HotNews : จับตาโค้งแรก DOD สุดปัง!!  รับออเดอร์ไหลเข้าไม่ขาดสาย

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (23 เมษายน 2563) DOD ส่งซิกรายได้ Q1/63 โตก้าวกระโดด หลังออเดอร์ผลิตเจลล้างมือ-สเปรย์แอลกอฮอล์-อาหารเสริมแน่น  หนุน H1/63 โตสวย มั่นใจรายได้ปี63 โตต่อเนื่องจากปีก่อนทำได้  797.50 ลบ. หลังลูกค้ารายใหญ่สั่งออเดอร์ทะลักต่อเนื่อง

 

 

นางสาวสุวารินทร์ ก้อนทอง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยกับ "สำนักข่าวหุ้นอินไซด์" ว่า บริษัทฯมั่นใจรายได้ไตรมาส1/2563 จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เนื่องจาก บริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยมีคำส่งซื้อสินค้า(ออเดอร์) ในผลิตภัณฑ์เจลล้างมือ และ สเปรย์แอลกอฮอล์จากลูกค้ารายใหญ่รวมถึงแม่ค้าออนไลน์จำนวนมาก โดยขณะนี้รายได้รวมของบริษัทฯในไตรมาส 1 (มกราคม-มีนาคม) เพียงไตรมาสเดียวสามารถทำได้เท่ากับครึ่งปีแรกของปี2562 เป็นที่เรียบร้อย จึงมั่นใจว่าภาพรวมผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2563 จะสามารถเติบโตได้ดี

 

 

ทั้งนี้จากคำสั่งซื้อที่ยังคงมีเข้ามาต่อเนื่องบริษัทฯจึงได้มีการขยายเพิ่มไลน์การผลิต ด้วยการซื้อเครื่องบรรจุอัตโนมัติเพิ่มรวมทั้งเพิ่มการผลิตเป็น 2 กะ เพื่อรองรับความต้องการยอดออเดอร์ที่เข้ามาในขณะนี้ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 500,000 ขวดต่อวัน จากเดิมมีกำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 ขวดต่อวัน

 

 

ขณะที่ธุรกิจอาหารเสริมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯได้ออกผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการในขณะนี้ โดย ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายได้ดีที่สุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน นอกจากนี้บริษัทฯยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดๆอื่นๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ วิตามินซี ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นที่ต้องการจากผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

 

"เราได้มีการเทคธุรกิจบริษัท PCCA มา ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องสำอาง เราเลยสามารถผลิตแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ และ สเปรย์แอลกอฮอล์ โดยตอนนี้ลูกค้าเราส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าจากบริษัทฯเอกชนที่มีชื่อเสียงในวงการจำหน่ายของประเทศไทย และก็จะมีบางส่วนที่เป็นแม่ค้าที่เป็นเจาของแบรนดตัวเองเข้ามาบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าเดิมของเราที่เค้าเคยทำอาหารเสริมอยู่แล้ว และก็มีการปรับตัวหันมาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์แทน ซึ่งยอมรับว่าตอนเห็นตัวเลขเราก็ตกใจมากเพราะเราทำได้ดี แต่เราก็ต้องเตรียมการผลิตที่ให้มาตรฐานสำหรับรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าด้วย " นางสาวสุวารินทร์ กล่าว

 

 

ด้านธุรกิจขายตรงที่บริษัทฯดำเนินการผ่าน บริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด (ซึ่ง DOD ถือหุ้นอยู่ 80%) ปัจจุบันมีตัวแทนแล้วกว่า 40,000 ราย โดยภายในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าจะมีตัวแทนทั้งสิ้น 120,000 ราย พร้อมตั้งเป้ารายปีนี้ไว้ที่ประมาณ 600 ล้านบาท สำหรับ อัลทิมา ไลฟ์ จำหน่ายสินค้าภายใต้ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร ที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด อาทิ One Whey (เวย์โปรตีน) , Levarean ( เลวารีน ), Prepo Fiber and Detox (เพรโป), Callox (แคลล็อกซ์), Zinegra (ซิเนกร้า) ,DOD H.Coffee (ดีโอดี เอช. คอฟฟี่) และ R3verse Vine (อาร์3เวิสวายน์)

 

 

สำหรับภาพรวมผลประกอบการปี 2563 บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อนที่ทำได้ 797.50 ล้านบาท หลังลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทฯยังคงสั่งสินค้าและเพิ่มจำนวนออเดอร์จากปีก่อนที่มีการสั่งผลิตอยู่ที่ 100,000 ชิ้นต่อเดือน โดยปัจจุบันลูกค้ารายดังกล่าวมีคำสั่งซื้ออยู่ที่ 200,000-250,000 ชิ้นต่อเดือน รวมทั้งลูกค้ารายอื่นๆจากทุกผลิตภัณฑ์ก็ยังคงมีคำสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามาเช่นกัน

 

 

 

 

ส่วนลูกค้าจากประเทศจีนที่ปัจจุบันคำสั่งซื้อสินค้าได้ปรับตัวลดลงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มองว่าไม่กระทบต่อบริษัทฯแบบมีนัยสำคัญ เนื่องจากสัดส่วนลุกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯจะอยู่ในประเทศมากกว่า ส่วนผลิตภัณฑ์สกินแคร์ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาแต่ยังไม่มีการยกเลิกออเดอร์แต่อย่างใด

 

 

"ลูกค้าเราส่วนใหญ่ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีแต่ยอดเค้าไม่ได้ตกเลย ลูกค้ารายเดิมๆของเราก็ยังมีสั่งมาต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นบริษัทฯเราไม่มีเลิกจ้างงาน ไม่มีหยุดงาน โอทีแพลนถึงให้พนักงานกลับบ้านก่อนถึงเวลาเคอฟิวส์ และเราก็ทำงานเต็มที่เหมือนเดิมยอดไม่ดรอปแน่นอนค่ะ " นางสาวสุวารินทร์ กล่าวเสริม

 

 

 

 

นางสาวสุวารินทร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นการเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นว่าเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทฯต้องมีการเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นออกไปแบบไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด) ไปประชุมวันเดียวกับวันที่มีผู้ถือหุ้น(AGM) ได้แก่วันที่ 23 เมษายน นี้ เพื่อพิจารณาการจ่ายปันผล 0.35 บาทต่อหุ้น ตามเงื่อนไขเดิมที่เคยได้แจ้งข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องรอมติคณะกรรมการหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบทันที

 

 

ส่วนราคาหุ้นของ DOD ในช่วงนี้ที่ได้ปรับตัวลดลงตามสภาพของตลาดหุ้นนั้น บริษัทฯคงต้องรอให้สถานการณ์ตลาดฯปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทฯที่ออกมาจะสะท้อนถึงราคาหุ้นในอนาคตเอง โดยธุรกิจของบริษัทฯยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและสามารถกลับมาโดดเด่นได้อีกครั้งหลังบริษัทฯได้มีการขยายการลงทุนและเริ่มรับรู้รายได้เป็นที่เรียบร้อย

 

 

DOD