HotNews: UAC แผนปีหน้ารายได้โต 10% เตรียมประมูลVSPP
- ICHI ปักธงปี61 โกยรายได้ 6.8 -7 พันลบ. เล็งรุกตลาดจีน
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 20 พฤศจิกายน 2560)--------UAC ตั้งเป้ารายได้ปี61โต10% แตะ1.8-1.9พันลบ.หลังธุรกิจเคมีภัณฑ์โตต่อเนื่อง-รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเต็มปี เตรียมการ ปีหน้ายื่นประมูลโรงไฟฟ้า VSPP เผยไตรมาส 4/60 เดินเครื่องผลิตลาเท็กซ์อิมัลชันและลาเท็กซ์โพลิเมอร์ของบริษัทย่อย UAPC เพิ่มอีก 10,000 ตัน/ปี รองรับการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV
ICHI ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าที่ 6.8 -7 พันลบ. จากปีนี้ที่คาดทำได้ 5.8 พันลบ.แย้มปี61เตรียมรุกตลาดจีน คาดงบQ4/60ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังไม่มีผลตัดขาดทุนจากด้อยค่าในแบรนด์ไบเล่
นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 ไว้ที่ 1.8-1.9 พันล้านบาทหรือเติบโต 10% จากปีนี้ เนื่องจากบริษัทประเมินว่าแนวโน้มธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ยังมีทิศทางที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งซื้อจากลูกเดิมเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทจะพยายามรักษาฐานลูกค้าด้วยการเพิ่มโปรดักส์ใหม่และบริการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับขยายฐานลูกค้าใหม่
ขณะเดียวกันโรงงานผลิตปิโตรเลียม (PPP)ที่จังหวัดสุโขทัย มีลูกค้าเดิมกลับเข้ามาในส่วน ทำให้บริษัทมีปริมาณขายก๊าซเพิ่มขึ้นอีก 3-4แสนลูกบาสฟุต/วันหรือมีปริมาณการขายก๊าซอยู่ที่ 1.8 ล้านลูกบาสฟุต/วัน
พร้อมกันนี้ในเดือนมกราคมปี61 บริษัทยังเตรียมจะเข้าประมูลโรงไฟฟ้า VSPP ที่ภาครัฐจะเริ่มให้ยื่นประมูลในช่วงดังกล่าว โดยบริษัทมีความสนใจในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งการเข้าไปลงทุนบริษัทจะลงทุนด้วยบริษัทเอง 100% และคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาท/1 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทเตรียมเงินลงทุนไว้ราว 4,000 ล้านบาท ในระยะ3ปี จากนี้(ปี60-63) หรือเฉลี่ยใช้เงินลงทุนปีละกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนจำนวนกำลังการผลิตที่บริษัทจะเข้าไปประมูลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีแผนเข้าร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศเมียนมาร์ เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ โดยบริษัทคาดหวังจะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% ขณะเดียวกันบริษัทยังสนใจที่จะเข้าลงทุนโครงการบริหารจัดการขยะใน สปป.ลาว โดยเป็นประเภทโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงมีกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้ง2โครงการบริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เช่นกัน
ส่วนความคืบหน้าในการนำบริษัท ยูเอซี แอ๊ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคอล จำกัด ( UAPC) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เคมีภัณฑ์ประเภทลาเท็กซ์อีมัลชั่น และ ลาเท็กซ์โพลิเมอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการศึกษาในรายละเอียด
ทั้งนี้คาดการนำ UAPC เข้าระดมทุน จะช่วยลดอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัท จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.4 เท่าให้เหลือ 1 เท่า และนอกจากนี้เพื่อนำเงินระดมทุนมาขยายกำลังการผลิตเคมีภัณฑ์อื่นๆ และนำเงินเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการต่อไป
นายชัชพล กล่าวต่อว่า ในไตรมาส 4 นี้ UAPC จะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ ในส่วนการขยายกำลังผลิตใหม่อีก 10,000 ตัน/ปี จากเดิมที่มีกำลังผลิตอยูที่ระดับ 10,000 ตันต่อปี เป็นการรองรับการขยายตัวของตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV
อนึ่ง UAC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 417.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.18 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 297.56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 16.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142.91% โดยมีตัวเลข EBITDA งวดไตรมาส 3/2560 อยู่ที่ 62.27 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 900.26 %
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2560 มีรายได้รวม 1,179.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.78% และมีกำไรสุทธิ 80.94 ล้านบาท รายได้ของ UAC ที่เพิ่มขึ้น 218.73 ล้านบาทมาจากทุกกลุ่มธุรกิจ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 73.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 35.01% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในส่วนรายได้อื่นที่ลดลง 28.43 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากผลขาดทุนของ BBF ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มปรับลดลง ส่งผลให้ราคาขาย B100 ปรับลดลง และทำให้เกิด Inventory Loss โดยรับรู้ส่วนแบ่งที่ขาดทุน 2.12 ล้านบาทเมื่อเทียบกับปีก่อนที่รับรู้ส่วนแบ่งผลกำไร 32.91 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเดิม และศึกษาแผนการลงทุนใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านเคมีภัณฑ์อยู่ในระดับสูง
ด้านนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ ICHI เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 ไว้ที่ 6.8 - 7 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 5.8 พันล้านบาท โดยในปีหน้าบริษัทประเมินว่ากำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งบริษัทยังคาดว่ายอดขายในต่างประเทศจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ในประเทศอินโดนีเซียที่บริษัทประเมินว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 3.95 ล้านลังในปี61 หรือมีรายได้อยู่ที่ 620 ล้านบาท ขณะที่บริษัทจะรุกไปยังประเทศสปป.ลาว,กัมพูชาและเมียนมาร์มากขึ้น ซึ่งในประเทศเมียนมาร์บริษัทได้เริ่มขยายไปบ้างแล้ว และคาดว่าปีหน้าจะมียอดขายอยู่ที่ 30 ล้านขวด ทำให้บริษัทประเมินว่าสัดส่วนรายจากต่างประเทศจะอยู่ที่ 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 22.94%
ส่วนตลาดในประเทศบริษัทคาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากหลังจากบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ อิชิตัน ชิวชิว ชารสผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวที่บริษัทประเมินว่ายังมีอัตราการเติบโตที่สูงอยู่ ซึ่งคาดว่าในปี 61 จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มวัยรุ่น ที่คาดว่านำมาจำหน่ายในปี61ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ในปี 61 บริษัทยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ในประเทศจีน แต่อยังไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆได้ เนื่องมาจากการแข่งขันในตลาดดังกล่าวค่อนข้างดุเดือด
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส4/60 คาดจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 50 ล้านบาท จากการด้อยค่าของในแบรนด์ ไบเล่ และประกอบกับเป็นช่วงโลของธุรกิจที่มีกำลังผลิตที่ต่ำกว่าปกติ แต่อย่างก็ตามในไตรมาส4/60 บริษัทจะไม่มีค่าด้อยค่าจากแบรนด์ดังกล่าวแล้ว และบริษัทมีการบริหารจัดการกำลังการผลิตได้ดีขึ้น โดยการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกได้มากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้จากการส่งออกสิ้นไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 22.94% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 0.86%
สำหรับ Q4/60 อิชิตันยังคงเดินตามแผนรุกการขายและการตลาดทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง และเพื่อ ตอบรับเทรนด์การบริโภคเพื่อสุขภาพ บริษัทฯ ดันสินค้ากลุ่ม “ไม่มีน้ำตาล” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ส่วนสินค้าสูตรมีน้ำตาลจะมีการปรับลดน้ำตาลทุกรสชาติ กำหนดวางจำหน่ายต้นปีหน้า ขณะที่ อิชิตัน ชิวชิว ชารสผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว ยังมีการเติบโตสูง แบรนด์เย็นเย็น ยังคงเป็นหัวหอกในการเจาะกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มสมุนไพร นอกจากนี้ T247 เครื่องดื่มชูกำลังได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้อิชิตันมีพอร์ทสินค้าหลากหลายขึ้น อีกทั้งกำลังพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาเสริมทัพในปีหน้า
อนึ่ง ICHI รายการผลการดำเนินงานงวดประจำไตรมาส 3/2560 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,455.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 1,110.3 ล้านบาท เนื่องจากมีการส่งออกมากขึ้น มีกำไรสุทธิ 69.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 31.9 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2560 มีรายได้จากการขาย 4,382.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 4,299.5 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 222.0 ล้านบาท ลดลง 47.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
---จบ---