HotNews : PRM สบช่อง ซื้อ"ไทยออยล์มารีน" มูลค่า 346.50 ลบ.

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (23 ธันวาคม 2563) PRM ซื้อกิจการ ไทยออยล์มารีน จากTOP มูลค่าเบื้องต้น 346.50 ลบ. ระบุซื้อกิจการ ไทยออยล์มารีน รุกขยายกองเรือ - เพิ่มศักยภาพธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูป คาดแล้วเสร็จ 30 มิ.ย. 64 ด้าน TOP ระบุขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด ในไทยออยล์มารีน ให้กับ ภูริช มารีน บริษัทย่อยของ PRM ตามแผนปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเรือขนส่ง

 

นายพร้อมพงษ์ ชัยศรีสวัสดิ์สุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) PRM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (บริษัท”) ครั้งที่ 15/2563ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 22ธันวาคม 2563ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท ภูริช มารีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ99.99 เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด ในราคาซื้อขายหุ้นเบื้องต้นทั้งสิ้น 346.50 ล้านบาท โดยมีบริษัท ภูริช มารีน จำกัด จะเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท ไทยออยล์จำกัด (มหาชน) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563และคาดว่าการซื้อขายหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในวันที่ 30มิถุนายน 2564

 

 

ทั้งนี้ บริษัท ภูริช มารีน จำกัด จะเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ไทยออยล์มารีนจำกัด จำนวนทั้งสิ้น 97,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นร้อยละ100 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นผลให้บริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด มีสภาพเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัดเสร็จสิ้นแล้ว บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ตกลงจะให้บริษัท และ/หรือบริษัทย่อย เป็นผู้ให้บริการแก่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ดังนี้

 

 

1. บริการเรือขนส่งน้ำมันดิบขนาด VLCC แบบมีระยะเวลา (Time Charter)จำนวน 3 ลำ เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่ส่งมอบเรือ

2. บริการขนส่งสินค้าโดยเรือขนาดเล็กแบบมีระยะเวลา (Time Charter) จำนวน1 ลำเป็นระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์และบริการขนส่งสินค้าโดยเรือขนาดเล็กแบบรายเที่ยว (Contract of Affreightment) จำนวน 2ลำ เป็นระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์

3. บริการในการเป็นตัวแทนเรือ (Ship Agent) เป็นระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์

 

 

ทั้งนี้ บริษัท และ/หรือบริษัทย่อย จะเข้าทำสัญญาเพื่อให้บริการดังกล่าวข้างต้นแก่บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในวันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ตามสัญญาซื้อขายหุ้น สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ จะมาจาก เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

 

ขณะที่ประโยชนท์จะได้รับ บริษัทคาดว่าการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัดจะสามารถขยายกองเรือและเพิ่มศักยภาพของธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ รวมถึงส่งเสริมให้ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น บริษัทจะสามารถสร้างให้เกิด Synergy ระหว่างธุรกิจของกลุ่มบริษัท ไทยออยล์มารีน จำ กัด และกลุ่มบริษัท ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานได้มาก

 

 

อนึ่ง บริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด รประกอบธุรกิจ

 

(1) ธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเคมี

(2) ธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ

(3) ธุรกิจบริหารจัดการเรือหรือตัวแทน และ

(4) ธุรกิจเรือสนับสนุนงาน Offshore

 

 

ด้าน นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ดําเนินการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเรือขนส่ง โดยการขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด ในบริษัท ไทยออยล์มารีน จํากัด (“TM”) ให้กับบริษัท ภูริช มารีน จํากัด (“ผู้ซื้อ”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พริมา มารีน จํากัด (มหาชน) ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทฯ และผู้ซื้อจะดําเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น บริษัท TM ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 โดยบริษัทฯ จะทําการขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัท TM ซึ่ง เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ทําให้บริษัท TM สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัท TM ถือหุ้นในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมอื่น ๆ ได้แก่ บริษัท ท้อป มารีไทม์ เซอร์วิส จํากัด บริษัท ท็อป นอติคอล สตาร์ จํากัด บริษัท ที.ไอ.เอ็ม, ชิพ แมนเนจเมนท์ จํากัด TOP-NTL Shipping Trust และ TOP-NTL Pte. Ltd.

 

 

ราคาซื้อขายหุ้นเบื้องต้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นอยู่ที่ 346.5 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาซื้อขายหุ้นเบื้องต้น อาจมีการปรับเปลี่ยนได้โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าของเงินสดและหนี้สินตามที่ตกลงกับผู้ซื้อ ณ วันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ โดยบริษัทฯ คาดว่าราคาซื้อขายหุ้นสุดท้าย (ณ วันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ ที่บริษัทฯ จะได้รับชําระจากผู้ซื้อ (ซึ่งรวม มูลค่าเงินสดที่คาดว่าจะได้รับจากการปรับมูลค่าจากการดําเนินธุรกิจ และการปรับโครงสร้างภายในของบริษัท TM) จะ อยู่ที่ ประมาณ 800 ล้านบาท อนึ่ง ทางบริษัทฯ คาดว่าจะดําเนินการ โอนหุ้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554

 

 

อนึ่ง ในการดําเนินการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งของบริษัทฯ ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะซื้อหุ้น ทั้งหมดใน Thaioil Marine International Pte Ltd. (“TOMI) จากบริษัท TM โดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีราคาซื้อขายหุ้น สุดท้ายที่บริษัทฯ จะต้องชําระให้แก่บริษัท TM ที่ประมาณ 270 ล้านบาท และคาดว่าจะดําเนินการโอนหุ้นให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ทั้งนี้ บริษัทฯ จะซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท TOMI ให้เสร็จสิ้น ก่อนการขายหุ้นที่บริษัทฯ ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัท TM ให้กับผู้ซื้อ

 

 

การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งดังกล่าว สามารถช่วยรองรับการเติบโตและแผนกลยุทธ์ของ บริษัทฯ ในระยะยาว โดยบริษัทฯ และผู้ซื้อจะได้เข้าทําสัญญาเพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ตอบรับความต้องการใช้เรือ ในรูปแบบต่าง ๆ สําหรับการดําเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัทฯ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทฯ สามารถจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อมุ่งพัฒนาในส่วนของธุรกิจหลักอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้นการรายงานสารสนเทศในครั้งนี้ ไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะต้อง รายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน แต่เป็นการรายงาน สารสนเทศ ตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการเกี่ยวกับการเปิดเผย สารสนเทศและการปฏิบัติการ ใด ๆ ของบริษัทจดทะเบียน พ.ศ. 2560 (รวมถึงที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม)