Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

รายงานพิเศษ : KTIS ความหวานที่ลงตัว (ภาคแรก)

1,804

 
 
 
 
 

รายงานพิเศษ :  KTIS  ความหวานที่ลงตัว (ภาคแรก)
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 27 ตุลาคม 2560 ) ------ ก้าวต่อไปของ KTIS  หลังจากปิดงบQ2/60  ด้วยรายได้รวม 7,746.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.5%  ตัวเลขกำไรสุทธิ 561.5 ล้านบาท  โต 498.9%  จากไตรมาสเดียวกันของปี 59  เป็นอะไรที่น่าติดตาม ชวนเกาะติดในห้วงที่ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลประกาศงบไตรมาส3/60  .....
ยิ่งเห็นผลงานครึ่งปีแรกพลิกมีกำไร  973.5 ล้านบาท  จากปีก่อนขาดทุน  512.53   ล้านบาท    อาจจะเป็นตัวบ่งชี้  ตัวสะท้อนศักยภาพการจ่ายเงินปันผล ด้วยผลตอบแทนที่งดงามให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่อย่างไร.........  ซึ่งตามนโยบาย  KTIS  ตั้งธงปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50.0 ของกำไรสุทธิ
เป้าหมายปรุงความกลมกล่อมของผลประกอบการปีนี้  KTIS  มุ่งหวังให้เป็นความหวานที่ลงตัว ด้วยเป้าหมายรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท โตจากปี59 ไม่น้อยกว่า 30%   โกยผลผลิตอ้อยเพิ่มมากขึ้นกว่าปีการผลิตก่อนหน้า 15.4% และคุณภาพอ้อยดีมาก ทำให้ผลิตน้ำตาลได้เพิ่มขึ้นถึง 29.9%  เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ปีนี้เกือบทุกสายธุรกิจมีผลการดำเนินงานที่ดี

จุดกำเนิด กลุ่ม KTIS เดิมรู้จักในนามกลุ่มน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ก่อตั้งโดยคุณจรูญ และคุณหทัย ศิริวิริยะกุล ในช่วงปีพ.ศ. 2500 โดยเริ่มจากการเป็น ผู้กระจาย สินค้าน้ำตาลและก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตน้ำตาลในเวลาต่อมา จากความสำเร็จของกิจการโรงงานน้ำตาลแห่งแรก กลุ่ม KTIS ได้ขยายกิจการ อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน กลุ่ม KTIS ได้ก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลและผลพลอยได้จากน้ำตาล แบบครบวงจร โดยมีบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) เป็นบริษัทแม่ ดำเนินธุรกิจในเครือ ประกอบด้วยโรงงานน้ำตาลจำนวน 3 แห่ง ธุรกิจ Bio Product และ Bio Energy ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาล ได้แก่ โรงงานเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย โรงงานเอทานอลจากกากน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อย ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำตาลทราย และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจร
กลุ่ม เคทิส เป็นกลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำตาลทรายอย่างครบวงจรรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ โดยกลุ่มบริษัทฯ มีโรงงานผลิต น้ำตาลทรายทั้งสิ้น 2 โรงงาน และดำเนินการเช่าโรงงานน้ำตาลอีกหนึ่งแห่ง นอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิตเอทานอล โรงงานผลิตเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานผลิตวัสดุปรับปรุงดินชีวภาพ ณ ปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจทั้งสิ้น 2 ประเภทคือ
1. ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำตาลทรายบริษัทฯ ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำตาลทรายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศผ่าน KTIS, TIS และ KTIS สาขา 3 โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (Refined Sugar) น้ำตาลทรายขาว (White Sugar) และน้ำตาลทรายดิบ (Raw Sugar)
2. ธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่องกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายของบริษัทฯ ทำให้เกิดธุรกิจต่อเนื่องจากการนำวัสดุเหลือใช้และของเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาลอาทิกากน้ำตาล และชานอ้อยไปเข้าสู่กระบวนการผลิตในบริษัทย่อย โดยธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่องดังกล่าวได้แก่
(1) ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อยและบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเยื่อชานอ้อยบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย ผ่าน EPPCOโดยนำชานอ้อย ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้มาทำกระบวนการต่อ โดยโรงงานเยื่อกระดาษของบริษัทฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกลกับโรงงานน้ำตาลทรายของกลุ่มบริษัทฯ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ EPPCO สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดได้แก่ เยื่อกระดาษแห้งเยื่อกระดาษเปียก และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเยื่อชานอ้อย
(2) ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเอทานอลบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเอทานอลผ่าน EPCโดยใช้วัตถุดิบหลักคือกากน้ำตาล จากโรงงานน้ำตาลทรายของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เอทานอล ปัจจุบัน EPC ผลิตและจัดจำหน่ายเอทานอล 2 เกรดได้แก่ เอทานอลที่ใช้ในอุตสาหกรรม (Industrial Alcohol) และเอทานอลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง (Fuel Alcohol)
(3) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าบริษัทฯ มีหน่วยผลิตไฟฟ้าและไอน้ำในโรงงานน้ำตาลทรายและโรงงานเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย โดยใช้ชานอ้อยซึ่งเป็นกากของเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาลมาเป็นวัตถุดิบหลักนำไอน้ำและไฟฟ้าที่ผลิตได้ไปใช้ในกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายของกลุ่มบริษัทฯ ทั้ง 3 โรงงาน และในกระบวนการผลิตของโรงงานอื่นในกลุ่มบริษัทฯ และจำหน่ายไฟฟ้าส่วนที่เหลือให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท KTBP ซึ่ง ปัจจุบันได้ดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ใน ระบบโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตทั้งสิ้น 60 เมกะวัตต์แล้วและมีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล TEPและ RPBP ซึ่งมีขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ต่อโรง ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดนครสวรรค์
(4) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุปรับปรุงดินชีวภาพบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุปรับปรุงดินชีวภาพ ผ่าน KTBF โดยใช้กากตะกอนหม้อกรอง (Filter cake)ซึ่งเป็นของเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาล และน้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพและการผลิตเอทานอล นำมาผลิตเป็นวัสดุปรับปรุงดินชีวภาพ ทั้งชนิดเป็นผง ชนิดเม็ด และชนิดน้ำ

KTIS   แปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชน เมื่อปีพ.ศ.2556 ต่อมาได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 3,274,573,000 บาทเป็น 3,888,000,000 บาท และนำหุ้น เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีพ.ศ. 2557 และมีชื่อย่อหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า "KTIS" และในปี พ.ศ. 2558 บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3,888,000,010 บาทโดยมีทุนจดทะเบียนชาระแล้วจำนวนทั้งสิ้น 3,860,000,010 บาท
KTIS   มีเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจ ที่มุ่งเน้นให้เกิดการเติบโตและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นองค์กรชั้นนำในด้านการผสมผสานระหว่างการเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ผ่านการพัฒนาโครงข่ายและเชื่อมโยงธุรกิจทั้งภายในและภายนอกองค์กรเข้าด้วยกัน อันจะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของคุณค่าและมูลค่าทางธุรกิจ ในด้านการผลิตน้ำตาลและสารให้ความหวาน การผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล การผลิตเอทานอล การผลิตเยื่อกระดาษจากชานอ้อย การผลิตวัสดุปรับปรุงดินชีวภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์และผลิตพลอยได้ของกลุ่มบริษัทฯ จะมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
***เป้าหมายในการประกอบธุรกิจ***
(1) การเป็นผู้นำด้านธุรกิจอ้อยบริษัทฯ มีการพัฒนาธุรกิจงานด้านต้นนำในการคัดสรรพันธุ์อ้อยและเทคโนโลยีการจัดการไร่อ้อยการให้ความรู้ด้านวิชาการต่อชาวไร่อ้อยการพัฒนาเครื่องมือและจักรกลการเกษตร การใช้สารปรับปรุงดินซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ทำให้ชาวไร่อ้อยและวัตถุดิบอ้อยของบริษัทฯ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเกิดความมั่นคงในการสนับสนุนการผลิต
(2) การเป็นผู้นำด้านธุรกิจน้ำตาลบริษัทฯ มีการพัฒนาและลงทุนงานในด้านการผลิตน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง มีกำลังการผลิตต่อวันขนาดใหญ่มากทำให้เกิดการได้เปรียบในเชิงเศรษฐศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิต เพื่อลดต้นทุนการใช้พลังงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ โดยในปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการแปรรูปน้ำตาลทรายดิบ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และผลิตภัณฑ์น้ำเชื่อมคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์หลักและแสดงถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำตาลของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
(3) การเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวลบริษัทฯ ได้มีการลงทุนและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ทำให้บริษัทฯ มีกำลังผลิตโรงไฟฟ้าที่ใหญ่และมีรายได้ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับการจัดหาเชื้อเพลิงมาป้อนให้กับโรงไฟฟ้า บริษัทฯ ได้มีการนำชานอ้อยซึ่งเกิดจากการผลิตของโรงงานน้าตาลมาเป็นเชื้อเพลิงเสริมส่งผลให้เกิดการบูรณาการงานด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมระดับชั้นนำที่เกื้อหนุนให้เกิดการเพิ่มคุณค่าห่วงโซ่ทางธุรกิจได้มากขึ้น
(4) การเป็นผู้น้ำด้านธุรกิจผลิตภัณฑ์จากชีวมวลบริษัทฯ ได้มีการลงทุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากการผลิตเยื่อกระดาษจากชานอ้อยที่มีอยู่เดิมให้มีมูลค่าและคุณค่าทางธุรกิจและคุณค่าเพื่อสังคมเพิ่มขึ้น ผ่านการนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพสูงและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคในการที่จะนำมาใช้เป็นภาชนะเพื่อใส่อาหาร
(5) การเป็นผู้นำด้านธุรกิจเอทานอลบริษัทฯ ได้มีการนำกากน้ำตาลหรือที่เรียกกันว่า โมลาส มาทำการเพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตเป็นเอทานอลคุณภาพสูงเกรดสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงและเกรดสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม และบริษัทฯ ยังได้มีการต่อยอดการผลิต BIO Gas ซึ่งเป็นผลผลิตพลอยได้จากการผลิตเอทานอล ส่งผลให้สายการผลิตและโครงข่ายธุรกิจของบริษัทฯ มีความเป็นผู้นำของธุรกิจและเป็ นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทำงาน
(6) การเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์วัสดุปรับปรุงดินชีวภาพบริษัทฯ ได้มีการนาเอาผลผลิตพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลและการผลิตเอทานอล มาสร้างมูลค่าและคุณค่าเพิ่มด้วยการนำมาผลิตเป็นวัสดุปรับปรุงดินชีวภาพ เพื่อทำให้พื้นที่ปลูกอ้อยและพื้นที่การเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดียิ่ง


โปรดติดตามภาคจบ......................

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้