HotNews : TKN ยืดอกโควิด ฉุดยอดขาย Q1/63 ทรุด / ZIGA ยันประคองรายได้ปี 63 ไม่ตก

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (17 เมษายน 2563) "จิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล" ขุนศึก TKN รับQ1/63 ยอดขายต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหลังออเดอร์จากจีนหดกว่า 50-60% เหตุเจอโควิด-19ทำพิษ ขณะที่ หั่นเป้ารายได้ปี 63 เหลือทรงตัวจากปีก่อนที่ 5.2 พันลบ. จากเดิมคาดโต 15% แต่มั่นใจกำไรเพิ่มหลังเน้นคุมต้นทุน

 

 

 

 

นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย พูดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จํากัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยกับ "สำนักข่าวหุ้นอินไซด์" ว่า บริษัทฯยอมรับว่ายอดขายไตรมาส1/2563จะต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก คำสั่งซื้อ(ออเดอร์)จากจีนซึ่งเป็นลูกค้าส่งออกรายใหญ่ของบริษัทฯ ในช่วงเดือมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหายไปกว่า 50-60% จากเดิมที่ระบุในสัญญาว่าจะส่งไม่ต่ำกว่า 200 ตู้คอนเทนเนอร์/เดือน หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

 

 

 

สำหรับปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนยอดขายสินค้าจากการส่งออกไปจีนประมาณ 40-45% ของยอดขายส่งออกทั้งหมด ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯปรับเป้าการเติบโตของยอดขายในจีนเหลือเพียงทรงตัวจากปีก่อน จากเดิมตั้งเป้าเติบโต 12-15%

 

 

 

อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศจีนเริ่มส่งสัญญานที่ดี หลายเมืองในจีนเริ่มกลับมาเปิดอีกครั้ง คำสั่งซื้อสินค้าก็เริ่มกลับมาแล้วประมาณ 80-90% ของคำสั่งซื้อปกติที่บริษัทฯได้รับ โดยคาดว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการไตรมาส2/2563 ของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่่งปัจจุบันบริษัทฯก็มีซัพพลายรองรับคำสั่งซื้อดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

 

ด้านตลาดในสหรัฐอเมริกาบริษัทฯยอมรับว่าสถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างแย่ เบื้องต้นหากไม่มีสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯมีแผนที่จะขยายสาขาให้มากกว่านี้ รวมทั้งจะมีการขยายการจำหน่ายสินค้าไปยันรัฐอื่นๆในอเมริกานอกเหนือจากรัฐแคลิฟอเนียด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทฯยังคงเชื่อว่ายอดขายในสหรัฐฯจะยังคงเติบโตอยู่ หลังการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามียอดขายอยู่ที่ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปีก่อนที่ทำได้ 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

 

 

"ในช่วงตอนต้นปีสถานการณ์ในจีนค่อนข้างแย่ ส่งผลให้ออเดอร์ของเราด็อบลง แต่ทีนี้พอมาช่วงที่จีนเริ่มดีขึ้นบ้านเรากลับแย่ลงซึ่งเราก็หวังว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะแย่ได้ไม่นาน คิดว่าซักประมาณเดือนพฤษภาคมจนถึงมิถุนายนก็น่าจะดีขึ้น โชคดีที่มาตรการต่างๆของรัฐ เช่น เคอฟิวส์ มีไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่กระทบการทำงานของโรงงานเราเท่าไหร่ อีกทั้งโรงงานเราเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเขาก็เลยไม่ว่าอะไรเรา " นายจิระพงษ์ กล่าว

 

 

 

ด้านผลประกอบการปี 2563 บริษัทฯได้ปรับเป้ารายได้เหลือใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 5,297.33 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าเติบโต 15% แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 366.24 ล้านบาท หลังบริษัทฯจะเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายในการลงทุน โดยเฉพาะเรื่องการทำการตลาด(มาร์เก็ตติ้ง) รวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบสาหร่ายในปัจจุบันก็มีการปรับตัวลดลงกว่า 10-12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

 

 

ขณะเดียวกันเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เริ่มสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ของบริษัทฯเองรวมทั้งมีบริการเดลิเวอรี่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยพยุงสถานการณ์ในปัจจุบัน หลังร้านค้าประเภท ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ระบุว่าช่วงนี้สินค้าจำหน่ายไม่ได้ตามคาดไว้ อาจมีการลดคำสั่งซื้อสินค้าลงบ้างเล็กน้อย

 

 

 

ส่วนเรื่องการออกสินค้าใหม่บริษัทฯได้มีการชะลอออกไปก่อน แต่จะมีการออกสาหร่ายรสชาติใหม่แทนประมาณ 2-3 โปรดักส์ นอกจากนี้บริษัทฯยังได้นำสินค้าใหม่บางตัวที่ไม่ใช้สาหร่ายจากประเทศจีนเข้ามาจำหน่ายด้วยเช่นกัน

 

 

 

นายจิระพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯพยายามที่จะคำนึงถึงผู้ถือหุ้นทุกท่าน เรื่องหลักของเราคือสร้างกำไร ส่วนยอดขายแน่นอนว่าไม่ใช่เพียง "เถ้าแก่น้อย" เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ เพราะฉะนั้นสิ่งที่บริษัทฯโฟกัสในปีนี้คือเรื่องของการจัดการต้นทุนเพื่อให้บริษัทฯยังคงมีกำไรอยู่ ซึ่งบริษัทฯก็ผ่านมาวิกฤตมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งเราก็ยังสามารถสร้างกำไรได้สม่ำเสมอแต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่เราก็คาดหวังว่าอย่างน้อยก็ต้องเป็นดับเบิ้ลดิจิตของเปอร์เซ็นต์ยอดขาย

 

 

 

 

 

 

 

ด้าน"ศุภกิจ  งามจิตรเจริญ" บอสใหญ่ แห่ง บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA)  เผย COVID-19   ไม่กระทบยอดขาย  พร้อมวางเป้ารักษารายได้ปี 63  เท่าปีก่อนที่ 795.30 ลบ.  แม้ศก.ชะลอ  พร้อมซุ่มทำแผนลงทุนออกโปรดักส์ใหม่ คาดแล้วเสร็จ ธ.ค. หวังรองรับขยายตลาดทั่วประเทศ 

 

 

 

ด้านนายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ZIGA เปิดเผยกับ   "สำนักข่าวหุ้นอินไซด์"   ว่า ยอดขายของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) เนื่องจากบริษัทฯ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้ปริมาณการขายของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามราคาขายที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากราคาเหล็กในตลาดโลกมีความผันผวน ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว ก็ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบเช่นกัน

 

 

"ในแง่ของยอดขายเราไม่ได้กระทบจาก COVID-19 เพราะเรามีสินค้าใหม่ออกมาตามไปป์ไลน์ ทำให้ปริมาณขายเราเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายที่ลดลงเราก็เลยสแควร์" นายศุภกิจ กล่าว

 

 

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตต่อวันที่ 6,000-8,000 ตันต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ ประมาณ 4,000 ตัน ขณะที่งานที่รอส่งมอบให้ลูกค้า (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 300-400 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ ยังสามารถรักษายอดขายได้ แม้เศรษฐกิจจะไม่ดี โดยในปีนี้ บริษัทฯ ขอรักษาระดับของรายได้ให้เท่ากับปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 795.30 ล้านบาท

 

 

 

 

 

"เศรษฐกิจลงมาแต่เรายังเท่าเดิมขณะที่คนอื่นอาจจะติดลบ แสดงว่าพวกเรายังทำงานกันหนักมาก ซึ่งปีนี้เรามองรายได้อย่าง Conservative คือทำได้เท่ากับปีที่แล้วก็เก่งแล้ว ส่วนกำไรคงบอกได้ยากเพราะราคาเหล็กมีความผันผวนมากครับ และการขยายโรงงานก็ทำให้เรามีค่าเสื่อมด้วย " นายศุภกิจ กล่าว

 

 

 

สำหรับแผนการลงทุนปีนี้ บริษัทฯ เตรียมออกโปรดักส์ใหม่ นอกเหนือจากเหล็กทรงกลม โดยจะเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่นเหล็กทรงแบน ทรงเหลี่ยม หรือเหล็กรูปตัวซี เพื่อเพิ่มไลน์สินค้าให้ครบวงจรมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนสร้างสำนักงานใหม่ เพื่อรองรับการการทำการตลาดค้าปลีกมากขึ้น โดยจะขยายตลาดให้ทั่วประเทศ ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของโปรดักส์ใหม่ ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะสามารถทำการตลาดในปีหน้าได้ทันที ส่วนเงินลงทุนเบื้องต้นบริษัทฯ มีกระแสเงินสดรองรับการลงทุนดังกล่าวแล้ว

 

 

 

นายศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน ในวงเงินสูงสุด 30 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 52 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 10% โดยเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.-9 ต.ค.63 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้เริ่มซื้อหุ้นคืนไปแล้ว โดยเชื่อว่าการซื้อหุ้นคืนจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้ และในฐานะฝ่ายบริหารจะพยายามบริหารจัดการให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตในระยะยาว

 

 

 

TKN        ZIGA