สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 กรกฎาคม 2567)--------บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจ บริษัทมีสถานะเป็นโฮลดิ้ง คอมพานี หรือประกอบธุรกิจลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยมีธุรกิจหลักของบริษัทคือผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) ได้สรุปราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 5.40 บาท/หุ้น เสนอขาย วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2567

จำนวนหุ้นที่จะเสนอขาย : จำนวนไม่เกิน 376,957,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 38.16 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ แบ่งเป็น
(1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 20.25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
(2) หุ้นสามัญเดิมของบริษัทฯ ที่ถือโดย นอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) (“ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ” หรือ “NHTPED”) จำนวนไม่เกิน 176,957,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 17.91 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯสัดส่วนการเสนอขายหุ้น

ประเภทผู้ลงทุน จำนวนหุ้นเสนอขาย สัดส่วนเสนอขาย

1. เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ไม่เกิน 3,060,000 หุ้น ร้อยละ 0.81
2. เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ ไม่เกิน 8,650,000 หุ้น ร้อยละ 2.30
3. เสนอขายต่อบุคคลผู้มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ไม่เกิน 5,555,500 หุ้น ร้อยละ 1.47
4. เสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันและบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประมาณ 359,691,500 หุ้น ร้อยละ 95.42

รวม 376,957,000 หุ้น

มูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) เท่ากับ 2.51 บาท/หุ้น (คำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เท่ากับ 1,980.20 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ก่อนการเสนอขายหุ้น จำนวน 787,827,850 หุ้น)

การกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะกระทำผ่านการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ซึ่งเป็นวิธีการสอบถามปริมาณความต้องการซื้อหุ้นสามัญของนักลงทุนสถาบันในแต่ละระดับราคาโดยการตั้งช่วงราคา (Price Range) และเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันแจ้งราคาและจำนวนหุ้นที่ประสงค์จะจองซื้อมายังผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ตามที่ระบุไว้ในข้อ 6.2.1 โดยช่วงราคาที่นำมาใช้ทำการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) อยู่ที่ระหว่างราคา 5.20 – 5.40 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ NHTPED และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายได้ร่วมกันกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ที่ราคาหุ้นละ 5.40 บาท โดยพิจารณาจากราคาและจำนวนหุ้นที่นักลงทุนสถาบันเสนอความต้องการซื้อเข้ามา โดยเป็นราคาที่จะทำให้บริษัทได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการ และยังมีความต้องการซื้อหุ้นเหลืออยู่มากพอที่คาดว่าจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพในตลาดรอง

ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายดังกล่าว หากพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2566 – เดือนมีนาคม ปี 2567) ซึ่งเท่ากับ 306.22 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 987,827,850 หุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.31 บาทต่อหุ้น และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 17.42 เท่า

สัดส่วนหุ้นของ “ผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร” ที่ไม่ติด Silent Period : จำนวน 67,565,532 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.84 ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

วัตถุประสงค์การใช้เงิน
กลุ่มบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนในครั้งนี้ประมาณ 1,350 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายการเสนอขาย) ไปใช้ดังนี้
วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ
(ล้านบาท) ระยะเวลาที่ใช้เงินโดยประมาณ
1. ปรับปรุงสายการผลิตเดิมและขยายกำลังการผลิตของโรงเชือดและชำแหละไก่(1) 350 ภายในปี 2567-2568
2. ปรับปรุงสายการผลิตเดิมและขยายกำลังการผลิตของโรงงานแปรรูปเนื้อไก่(1) 550 ภายในปี 2567-2568
3. ลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงหรือธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์พลอยได้ 250 ภายในปี 2567-2569
4. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ 200 ภายในปี 2567
รวม 1,350
หมายเหตุ : (1) การปรับปรุงสายการผลิตเดิมให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้นและขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการ
ผลิตของโรงเชือดและชำแหละไก่และโรงงานแปรรูปเนื้อไก่

นโยบายการจ่ายเงินปันผล บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหักทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภท

สำหรับผลประกอบการ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในปี 2564 ถึงปี 2566 เท่ากับ 183.72 ล้านบาท 840.67 ล้านบาท และ 254.69 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 4.43 ร้อยละ 14.48 และร้อยละ 4.42 ของรายได้จากการขาย ตามลำดับ โดยการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2565 มีสาเหตุมาจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนในการจัดจำหน่ายที่ดีขึ้นจากสัดส่วนค่าส่งออกสินค้าต่อยอดขายลดลง ในขณะที่ปี 2566 กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลงเป็นผลต่อเนื่องจากกำไรขั้นต้นลดลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตในส่วนของค่าไก่เพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากราคาของอาหารไก่ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงไก่ปรับตัวสูงขึ้นและบริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นและหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นด้วย

ในงวดสามเดือนของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 124.59 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.17 เพิ่มขึ้น 51.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 70.53 จากงวดสามเดือนของปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 73.06 ล้านบาทและอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 5.16 โดยกำไรสุทธิสอดคล้องกับกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากส่งออกไก่ชำแหละไปยังต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นทั้งกลุ่มลูกค้าประเทศเดิมและการขยายตัวไปยังประเทศใหม่ๆ ควบคู่กับการขายผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปที่มีกำไรต่อหน่วยสูง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลงจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ลดลงและการปรับลดค่าใช้จ่ายในการบริหารบางส่วนลง เช่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่ารับรอง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินลดลงตามสัดส่วนของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยที่ลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับงวดสามเดือนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ