Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

435


"Domestic Plays"

KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "แกว่งออกข้าง" ต้าน 1501/1506 จุด รับ 1482/1478 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯทำจุดสูงสุดใหม่ ดัชนี S&P500 +0.4% ตอบรับกำไรงวด 3Q24 ของ 72 บริษัท ที่รายงานแล้ว ดีกว่าคาด 6.2% เติบโต +6.7%y-y ขณะที่ราคาน้ำมันลงเฉลี่ย -2.0% ตบอรับความต้องการที่ชะลอลง หลัง GDP ไตรมาส 3 ของจีนขยายตัวตามตลาดคาด 4.6% แต่ต่ำกว่าเป้าทางการจีนที่ 5% เป็นปัจจัยลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ และหนุนวงจรดอกเบี้ยโลกขาลง ฝั่งเอเชีย เศรษฐกิจจีน แม้ GDP 3Q24 โตต่ำ แต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน อาทิ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีก เรามองเป็นสัญญาณ Wealth Effect ตลาดหุ้นที่ดีขึ้น และเชื่อว่ารัฐบาลจีนยังเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเร่งการเติบโตภาพรวมสู่ 5% ขณะที่ภายในรัฐบาลจะเริ่มประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจปลาย ต.ค. ให้จับตามาตรการใหม่ๆ กลุ่มเด่นวันนี้ หุ้น China Plays หุ้นอิงภายใน (ค้าปลีก เช่าซื้อ ธนาคาร) หุ้นกำไร 3Q24F เติบโต น่าจะนำตลาด วันนี้แนะ BJC, CPALL, KBANK

 

Daily outlook: "Sideways to Sideways/Up" ต้าน 1501/1506 จุด รับ 1482/1478 จุด

What happened around the world ?

(*) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวขึ้น Dow jones +0.09%d-d , S&P500 +0.4% ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ , Nasdaq +0.63%d-d โดยดัชนี S&P 500 Sectors ที่ปรับขึ้นนำโดย กลุ่ม ICT, Real estate, Utilities ฯลฯ Sector ปรับลงมีเพียงคือ Energy ( Chevron -0.3%) หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ Netflix 11% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับงบ 3Q24 ออกมาดีกว่าคาด โดยจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด และคาดว่า การขยายตัวจะดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2024, กลุ่มที่เชื่อม Crypto ปรับขึ้นเด่น Microstrategy +11% หนุนจากราคาเหรียญสกุลดิจิทัลปรับขึ้นแรงเก็งโดนัลทรัมป์ชนะเลือกตั้ง, Apple +1.2% รับข่าวยอดขาย iPhone ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้น

(*) US Econ : ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาผสมผสาน 1.) ยอดขอสร้างบ้านใหม่ เดือน ก.ย. -0.5%m-m แย่กว่าคาดที่ -0.4% อยู่ที่ 1.354 ล้านหลัง 2.) จำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง -2.9%m-m อยู่ที่ 1.428 ล้านหลัง 3.) GDP Now โดย Fed atlanta +3.4%q-q เท่ากับที่ตลาดคาดและเท่ากับรอบก่อนหน้า prev. +3% ในงวด 2Q24 , +1.4%ในงวด 1Q24

(*/+) Iphone : ยอดขายiPhone รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศจีน +20% ในช่วง สัปดาห์แรกหลังเปิดตัว เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว Bloomberg เผยว่า iPhone 16 เปิดตัวที่ประเทศจีนในเดือนก.ย. และยังทำยอดขายได้ดีจนถึงขณะนี้ ผู้บริโภคในจีนให้ความสนใจรุ่นราคาแพงมากกว่า มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้น China Plays เพราะน่าจะบ่งชี้ถึงกำลังซื้อชาวจีนที่เริ่มฟื้นตัว เน้น IVL นอกจากนี้ เป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไทย อาทิ DELTA, HANA, KCE

(*/+) China Econ : ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกงพลิกปรับขึ้นแรงหนุนจาก 1.) ธนาคารกลางจีนPBOC ประกาศเริ่มใช้มาตรการสินเชื่อพิเศษ ให้สำหรับบริษัทในการซื้อหุ้นคืน (วงเงิน 5 แสนล้านหยวน) และมาตรการ Swap Facility (วงเงิน 3 แสนล้านหยวน) สำหรับสถาบันการเงินในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เพื่อซื้อหุ้น และส่งสัญญาณจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านการปรับลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ อาจลดลงอีก 0.25-0.50% ภายในสิ้นปี ผสานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) จะลดลง 0.20-0.25% ในวันที่ 21 ต.ค.นี้2.)ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด อิง GDP 3Q24 อยู่ที่ 4.6%y-y ตามตลาดคาด เฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีอยุ่ที่ 4.86% และตัวเลขเศรษฐกิจทั้ง อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 5.1% ต่ำกว่าคาดการณ์และเดือนก่อนที่ระดับ 5.3% ผสานกับตัวเลขทั้ง การผลิตภาคอุตสาหกรรม +5.4%y-y สูงกว่าคาด และ ดัชนีค้าปลีก +3.2%y-y สูงกว่าคาดระดับ +2.5%y-y และเร่งขึ้นจากเดือนก่อนระดับ +2.1%y-y KSS ประเมินจะหนุนตลาดหุ้นจีนและบวกต่อหุ้น China Play นำโดย IVL , AOT, ส่วน SCGP ,PTTGC ทยอยตั้งรับ

(*/+) Geopolitical Risk : สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ใช้โดรนโจมตีบ้านพักเพื่อลอบสังหาร นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และภริยา โดยอิสราเอลประกาศว่าเตรียมตอบโต้การโจมตีดังกล่าว และมีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะเปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่านเพื่อเป็นการตอบโต้ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เราประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจทำให้สงครามขยายเป็นวงกว้างกระทบต่อราคาน้ำมัน, เศรษฐกิจ รวมไปถึงการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก

(*) To monitor : ฝั่งสหรัฐ 23 ต.ค. ติดตามยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ย. คาด 3.9 ล้านหลัง vs prev. 3.86 ล้านหลัง, 24 ต.ค. ติดตามยอดขายบ้านใหม่ ก.ย. คาด 7.13 แสนหลัง vs prev. 7.16 แสนหลัง 24 ต.ค. ติดตาม S&P Flash PMI ภาคผลิต ต.ค. คาด 47.3 จุด เท่าเดือนก่อน, 25 ต.ค. ติดตามดัชนีความเชื่อมั่น ม มิชิแกน ต.ค. คาด 69.5 vs prev. 68.9 และยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ก.ย. คาด -1%m-m vs prev. +0%m-m ฝั่งยุโรป 23 ต.ค. ติดตามดัชนีความเชื่อมั่น ต.ค. คาด -12.0 vs prev. -12.9, 24 ต.ค. ติดตามดัชนี Flash PMI ต.ค. ภาคผลิตคาด 45.3 จุด vs prev. 45.0 จุด

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐพลิกลง อิง อายุ 2 ปี -3 bps อยู่ที่ 3.95% และอายุ 10 ปี -1 bps อยู่ที่ 4.08% ส่วน Dollar Index แกว่งตัว 103.3 จุด

(-)Oil : ราคาน้ำมันดิบ ปรับลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน อิง น้ำมันดิบ Brent -1.87%d-d ปิดที่ US$ 73.06/barrel น้ำมันดิบ West Texas -2.05%d-d ปิดที่ US$ 69.2/barrel แรงกดดันหลักมาจากประเด็นเดิม คือ สงครามในตะวันออกกลางมีทิศทางดีขึ้น ล่าสุดวันศุกร์ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเผย มีโอกาสที่จะช่วยยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยจะส่งนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ไปยังอิสราเอลในสัปดาห์นี้เพื่อผลักดันข้อตกลงหยุดยิง KSS ประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันยังเป็นขาลง มองแนวรับ WTI บริเวณ 67 และ 65 เหรียญ โดยรวมประเมินเป็นปัจจัยลบต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ แต่ในตรงข้ามบวกต่อหุ้นกลุ่มที่มีต้นทุนน้ำมัน อาทิ กลุ่มสายการบิน AAV, BA กลุ่ม Anti commodity อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC, GULF กลุ่มวัสดุ TASCO

(*/+) Crypto Currency : ราคา Bitcoin +1.5%, 7%wtd อยู่ที่ 6.8 หมื่นเหรียญฯ สูงสุดตั้งแต่ ก.ค.2024 แรงหนุนจากตลาดเก็งอดีตประธานาธฺบดี ทรัมป์มีรโอกาสชนะการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. (ทรัมป์มีนโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุม Crypto Curency และเขามีแผนที่จะทำให้สหรัฐเป็นเมืองหลวงของ Crypto โดยรวมเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่ทำธุรกิจเชื่อมโยง Crypto อาทิ BTC, JTS

 

What happened in Thailand ?

(*/-) SET : SET Index ปรับตัวลง -5.2 จุด หรือ -0.35% ปิดที่ 1489.82 จุด กลุ่มหนุน คือ กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA) ตามจิตวิทยาบวกหุ้นเทคโนโลยีต่างประเทศที่มีภาพ TSMC รายงานกำไร 3Q24 ดีกว่าคาดหนุน กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT) หุ้นค้าปลีกได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยของ กนง. ทั้งฝั่งรายได้และต้นทุน กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) ร่วงแรงประเมินเป็นเพียงการขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ราคาหุ้นพุ่งแรงเข้าใกล้ราคาเป้าหมายของเราที่ 300 บาทไปแล้ว กลุ่มพลังงาน (GULF, GPSC) นักลงทุนขายทำกำไรคล้ายกับกรณีของ ADVANC ประกอบกับวันนี้มี Sentiment ลบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐอายุ 10 ปี (US Bond yield) กลับมาเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 4.098%

(*) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุดไหลออก ขายพันธบัตร -116.5 ล้านเหรียญฯ ขายหุ้น -7.9 ล้านเหรียญฯ TFEX Net long 28,838 สัญญา ล่าสุดเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยสู่ 33.1 +/- บาท

(*/+) Gov Stimulus: รมช.คลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะมีการประชุมในช่วงปลายเดือน ต.ค.ถึงต้นเดือน พ.ย. โดยจะมีการหารือ

1.) รายละอียดโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 มองบวกต่อหุ้น Domestic โดยเฉพาะค้าปลีก CPALL, BJC เช่าซื้อ ธนาคาร BBL, KBANK, KTB

2.) มาตรการเที่ยวไทยไปต่อ (คาดจะให้นำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว สัมมนา ประชุม) ในพื้นที่ประสบอุทกภัยมาหักลดหย่อนภาษีได้ โดยเบื้องต้นกำหนดที่ 2 เท่าของรายจ่าย มองบวกหุ้นอิงภาคท่องเที่ยวที่มีสัดส่วนที่มีรายได้ในภาคเหนือที่เป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมสูง คือ AWC (6% ของรายได้ ) ERW (3% ของรายได้)

3.) คาดจะมีการเสนอนำค่าใช้จ่ายซ่อมแซ่มที่อยู่อาศัย และยานพาหนะ สำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ค่าซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอาคาร หรือทรัพย์สินที่ติดตั้งกับตัวอาคารที่อยู่ในที่ดินมาหักลดหย่อนภาษีได้ มองบวกต่อหุ้นปรับปรุงบ้าน เน้น GLOBAL, HMPRO

(*/-) TH Politic: เลขาฯ กกต.สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน 6 คำร้อง ขอให้ ยุบพรรคเพื่อไทย โดยกล่าวหาว่า นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค ครอบงำและชี้นำพรรค อาทิ การเสนอชื่อ นายกฯ, การจัดสรรตำแหน่ง รมว. และนำวิสัยทัศน์ที่นายทักษิณกล่าวเมื่อ 22 ส.ค. 24 มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล การสอบสวนครั้งนี้เสนอให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ เราคาดว่าประเด็นนี้จะเป็นจิตวิทยาลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นต่อความกังวลปัจจัยการเมือง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอยู่ในช่วงต้นของกระบวนการ ดังนั้นผลกระทบต่อการลงทุนระยะสั้นจะยังอยู่ในวงจำกัด

(*) To Monitor: : สัปดาห์นี้ ปัจจัยภายใน ติดตาม 21 ต.ค. ติดตาม KBANK, KTB, SCB กลุ่มธนาคารเริ่มรายงานกำไรงวด 3Q24F โดยรวมเราคาดธนาคารที่ศึกษารายงานกำไรสุทธิ 3Q24F ที่ 5.22 หมื่นลบ. กำไรเพิ่มขึ้น +3% y-y เพราะการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน (FVTPL) ขณะที่กำไรลดลง -3% q-q 22 ต.ค. ติดตามประชุม ครม. ว่าจะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นอกจากนี้ ติดตามรายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์ ส่วนปลายสัปดาห์ 24 ต.ค. ติดตามยอดส่งออกและนำเข้า ก.ย. 24 ไม่มีคาด vs prev. +7.0%y-y และ +8.9%y-y ตามลำดับ25 ต.ค. ติดตามรายงานกำไร DELTA ตลาดคาด +5%y-y, -13.2%q-q

 

Daily Strategy : BJC, CPALL, KBANK เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทย "แกว่งออกข้าง" โดยรวมยังไม่มีปัจจัยหนุน/กดดันตลาดหุ้นที่ชัดเจน หุ้นเด่น วันนี้ จึงอยู่ในลักษณะรายตัวรายกลุ่ม อาทิ หุ้น China Plays (รายงานเศรษฐกิจจีนบางองค์ประกอบเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น) และหุ้นอิงภายใน คาดหวังการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้ อาทิ Digital Wallet เฟส 2 ท่องเที่ยว และการฟื้นฟูผลกระทบน้ำท่วม (ค้าปลีก เช่าซื้อ ธนาคาร) และหุ้นกำไร 3Q24F เด่น อาทิ IVL, MOSHI, CPALL, SYNEX, TRUE, KBANK (เรามองมีโอกาสเห็นกำไรจากเงินลงทุนสร้าง Surprise คล้าย BBL ขณะที่ KBANK เป็นธนาคารที่ผ่านช่วงได้รับผลกระทบคุณภาพสินทรัพย์ไปแล้ว)

หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักจากกองทุนวายุภักษ์ที่กำลังจะกลับมา
กลุ่มที่ 1 หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2024 – 2025 ได้แก่ AOT, KTB, PTT

กลุ่มที่ 2 หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCGP

กลุ่มที่ 3 หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

กลุ่มที่ 4 หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ Theme ที่ 4 คือ Div Yield 2024-2025 สูง >5% และอยู่ใน ThaiESG หุ้น (KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH)

กลุ่มที่ 5 หุ้นที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์น้อย ขณะที่เข้าเกณฑ์ ESG Score (ถ้าอยู่ใน SET100 เรทติ้ง A ขึ้นไป ต่ำกว่า SET100 AA ขึ้นไป การเติบโตปี 2024-25 เกณฑ์ดี CPALL CPAXT BDMS CRC HMPRO IVL MTC BJC WHA

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
กลุ่มที่ได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า กลุ่มที่มีหนี้สินต่างประเทศสูง + กลุ่มนำเข้าสินค้า/บริการ/วัตถุดิบ รวมถึงงบลงทุนที่ต้องใช้อุปกรณ์จากต่างประเทศ (GULF, GPSC, BA, COM7, SYNEX, ADVICE, BE8, BBIK, TAN, MOSHI)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, GLOBAL, AOT, AAV)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, MINT, CPALL, CPAXT)

• OCT24 Best Picks: ADVANC, CPALL, MTC, GPSC, BJC, AOT, IVL

• 4Q24 Stock Picks : GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, AOT, KTB, ADVANC, HMPRO Mid-Small Cap Play : BTS, MALEE, MOSHI, CHG, ERW, BA

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้