Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ที่ 'BBB' และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิต มีเสถียรภาพ

781

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (12 กรกฎาคม 2567 )-------ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ที่ 'BBB' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิต  มีเสถียรภาพ

 

ในขณะเดียวกันฟิทช์ยังได้คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ที่ 'bbb' และคงอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) ของ SCB และ SCBX ที่ 'bbb' และ 'bbb-' ตามลำดับ พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Long-Term IDR(xgs)) และอันดับเครดิตสากลของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล ของ SCB และยกเลิกอันดับเครดิตดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้มีนัยสำคัญต่อการวิเคราะห์ของฟิทช์

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตพิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากโครงสร้างเครดิตของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน และอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ 'F2' ของ SCB เป็นตัวเลือกที่สูงกว่า เนื่องจากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนมีความแน่นอนกว่าในระยะสั้น อันดับเครดิตภายในประเทศยังพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของ SCB เมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ

 

อันดับเครดิตของ SCBX พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม: SCBX เป็นบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่ม โดยมี SCB เป็นกิจการหลัก อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินรวมของกลุ่มและของ SCB ซึ่งเป็นกิจการหลัก และยังสะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่า SCBX จะสามารถรักษาอัตราส่วน Common Equity Double Leverage ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 110% ได้ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ SCBX อยู่ที่ระดับ ‘F3’ เป็นตัวเลือกที่ต่ำกว่า เนื่องมาจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างด้านความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของกลุ่มยังไม่จัดอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้อันดับที่สูงกว่า

 

แนวโน้มการเติบโตค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น: แนวโน้มของธุรกิจธนาคารในประเทศไทย ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตอาจจะปรับตัวดีขึ้นอีกได้ไม่มากนัก เนื่องจากฟิทช์ยังคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักที่  2.6% ในปี 2567 ฟิทช์ให้อันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' ซึ่งเป็นในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอันดับคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งจะอยู่ในกลุ่ม 'bb' ตามเกณฑ์การพิจารณาของฟิทช์ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่ารัฐบาลไทย (BBB+/Stable) จะช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและและระบบการเงิน

 

เครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง: อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มที่ 'bbb+' สะท้อนถึงการที่ SCB มีสถานะเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากอยู่ที่ 15% อีกทั้ง SCB ยังมีรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย และมีฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อลูกค้ารายย่อย ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนความสามารถของกลุ่มในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัฏจักรของธุรกิจ

 

โครงสร้างความเสี่ยงทรงตัว: อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยงของกลุ่มที่ 'bbb' สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และการควบคุมความเสี่ยงของกลุ่มโดยรวมน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แม้ว่า SCBX มีแผนที่จะขยายธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภคในบริษัทลูกที่ไม่ใช่ธนาคารเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมของกลุ่มน่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ และฟิทช์คาดว่าโครงสร้างพอร์ทสินเชื่อที่ค่อนข้างกระจายตัวนั้นยังไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

 

ความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์เริ่มลดลง: การตั้งสำรองและการตัดหนี้สูญของ SCBX มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะยังมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ค่อนข้างคงที่ (ไตรมาส 1 ปี 2567: 3.9%, ปี 2566: 4.0%) อันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ตามเกณฑ์ของบริษัทอยู่ในกลุ่ม ‘bb’ แต่ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับคะแนนขึ้นเป็น ‘bbb-’ โดยพิจารณาจากอัตตาส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 155% ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 (2566: 152%)

 

ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Operating profit/Risk Weighted Assets) ของ SCBX ทยอยปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 2.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 (2566: 2.4%) ฟิทช์คาดว่าองค์ประกอบสำคัญของความสามารถในการทำกำไร เช่น อัตราส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายผลขาดทุนจากการด้อยค่า น่าจะยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลกำไรและอันดับคะแนนปัจจัยด้านรายได้และความสามารถในการทำกำไรในปัจจุบันของ SCBX ที่ระดับ ‘bbb-’

 

ฐานะเงินกองทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี: อันดับคะแนนปัจจัยด้านเงินกองทุนของ SCBX ที่ 'bbb+' สะท้อนถึงฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ของธนาคารอยู่ที่ระดับ 17.4% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่รายอื่น (ค่าเฉลี่ยของภาคธนาคารที่ 16.0%) ฟิทช์คาดว่า SCBX น่าจะสามารถรักษาระดับเงินกองทุนให้อยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีแรงกดดันบ้างจากการจ่ายเงินปันผลในอนาคตและการเติบโตของสินทรัพย์

 

เครือข่ายธุรกิจในประเทศด้านเงินฝากที่แข็งแกร่ง: อันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมเงินและสภาพคล่องของ SCBX ที่ 'bbb' มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจด้านเงินฝากและฐานลูกค้ารายย่อยของ SCB ซึ่งเป็นกิจการหลักของกลุ่ม ทั้งนี้ SCB มีเงินฝากที่ต้นทุนต่ำและมีเสถียรภาพ โดยธนาคารมีสัดส่วนบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์คิดเป็น 79% ของเงินฝากรวม ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของกลุ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 102.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2024 แต่ฟิทช์ไม่คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างมีนัยสำคัญจากระดับปัจจุบัน

 

มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงิน: อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX และ SCB สะท้อนถึงขนาดและความสำคัญของกลุ่มธุรกิจที่มีต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX นั้นอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB อยู่หนึ่งอันดับ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่ารัฐบาลอาจมีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุนแก่ SCB ในระดับที่สูงกว่า เนื่องจากธนาคารมีการรับฝากเงินจากประชาชน SCB ยังได้รับการกำหนดให้เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (D-SIB)

 

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ

SCBX:

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คล้ายกับการเปลี่ยนแปลงในการประเมินอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินกลุ่ม ดังนั้นการปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มจะส่งผลกระทบในลักษณะเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX  นอกจากนี้การปรับอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ SCBX กับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

 

นอกจากนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ยังอาจถูกปรับลดอันดับได้จากการทบทวนการประเมินความแตกต่างของอันดับเครดิตระหว่าง SCBX กับ กิจการหลักของกลุ่ม ซึ่งคือ SCB ตัวอย่างเช่น การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราส่วน Common Equity Double leverage ของ SCBX ที่สูงกว่า 120% อาจส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX ถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCB ได้ นอกจากนี้ การลดลงของสัดส่วนสินทรัพย์ของ SCB ที่มีต่อกลุ่มลงไปในระดับที่ต่ำกว่า 75% อาจบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงจากธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคาร และอาจทำให้ความเสี่ยงในการไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ของธนาคารและบริษัทโฮลดิ้งมีความแตกต่างกันมากขึ้น (divergence)

 

การลดลงของระดับการสนับสนุนของ SCB ต่อเทียบกับโครงสร้างเครดิตของกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งผลให้ต้องทบทวนแนวทางการพิจารณาความแตกต่างของอันดับเครดิตระหว่าง SCBX และ ธนาคารลูกหลักของกลุ่ม ซึ่งคือ SCB ตัวอย่างเช่น การที่สัดส่วนขนาดสินทรัพย์ของ SCB ปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า 75% เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของกลุ่มเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง อาจบ่งชี้ได้ว่าความเสี่ยงจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจธนาคารมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และอาจแสดงว่าความเสี่ยงที่จะไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ของ SCB และ SCBX นั้นไม่ได้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันอีกต่อไป 

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ SCBX อาจถูกปรับลดอันดับลงเป็น 'B' หากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของบริษัทถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำกว่า 'BBB-' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นอาจถูกปรับลดอันดับได้หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวถูกปรับลดอันดับลงไปต่ำกว่า 'AA-(tha)'

 

SCB:

การปรับลดอันดับของทั้งอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินพร้อมกันจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)' หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารปรับตัวด้อยลงเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์

 

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

SCBX และ SCB

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX และ SCB อาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น ‘bbb-' หากฐานะทางการเงินของโดยรวมของกลุ่มปรับตัวด้อยลงโดยเฉพาะหากเป็นระดับที่เกินกว่าที่ฟิทช์จะยอมรับได้ โดยตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านเงินกองทุนปรับตัวแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือการผลประกอบการที่ปรับตัวแย่ลงอย่างมากจนส่งผลกระทบต่อความสามารถรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จากการปรับตัวลดลงของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ย 4 ปี ที่ปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า 1.5% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.0%) การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่สูงกว่า 6% (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4.3%) ประกอบกับธนาคารมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านอื่นที่ด้อยลง เช่น มีอัตราส่วนเงินกองทุน CET 1 ที่ลดลงมาในระดับ 13 % (ไตรมาส 1 ปี 2567: 17.4%)

 

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล

SCBX และ SCB

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจถูกปรับลดอันดับหากฟิทช์เชื่อว่าความสามารถที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนนั้นลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ

 

นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตยังอาจเกิดขึ้นได้หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ SCB ปรับตัวลดลง เช่น จากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบ อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับความสำคัญต่อระบบในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง

 

ความแตกต่างของอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลระหว่าง SCBX กับ SCB อาจปรับตัวห่างมากขึ้นได้ หากฟิทช์มีการทบทวนการประเมินว่าแผนการแก้ไขปัญหาทางการเงินของธนาคารในภาวะวิกฤติ (resolution) อาจมีความแตกต่างกันอย่างมากในการที่ทางการจะให้การช่วยเหลือแก่ธนาคารเมื่อเทียบกับกิจการส่วนที่เหลือของกลุ่ม ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นซึ่งบ่งชี้ว่าทางการจะให้การสนับสนุนเฉพาะกับธนาคารเท่านั้น ในกรณีดังกล่าวอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจถูกปรับลดอันดับลงได้หลายอันดับ

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ

SCBX:

การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ทั้งนี้การปรับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ SCBX กับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

 

SCB:

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลหรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB จะพิจารณาโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

 

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

SCBX และ SCB

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ SCBX และ SCB อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นตลอดช่วงวัฎจักรของธุรกิจ (through-the-cycle) ทั้งนี้โอกาสในการได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตในระยะสั้นนั้นมีค่อนข้างจำกัด แต่ในระยะปานกลางอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการทบทวนการประเมินในกรณีที่อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญในหลายด้านมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น กรณีดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จาก อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ย 4 ปี ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่า 3.0% อย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเฉลี่ยที่ต่ำกว่า 3% และการรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านอื่นที่สำคัญ เช่น การมีอัตราส่วนเงินกองทุน CET 1 ที่สูงกว่า 16%

 

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล

SCBX และ SCB

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจเกิดได้จากการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งจะบ่งชี้ได้ว่ารัฐบาลมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคารและสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบในประเทศ เช่น SCB และ SCBX อย่างไรก็ตามการพิจารณาปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลต้องคำนึงถึงโอกาสในการให้การสนับสนุนธนาคารว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เมื่ออันดับเครดิตของประเทศสูงขึ้น

สำหรับอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB นั้นไม่น่าจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับขึ้นอีก หากอันดับเครดิตอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับเดิม อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้หากฟิทช์ประเมินแล้วเห็นว่ากฎเกณฑ์ในการแก้ไขสถานการณ์ในกรณีที่เกิดปัญหาด้านสถานะทางการเงิน (resolution scenario) สำหรับ SCB และ SCBX น่าจะมีแนวทางที่คล้ายกัน ตัวอย่างเช่น หากมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า SCBX มีนัยสำคัญต่อระบบภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วยตัวบริษัทเอง (โดยไม่พิจารณารวม SCB)  

 

อันดับเครดิตของตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

SCBX:

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันและโครงการหุ้นกู้ MTN มูลค่า 1 แสนล้านบาทของ SCBX อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวและระยะสั้นของ SCBX เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท 

 

SCB:

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ SCB มีสถานะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร หุ้นกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ และ โครงการหุ้นกู้มูลค่า 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของธนาคารได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ 'BBB' และ โครงการหุ้นกู้ MTN มูลค่า 5 หมื่นล้านบาทของธนาคาร ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ 'AA+(tha)'/'F1+(tha)'

 

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Short-Term IDR(xgs)) เทียบได้กับ 'F3(xgs)' เนื่องจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของธนาคารไม่สอดคล้องกับตัวเลือกอันดับที่สูงกว่า ตามเกณฑ์การพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์

 

ก่อนการยกเลิกอันดับเครดิต SCB มีอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (Long-Term IDR(xgs)) และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลที่พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร หรือ VR

 

อันดับเครดิตของตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

SCBX:

การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ MTN และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ SCBX ได้รับการปรับลดอันดับลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ MTN ไม่น่าจะถูกปรับลดอันดับเครดิต เว้นแต่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX ถูกปรับลดอันดับลงไปที่ ‘A+(tha)’ หรือต่ำกว่า

 

SCB:

การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและอันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ MTN ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน

 

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCB น่าจะถูกปรับลดอันดับลง หากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารถูกปรับลดอันดับลงไปที่ 'bb+' หรือต่ำกว่า อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลของธนาคาร อาจถูกยกเลิกได้หากอันดับความแข็งแกร่งของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ เนื่องจากอันดับเครดิตสากลของธนาคารจะพิจารณาจากโครงสร้างทางเครดิตของตัวธนาคารเองเท่านั้น

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

SCBX:

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCBX น่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ MTN และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ MTN นั้นเป็นระดับที่สูงสุดแล้ว จึงไม่มีปัจจัยใดที่จะส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับ

 

SCB:

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCB จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและอันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ MTN ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน แต่ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจะไม่สามารถได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้อีก เนื่องจากเป็นระดับที่สูงที่สุดแล้ว

 

การปรับคะแนนของปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่  'bbb' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'อันดับเครดิตของประเทศ'

 

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ 'bbb-' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'หลักประกันและระดับสำรองหนี้สูญ'

 

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม        หาได้จาก www.fitchratings.com/esg

 

แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต

แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์

 

อันดับเครดิตที่เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ SCBX และ SCB เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย

 

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้

SCB:

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ ‘BBB’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ ‘F2’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

- อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb’

- อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับเครดิตที่ ‘bbb’

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ไม่รวมการสนับสนุนจากรัฐบาลที่คงอันดับ 'F3(xgs)'

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมการสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับที่ 'BBB(xgs)' และยกเลิกอันดับเครดิต

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ไม่รวมการสนับสนุนจากรัฐบาลของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ 'BBB(xgs)' และยกเลิกอันดับเครดิต

 

SCBX:

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับเครดิตที่ ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิตที่ ‘F3’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb’

- อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลคงอันดับเครดิตที่ ‘bbb-’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

รอ เฟด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ออกมาเปิดเผย CPI เดือน เม.ย. -0.22%YoY จากตลาดคาด -0.1%....

ดันต่อ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ หุ้นใหญ่ หน้าเดิม ดันSET ฝ่า 1,200 จุด ต่อ การสลับหน้าที่กันไป ห้วงระหว่างอยู่ ผลการ....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้