Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

HotNews : 6 แบงก์ใหญ่ พร้อมใจลดดอกเบี้ย 0.40%

3,718

HotNews : 6 แบงก์ใหญ่ พร้อมใจลดดอกเบี้ย 0.40%

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์  (9 เมษายน 2563)  6 แบงก์ใหญ่  KBANK,SCB,BBL,BAY,ทีเอ็มบี-ธนชาต, KTB พร้อมใจประกาศ ลดดอกเบี้ย MLR, MOR และ MRR  ลง  0.40%   มีผล 10 เม.ย.นี้  บรรเทาภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้า ช่วยฝ่าวิกฤติโควิด-19

 

 

 

 

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยพร้อมสนับสนุนกลไกภาครัฐเพื่อช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคาร โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR และ MRR ทันทีอีก 0.40% หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 ทำให้อัตราดอกเบี้ย MLR ปรับลดมาอยู่ที่ระดับ 5.60% MOR และ MRR ปรับลดมาอยู่ที่ระดับ 6.22% และ 6.10% ตามลำดับ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการอื่น ๆ ที่ธนาคารได้มีการประกาศใช้เพื่อให้ความช่วยเหลือและลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้าของธนาคารอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการช่วยดูแล และประคับประคองลูกค้าของธนาคารให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตไปได้

 

 

ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ธนาคารปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเท่านั้น ยังไม่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงแต่อย่างใด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

 

 

 

 


ด้านนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) SCB เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างรุนแรงและยังไม่สามารถคาดการณ์ระยะเวลาสิ้นสุดได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวแรงจากภาวะชะงักงันในภาคธุรกิจ และเพื่อตอบสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้ประกาศมาตรการปรับลดอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ (Financial Institutions Development Fund: FIDF) ของธนาคารพาณิชย์

 

 

ธนาคารฯจึงใคร่ขอประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้าธนาคารฯโดยเร่งด่วน

 

ธนาคารฯ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพิ่มเติม 0.40% โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทแบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) หรือ MLR ปรับลดจาก 5.775% เป็น 5.375% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) หรือ MOR ปรับลดลงจาก 6.495% เป็น 6.095% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) หรือ MRR ปรับลดลงจาก 6.745% เป็น 6.345% ทั้งนี้ ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาระดอกเบี้ยที่ลดลงดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าสินเชื่อรายย่อยมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และช่วยให้ลูกค้าสามารถฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ในที่สุด

 

 

นอกจากมาตรการข้างต้นแล้ว ธนาคารฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเพิ่มมาตรการต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าและธนาคารฯ สามารถฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่นี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ธนาคารกรุงเทพ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภท เอ็มแอลอาร์ เอ็มโออาร์ และเอ็มอาร์อาร์ ลง 0.40% เพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและประชาชนลดต้นทุนทางการเงินรับมือโรคโควิด 19 และหวังช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

 


นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ 3 ประเภท ลง 0.40% ทั้ง เอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) เอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) และเอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

 

 


สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและประชาชนในเรื่องการลดต้นทุนด้านอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของต้นทุนการดำเนินธุรกิจและลดภาระของประชาชน เพื่อเสริมศักยภาพในการรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

 

 


"ธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะประคับประคองให้ลูกค้าผู้ประกอบการและประชาชนสามารถผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมในช่วงที่มีความเปราะบางทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพได้ให้การดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการให้มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงาน และช่วยเหลือประชาชนในการลดภาระทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนมาตรการของภาครัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)" นายสุวรรณ กล่าว

 

 

 

 


นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรุงศรีพร้อมช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคารที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) และพร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ โดยประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพื่อช่วยบรรเทาภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้า หลังจากที่ได้เคยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563

 

 

กรุงศรีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR และ MRR เพิ่มเติม 0.40% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยใหม่เป็นดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate หรือ MLR) ปรับลดลงจาก 6.23% เป็น 5.83%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate หรือ MOR) ปรับลดลงจาก 6.70% เป็น 6.30%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate หรือ MRR) ปรับลดลงจาก 6.70% เป็น 6.30%

 

 

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ที่ธนาคารได้ออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนถึงความห่วงใยและมุ่งมั่นช่วยเหลือลูกค้าเพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันเดินหน้าและผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

 

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

 

 

 

 

 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด -19 ที่ยังคงส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเกิดการชะลอตัว ดังนั้น เพื่อแบ่งเบาภาระต้นทุนทางการเงินของลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีและลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และตอบสนองนโยบายของภาครัฐในการกระตุ้นสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ ทีเอ็มบีและธนชาต ขอประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR (Minimum Lending Rate), MOR (Minimum Overdraft Rate) และ MRR (Minimum Retail Rate) ลง 0.40% โดย MLR จาก 6.65% เหลือ 6.25% MOR จาก 6.675% เหลือ 6.275% และ MRR จาก 7.03 เหลือ 6.63% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

 

พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการ SME เพิ่มเติม ดังนี้


• ลูกค้า SME ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท สามารถพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน ตั้งแต่ เม.ย. 63 - ก.ย. 63 เพื่อช่วยให้มีสภาพคล่องทางธุรกิจ


• สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท ทางธนาคารสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (soft loan) วงเงินกู้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธ.ค. 62 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2% เป็นเวลา 24 เดือน


สำหรับรายละเอียด ธนาคารจะแจ้งให้ทราบต่อไป

 


ทั้งนี้ ธนาคารทีเอ็มบี และ ธนาคารธนชาต ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่องทั้งลูกค้ารายย่อย ลูกค้าธุรกิจ ลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ ซึ่งลูกค้าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของธนาคาร ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมที่ออกมาในครั้งนี้ ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าธนาคารให้มีสภาพคล่องในการใช้ชีวิตและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์โควิด - 19

 

 

 

 

 

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการพยุงเศรษฐกิจ และพร้อมสนับสนุนกลไกของภาครัฐ ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระและลดต้นทุนทางการเงินของลูกค้าสินเชื่อทั้งภาคธุรกิจและลูกค้ารายย่อย ตลอดจนประชาชน ธนาคารจึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลงอย่างละ 0.40% ต่อปี โดย MLR เหลืออัตรา 5.375% ต่อปี MOR เหลืออัตรา 6.220 % ต่อปี และ MRR เหลืออัตรา 6.345% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

 

 

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งมาตรการเพิ่มเติมจากมาตรการอื่น ๆ ที่ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือและลดภาระให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน การสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยธนาคารมีเป้าหมายเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ รวมทั้งช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

 

 

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า Bank เป็นลบจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้มากกว่าต้นทุนที่ลดลง...โดย KBANK และ SCB ประกาศลดดอกเบี้ย MLR , MOR และ MRR ลง 0.4% มีผลตั้งแต่ 10 เม.ย.63 ถือว่าเป็น 2 Bank แรกที่ประกาศลดดอกเบี้ยตามนโยบายของ BOT จากก่อนหน้านี้ที่ BOT ลดเงินนำส่งกองทุน FIDF จาก 0.46% ลงเหลือ 0.23% ทำให้กระทบต่อ NIM ของ Bank โดยเราคาดว่า Bank ที่เหลือจะประกาศดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราเดียวกัน

 

 

 

กลายเป็น Bank ขนาดเล็กได้เปรียบกว่า Bank ใหญ่...เราคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งนี้จะกระทบกับ Bank ใหญ่อย่าง BBL , KTB , KABNK , SCB , TMB และ BAY ตามลำดับ เนื่องจากเงินกู้ส่วนใหญ่อิงกับดอกเบี้ยทั้ง 3 ประเภท ในสัดส่วนที่มาก ในขณะที่ Bank เล็กอย่าง TISCO และ KKP ได้ประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ เนื่องจากสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อซึ่งอิงดอกเบี้ยแบบ Fixed Rate ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยกว่า (Aira Research)

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER สร้างคุณค่าที่มากกว่ายาง มอบรถพยาบาลกู้ชีพขั้นสูง... สานภารกิจช่วยชีวิต

หลายคนตระหนักดีว่ารถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพขั้นสูงมีความจำเป็นอย่างมากในการให้บริการฉุกเฉินทางการแพทย์ รถพยาบาลสามารถ

สมเด็จฮุน เซน สุมไฟ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ สมเด็จฮุน เซน สุมไฟ การเมืองไทย ผ่าน โซเซียล มีเดีย ทำให้ได้เห็น ได้ฟัง....เรียกว่า

"ยูเอซี" ผนึก 3 ภาคส่วน ภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคประชาสังคม เซ็น MOU พัฒนาต้นแบบระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

"ยูเอซี" ผนึก 3 ภาคส่วน ภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคประชาสังคม เซ็น MOU พัฒนาต้นแบบระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

มัลติมีเดีย

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้