมือถือ Apple อาทิ COM7, ADVICE

(*) US Earning : สหรัฐรายงานผลประกอบการ 3Q24 ออกมาล่าสุดรวม 339 จาก 499 บริษัท โดยกำไรรวมดีกว่าคาด 7.26% จากวันก่อนที่ 7.11% และ เติบโต 9.63% จากวันก่อนที่ +9.7%y-y

(*)US Econ: ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนยังสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐยังแกร่งเป็นภาพ Goldilocks to Soft Landing และเงินเฟ้อยังส่งสัญญาณชี้ว่าเตรียมจะเข้าสู่กรอบเงินเฟ้อที่ Fed วางไว้ที่ 2% อิง 1.) เงินเฟ้อ(PCE) เดือน ก.ย. +2.1%y-y เท่ากับคาด และ +0.2% m-m เท่ากับคาด และ Core PCE + 2.7%y-y มากกว่าตลาดคาดที่ 2.6% และ 0.3%m-m เท่ากับคาด 2.) รายได้ส่วนบุคลล เดือน ก.ย. +0.3% เท่ากับคาด , รายจ่ายส่วนบุคคลขยายตัว 0.5% มากกว่าคาดที่ 0.4% รายจ่ายส่วนบุคลลที่แท้จริงขยายตัว 0.4% มากกว่าที่ 0.3% 3.)จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Initial Jobless Claims) -1.2 หมื่นรายจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 2.16 แสนราย (อิง MUFG ทำการศึกษา initial jobless claims ที่เพิ่มขึ้นเกิน 5 หมื่นราย มักเป็นสัญญาณของเศรษกิจถดถอย และจากการศึกษาความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนตำแหน่ง) Key สำคัญคือให้น้ำหนักกับคืนนี้รายงาน Non farm payrolls ตลาดคาดตัวเลข 1.2 แสนราย ชะลอลงจากเดือนก่อน 2.5 แสนราย หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด ประเมินจะจำกัด Down side ในการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐในต้นสัปดาห์ข้างหน้า

(*)China Econ : PMI ภาคผลิตจีนเดือน ต.ค. 2024 กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ที่ 50.1 ดีกว่าคาดที่ 50 จุด vs prev.49.8 จุด (> 50 จุดสะท้อนภาคการผลิตขยายตัว และ PMI นอกภาคผลิตจีนขยายตัว 22 เดือนติดที่ 50.2 จุด แม้ต่ำกว่าคาดที่ 50.4 จุด แต่เพิ่มจากช่วงก่อนหน้า 50.0 จุด สะท้อนภาพการฟื้นตัวจากเดือนก่อน Key Focus คือ ทางการจีนเลื่อน การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน จากสิ้น ตค 2024 ไปเป็นวันที่ 4-8 พย 2024 คาดการณ์ว่าน่าจะรอผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพื่อประเมินผลกระทบและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการทางการคลังใหม่ให้มีขนาดที่เหมาะสม และน่าจะมุ่งเน้นไปที่แผนบรรเทาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น 2-6ล้านล้านหยวน เพื่อกระตุ้นการบริโภคให้ทั่วถึง และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัว KSS ประเมินจะหนุนตลาดหุ้นจีนและบวกต่อหุ้น China Play นำโดย IVL , AOT, ส่วน SCGP , PTTGC

(*) BOJ Meeting : ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% inline ตลาดคาด ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากพรรครัฐบาลญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งทั่วไป และปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีงบประมาณ 2568 ลงสู่ระดับ 1.9%y-y จาก 2.1% ต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ BOJ ที่ระดับ 2% ตลาดคาด BOJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปคือ ประชุมรอบ ธ.ค. KSS ให้น้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็นกลาง หรือ Neutral

(*) To monitor : ฝั่งสหรัฐ 1 พ.ย. อัตราการว่างงาน ต.ค. 24 คาด 4.1% เท่า prev. 1 พ.ย. PMI ภาคผลิต (ISM) ต.ค. 24 คาด 47.6 จุด vs prev. 47.2 จุด

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐ อายุ 2 ปี แกว่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยปิดทรงตัวจากวันก่อน อยู่ที่ 4.17% และอายุ 10 ปี ปรับลง -1 bps อยู่ที่ 4.28% (US Bond yields 10 ปี และ Thai Bond yield10 ปี มีค่าสหสัมพันธ์สูงราว 0.6 หรือไปทางใดเดียว ส่วน Dollar Index ชะลอการแข็งค่าอยู่ที่ 103.8 จุด

(*/+) Oil : น้ำมันดิบ Brent +0.90%d-d ปิดที่ USD 72.81/barrel, น้ำมันดิบ West Texas +0.95%d-d ปิดที่ USD 69.26/barrel แรงหนุนระยะสั้นมาจากฝั่งสหรัฐ ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจภาคบริโภคออกมาแกร่งสะท้อนคาดการณ์บริโภคน้ำมัน ผสานตลาดคาด OPEC+ จะเลื่อนการเพิ่มการผลิตน้ำมันออกไปอย่างน้อยอีกอ1 เดือน เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ PTTEP, PTT

(*/+) Natural Gas : ก๊าซธรรมชาติ NYMEX -4.85%d-d, -12%wtd ปิดที่ USD2.707/MMBtu แรงกดดันยังมาจาก Supply ก๊าซธรรมชาติในสหรัฐเร่งขึ้น ผสานกับความตึงเครียดสงครามในตะวันออกกลางผ่อนคลาย มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า เน้น GULF , GPSC

(*/+) Sugar : น้ำตาล +2.34%d-d ปิดที่ 22.74Cent/lb แรงหนุนหลักยังมาจากฝั่งบราซิล คือปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตบราซิลปลายฤดูกาลลดลง มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำตาล KSL KBS KTIS แนะนำเก็งกำไร

(+) World Container Index (WCI) : WCI พลิกปรับขึ้นครั้งแรงหลังจากปรับลง 12 สัปดาห์ติดสัปดาห์ล่าสุด +4%w-w อยู่ที่ 3213 เหรียญต่อ 40 ft และปรับขึ้นเกือบทุกเส้นทางเรือ แรงหนุนหลักๆมาจากความตึงเครียดในตะวันออกลางสัปดาห์ก่อนที่มีการโจมตีกันทางอากาศ ประเมินจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเรือ Container อาทิ RCL และบวกต่อกลุ่มให้บริการโลจิสติกส์ในลักษณะ Freight Forwarder ที่มีสัดส่วน Sea Freight สูง อาทิ SINO (90% ของรายได้), SONIC (62% ของรายได้) LEO (75% ของรายได้) และ WICE (34% ของรายได้) ยังแนะนำเพียง ชะลอการลงทุน

 

What happened in Thailand ?

(+) SET : SET Index พุ่งแรง 18.84 จุด (+1.30%) ปิดที่ระดับ 1,466 จุด ดัชนีมี Technical Rebound ผสานกับมีข่าวดีจีนประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตพลิกขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนในประเทศมีข่าวภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม, Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, KCE, HANA) จิตวิทยาบวกหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯรายงานกำไร 3Q24 ดีกว่าคาด ผสาน KCE ที่รีบาวน์จากปรับลึกช่วงก่อนหน้าจากความกังวลผลกระทบการเข้าซื้อกิจการใหม่ ขณะที่เราประเมินผลกระทบจำกัดกว่าตลาดกังวลไปก่อน กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ (PTTEP, PTTGC, IVL) ตามราคาน้ำมันฟื้นตัว +2.0% และจิตวิทยาบวกรายงานเศรษฐกิจของจีน และกลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CRC, DOHOME) จิตวิทยาบวกรัฐฯเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจและ รายงานเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัว ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, PR9) มองผ่านช่วงฤดูกาลมาแล้ว

(*/-) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุดไหลออก ซื้อพันธบัตร +0.97 ล้านเหรียญฯ ขายหุ้น -12.9 ล้านเหรียญฯ TFEX Net long 16,359 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยสู่ 33.8 +/- บาท

(+) TH Tourism: สัญญาณบวกท่องเที่ยวชัดเจนขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ต.ค. ขยับมาแตะระดับ 1 แสนต่อวันครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน มองบ่งชี้การเข้าสู่ช่วงฤดูกาลแล้ว มองระยะถัดไปนักท่องเที่ยวเร่งขึ้นต่อเนื่องทั้งช่วงที่เหลือของปีไปถึงช่วง 1Q25 นอกจากนี้ ยังมีลุ้นนักท่องเที่ยวจีนเร่งขึ้น สอดรับสัญญาณเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว เชิงกลยุทธ์ หุ้นท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังอยู่โซนฐาน เรามองเป็นโอกาสสะสมรอรับภาพบวกฤดูกาล แนะนำ AOT BA AAV ERW AWC CPALL

(*/+) Government Stimulus: รมว. คลังเตรียมเสนอ ครม. สัปดาห์หน้าอนุมัติมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ 1) สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ "ซื้อ - แต่ง ซ่อม สร้างบ้าน วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ถกสมาคมธนาคารไทยพรุ่งนี้ 2.) มาตรการอื่นๆ ลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง จะหมด สิ้นปี 2024 (มีโอกาสขยายต่อ) และ 3.) มาตรการ LTV ขึ้นกับ BOT KSS ประเมินมาตรการดังกล่าวข้างต้นบวกต่อกลุ่มอสังหา (AP, SIRI) กลุ่มธนาคารที่มีสินเชื่ออสังหาฯสูง SCB 32% ของยอดสินเชื่อ, TTB 25%, KTB 19%, KBANK 17% และกลุ่มขายของตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน อาทิ HMPRO, ILM, DOHOME, GLOBAL เชิงกลยุทธ์ ระยะสั้นเลือกหุ้นเด่น SIRI, AP, KTB, KBANK, HMPRO

(+) MSCI Rebalance: 6 พ.ย. MSCI จะประกาศผลการ Rebalance รายประเทศและหุ้นเข้า – ออก โดยจะใช้ราคาปิดในช่วงปลายเดือน ต.ค. กำหนด ขณะที่การ Rebalance จะมีผลวันที่ 26 พ.ย. (ราคาปิดวันที่ 25 พ.ย.) เราคาดไม่มีหุ้นเข้า และ SCGP มีความเสี่ยงที่อาจจะหลุดออกจากดัชนี ขณะที่หุ้นไทยหลายตัวที่มีอยู่ในดัชนีมีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนัก เนื่องจาก Performance ที่ดีขึ้นกว่าภาพรวมในช่วงที่ผ่านมา ผสาน เกณฑ์หุ้นที่มีแรงหนุนระยะนี้ เราแนะนำ GULF KTC TRUE KTB CPAXT AOT KBANK CPALL ADVANC

(*/-) TH Econ: BOT รายงานภาวะเศรษฐกิจ ก.ย. 24 อ่อนตัวลง m-m ถ่วงจากภาคส่งออก -3.3% และดัชนีภาคบริโภคเอกชน -0.6% แต่จุดที่ดี คือ การลงทุนรัฐบาลกลางและภาคเอกชน รวมถึงรายรับจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นช่วยชดเชย โดยรวมกับช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส KSS ประเมิน GDP งวด 3Q24 น่าจะมีแนวโน้มขยายตัวระดับ +2.3%y-y ใกล้เคียงกับงวด 2Q24 และจะต่ำกว่า Consensus มอง 2.7%y-y และ BOT คาดการณ์ 3.0% รวมถึงกระทรวงการคลังที่มองระดับใกล้เคียง BOT อิงภาพดังกล่าว หุ้น Domestic มีโอกาสเผชิญความผันผวนระยะสั้น ทั้งนี้ เราเชื่อว่ากรอบความผันผวนจะจำกัด จากปัจจุบันที่รัฐฯกำลังเร่งกระบวนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะช่วยชดเชยผลกระทบระยะถัดไปได้ มองหุ้น Domstic อาทิ ค้าปลีก ท่องเที่ยว ธนาคาร เช่าซื้อ สื่อสาร เป็นโอกาสสะสมผันผวนกับความเสี่ยง GDP

(*) To monitor: วันนี้ติดตามรายงานกำไร 3Q24 ของ ADVANC (ตลาดคาด 4.3%y-y, -1.0%q-q) ส่วนสัปดาห์หน้าปัจจัยภายในติดตาม 1.) 5 พ.ย. เงินเฟ้อ CPI ต.ค. 24 ตลาดคาด ทรงตัว m-m, +0.93%y-y vs prev. -0.1%m-m, +0.61%y-y และ ประชุม ครม. คาดว่าจะมีการเริ่มพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ บริโภค (คูณสอง, Easy E-Receipt, Digital Wallet เฟสถัดไป) ท่องเที่ยว แก้ไขหนี้ครัวเรือน รวมถึง อสังหาฯ 2.) 6 พ.ย. MSCI ประกาศรายชื่อหุ้น Rebalance รอบพ.ย. 3.)รายงานกำไร 3Q24F ที่จะเริ่มหนาแน่นขึ้น หุ้นหลักๆ ที่รายงานสัปดาห์หน้า อาทิ PTTGC, TU, BCP, AP, BH, BJC, CPAXT, GPSC, KCE, MTC, CBG, WHA, JMT, INTUCH, TOP หุ้นคาดกำไรดี TU, BH, CPAXT, MTC, CBG, WHA, INTUCH

 

Daily Strategy : ADVANC, GULF, SIRI เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทย "แกว่งขึ้นในกรอบ" ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลง ทั้งลดความเสี่ยงก่อนเลือกตั้งสัปดาห์หน้า รวมถึง การให้ Outlook หุ้นกลุ่มเทคฯ ที่จะเร่งใช้งบลงทุน AI เพิ่มขึ้น สร้างความกังวลกดดันผลประกอบการระยะถัดไป อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันสัญญาณดังกล่าวบวกต่อหุ้นได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในธีม Infra Tech ส่วนภาพใหญ่ US Bond Yield สหรัฐฯเริ่มนิ่งขึ้น แม้รายงานเศรษฐกิจดีกว่าคาด สะท้อนการปรับขึ้นจากนี้กรอบจำกัด ส่วนภายในติดตามปัจจัยเร่งกระแสการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครอบคลุมอสังหาฯ (+จากเดิมบริโภค ท่องเที่ยว แก้หนี้ ลงทุน) โดยรวมมองหุ้นนำ หุ้นในธีม Infra Tech, หุ้น Yield นิ่งขึ้นหนุน, หุ้น Domestic และหุ้นคาดวันนี้-สัปดาห์หน้ารายงานกำไร 3Q24F ดี

หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักจากกองทุนวายุภักษ์
กลุ่มที่ 1 หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2024 – 2025 ได้แก่ AOT, KTB, PTT

กลุ่มที่ 2 หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCGP

กลุ่มที่ 3 หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

กลุ่มที่ 4 หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ Theme ที่ 4 คือ Div Yield 2024-2025 สูง >5% และอยู่ใน ThaiESG หุ้น (KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH)

กลุ่มที่ 5 หุ้นที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์น้อย ขณะที่เข้าเกณฑ์ ESG Score (ถ้าอยู่ใน SET100 เรทติ้ง A ขึ้นไป ต่ำกว่า SET100 AA ขึ้นไป การเติบโตปี 2024-25 เกณฑ์ดี CPALL CPAXT BDMS CRC HMPRO IVL MTC BJC WHA

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)

กลุ่มที่ได้ประโยชน์/ทนทานต่อความเสี่ยงผลการเลือกตั้งใหญ่สหรัฐฯ (KTB, GPSC, GULF, ADVANC, CPALL, BDMS, WHA)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AAV, BA, AU)
กลุ่มคาดกำไร 3Q24F จะออกมาดี (IVL, ADVANC, CPALL, TRUE, AWC และ MOSHI)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, CPAXT)

• 4Q24 Stock Picks : GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, AOT, KTB, ADVANC, HMPRO Mid-Small Cap Play : BTS, MALEE, MOSHI, CHG, ERW, BA

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

อ่อนตัว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ พรุ่งนี้ ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝน ตอนนี้แถว รัชดาฯฝนตก อากาศเย็นสบาย นั่งมองหุ้นหลาย....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้