วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ ได้รับ Sentimentเชิงลบจาก Bond yield สหรัฐปรับตัวขึ้นทะลุ 4.2% ขณะที่มีแรงขายทำกำไรต่อเนื่องในหุ้นกลุ่ม Big Capประกอบกับแรงขายลดความเสี่ยงก่อนตลาดหุ้นปิดทำการวานนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,470.32 จุด -18.42 จุด -1.24% มูลค่าการซื้อขาย 57,008.04 ลบ. Program Trading -1,527.24 ลบ.ต่างชาติ -1,645.26 ลบ. TFEX -8,772 สัญญา ตราสารหนี้ +165.72 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ยูบีเอส อินเวสเมนท์ แบงก์ (UBS Investment Bank) ของสหรัฐฯปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของเศรษฐกิจจีนในปีนี้เป็น 4.8% จากเดิมที่4.6% หลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ใน 3Q67
+ BOI เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2567)การลงทุนจากต่างประเทศ (FDI ) ขยายตัวต่อเนื่อง มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 1,449 โครงการ เพิ่มขึ้น 66%YoY เงินลงทุนรวม546,617 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38%YoY
+ รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า คาดว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ภายในปีนี้

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 409.94 จุด หรือ -0.96% ได้รับปัจจัยลบจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ รวมทั้งการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นน้อยลงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก และข่าวด้านลบของบริษัทบางแห่งซึ่งรวมถึงแมคโดนัลด์(McDonald's)
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 97 เซนต์ หรือ -1.35% ปิดที่70.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
- รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างค่อยเป็นค่อยไปให้สอดคล้องกับระดับความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ
- กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของจีนในมณฑลที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบ
ประจำปี แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องปรามของจีนในน่านน้ำของช่องแคบไต้หวันด้วย
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ และเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายด าเนินการปรับเปลี่ยนนโยบายการคลังที่มีความยั่งยืนและเป็นไปอย่างระมัดระวัง

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนี 1,460-1,475 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
หุ้นได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมหลังน้ำลด : TASCO DOHOME GLOBAL HMPRO DCC DRT TOA DPAINT
• สินค้าส่งออกเดือนส.ค.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH GFPT FM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• กกพ. เปิดประมูลพลังงานทดแทนรวม 2,180 MW (ลม 600 MW และแสงอาทิตย์ 1,580 MW) : GUNKUL SSPGULF BGRIM GPSC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR GULF GPSC BGRIM SIRI SC SPALI