ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2567) มีรายได้ 617.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.33 ล้านบาท หรือ 7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 268.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.31 ล้านบาท หรือ 6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ไม่มีภาระหนี้สินระยะยาวที่มีดอกเบี้ย เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งการเงินและประสบารณ์ในการลุยงานประมูลในอนาคต

 

 

ทั้งนี้ ไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทาง จำนวน 617.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 41.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หลังได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ ซึ่งทำให้สถิติการเดินทางในประเทศไทย และสถิติการใช้ทางด่วนดอนเมืองโทล์ลเวย์ มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้น และหนาแน่นตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยตัวเลขปริมาณการจราจรไตรมาส 1/2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 113,809 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2566 ที่ปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ 107,655 คันต่อวัน

 

 

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2567 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 3 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและรับชำระแล้ว จำนวน 1,181,232,800 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 248,058,888 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายจากกำไรที่ผ่านการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 20 ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลผลระหว่างกาล (Record Date) ในที่ 27 พฤษภาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 10 มิถุนายน 2567

 

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ประเมินว่ามีทิศทางสดใสต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2567 โดยมีแรงขับเคลื่อนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ เช่น มาตรการฟรีวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน จำนวน 8.5 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 2567 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ รายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน ตามคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 116,000 คันต่อวัน จากปี 2566 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คันต่อวัน

 

 

"ปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 113,809 คันต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.72% เทียบกับไตรมาส 1/2566 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2566 ที่มีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 110,336 คันต่อวัน สูงสุดในรอบ 3 ปีตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภาคธุรกิจที่กำลังฟื้นตัว ทำให้มีกิจกรรมการเดินทางเพิ่มสูงขึ้นกลับไปใกล้เคียงช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 บวกกับรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ชัดเจน เช่น มาตรการฟรีวีซ่าเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ทำให้คาดว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยปี 2567 จะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้โต 10% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" ดร.ศักดิ์ดา กล่าวในที่สุด